พบเหยื่ออีโบล่าเพิ่ม หลังเซียร์ราลีโอนปิดประกาศ

ชาวเซียร์รา ลีโอน สามารถออกนอกบ้านได้ตามปกติในวันนี้ หลังจากรัฐบาลปิดประเทศภายใต้มาตรการสูงสุดที่ห้ามประชาชน 6 ล้านคน ออกจากบ้านเรือนเป็นเวลา 72 ชั่วโมง เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบล่า ที่คร่าชีวิตผู้ติดเชื้อในเซียร์ราลีโอน,ไลบีเรียและกินี ไปแล้วกว่า 2,600 คนในปีนี้ โดยเฉพาะเซียร์ราลีโอนมีผู้เสียชีวิตกว่า 550 คน

ในระหว่างการปิดประเทศ อาสาสมัคร 30,000 คน เดินเคาะประตูตามบ้านเพื่อแจกสบู่และให้คำแนะนำเพื่อยับยั้งการติดต่อของโรคและพบศพเหยื่ออีโบลา 92 รายและผู้ติดเชื้อ 56 ราย นอกจากนี้ทีมแพทย์สามารถและทีมฝังศพสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับผู้ป่วยและศพจำนวนมากได้ดีขึ้น

ส่วนที่ไลบีเรียมีการระบาดหนักสุด มีการเพิ่มเตียงผู้ป่วยอีก 4 เท่าเป็น 1000 เตียงในกรุงมอนโรเวียเพื่อเตรียมรับมือกับการระบาด ซึ่งองค์การอนามัยโลก เตือนว่าไลบีเรีย ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 1,100 คน อาจมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ๆอีกหลายพันคน และทหารสหรัฐชุดที่สอง เดินทางถึงมอนโรเวียเมื่อวันเสาร์ เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ไลบีเรียต่อสู้กับไวรัสมรณะ ซึ่งจะมีการฝึกอบรมให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของไลบีเรีย และตั้งศูนย์ศูนย์รักษาผู้ป่วยอีโบลาแห่งใหม่ 


เจ้าหน้าที่สาธารณนสุขไลบีเรีย ระบุว่า การยับยั้งการแพร่ระบาดของอีโบลาเผชิญอุปสรรคจากจารีตประเพณีของชุมชนที่ยังไม่สนใจคำเตือนให้อยู่ให้ห่างจากศพที่ติดเชื้อ พวกเขายังคงฝังศพกันเองตามความเชื่อ และที่สำคัญคือ พวกเขายังคงทำความสะอาดศพที่ติดเชื้อโดยอ้างว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ 

ส่วนที่ไนจีเรีย พบว่า นักเรียนหลายพันคนกลับเข้าเรียนแล้วในวันนี้ หลังจากต้องหยุดเรียนเพราะการระบาดของอีโบลา ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 8 คน แต่กรุงลากอส ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ ที่มีทั้งโรงเรียนประถมและมัธยม จะยังไม่เปิดจนกว่าจะถึงวันที่ 8 ต.ค.เพื่อให้มีเวลาในการดำเนินการด้านสุขอนามัยและแจกจ่ายสิ่งป้องกันอื่นๆ ให้กับโรงเรียน