ตร.อินโดนีเซียจับกุมชาวต่างชาติ 4 คน สงสัยพัวพันกลุ่มไอเอส

ตำรวจอินโดนีเซียจับกุมชาวต่างชาติ 4 รายที่ต้องสงสัยมีส่วนพัวพันกับกลุ่มนักรบมุสลิมหัวรุนแรงในท้องถิ่น ขณะที่ทางการพยายามสกัดกั้นไม่ให้พลเมืองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มไอเอสที่กำลังก่อการร้ายอยู่ในอิรักและซีเรีย โดยผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นชายทั้งหมดถูกจับพร้อมกับชาวอินโดนีเซียอีก 3 คน ใกล้กับเมืองโพโซบนเกาะสุลาเวสีทางตะวันออกของประเทศขณะพยายามหลบหนีเข้าไปในภูเขา
ตำรวจเปิดเผยว่า ชาวต่างชาติทั้ง 4 คนเดินทางมาจากตุรกีโดยใช้พาสปอร์ตปลอม พูดภาษาอุยกูร์ซึ่งเป็นภาษาของชาวมุสลิมที่มีถิ่นฐานอยู่ในมณฑลซินเจียงทางตะวันเฉียงเหนือของจีน ประเทศคาซัคสถาน และอุซเบกิสถาน และมีจุดประสงค์เพื่อเข้าร่วมกลุ่มก่อการร้ายซานโตโซ ซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายในท้องถิ่นที่ทางการต้องการตัว
รายงานเมื่อเดือนที่แล้วจาก ซูฟาน กรุ๊ป ซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลให้กับรัฐบาลระบุว่า มีชาวอินโดนีเซียที่เดินทางไปซีเรียเพื่อร่วมรบกับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงแล้วกว่า 200 คน ทำให้ประธานาธิบดีซูลิโล บัมบัง ยูโดโยโน่ ประกาศว่า จะเพิ่มการสอดส่องชาวอินโดนีเซียและชาวต่างชาติที่มีส่วนพัวพันกับกลุ่มนี้และพำนักอยู่ในประเทศให้เข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะการออกวีซ่าให้ผู้ที่จะเดินทางไปตะวันออกกลาง
ขณะเดียวกันรัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศสเปิดเผยเมื่อวานนี้ ระบุว่ามีชาวฝรั่งเศสประมาณ 930 คน ซึ่งรวมถึงผู้หญิงอีก 60 คน มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอส โดย 180 ได้เดินทางกลับออกมาจากซีเรีย 170 คนกำลังเดินทางไป และอีก 230 คนกำลังมีแผนจะเดินทางไปร่วมกับกลุ่มไอเอส โดยจนถึงขณะนี้มีชาวฝรั่งเศสที่เข้าร่วมและเสียชีวิตแล้ว 36 คน
ส่วนในวันนี้ ฝรั่งเศสได้เริ่มเปิดการประชุมนานาชาติในกรุงปารีสเพื่อหารือเรื่องสถานการณ์ความมั่นคงในอิรักและการปราบปรามไอเอส โดยประธานาธิบดีฟรองซัว โอลลองด์ กล่าวเรียกร้องให้นานาชาติสนับสนุนรัฐบาลอิรักและกลุ่มกบฎสายกลางในซีเรีย นอกจากนี้ฝรั่งเศสยังได้เริ่มปฏิบัติการบินสอดแนมทางอากาศในอิรักเพื่อช่วยเหลืออังกฤษและสหรัฐฯ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาด้วย