ดร.ทอม ฟรี้ดเด้น ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือ CDC ของสหรัฐที่อยู่ระหว่างเยือนไลบีเรีย กล่าวว่า การระบาดของไวรัสอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก เลวร้ายกว่าที่เขาวิตก โดยทุกวันนี้การระบาดยังมีอยู่ และเพิ่มความเสี่ยงที่จะแพร่ไปยังประเทศอื่น ถ้าโลกหันมาร่วมมือกันช่วยเหลือไลบีเรียและแอฟริกาตะวันตกได้เร็วเท่าไหร่ ความปลอดภัยก็จะเกิดขึ้น เขาบอกด้วยว่า โลกไม่เคยเห็นการระบาดของอีโบลาเลวร้ายเท่าครั้งนี้มาก่อน และรู้ดีว่ายังมีจำนวนผู้ติดเชื้อที่ไม่ได้รับการตรวจหรือรายงานอีกจำนวนมาก
ปัจจุบันตัวเลขจากองค์การอนามัยโลกหรือดับเบิลยูเอชโอ ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตเพียง 1,427 คนจากจำนวนผู้ติดเชื้อ 2,615 คน โดยไลบีเรียมีผู้เสียชีวิตมากที่สุด และดับเบิลยูเอชโอ ยอมรับว่าตัวเลขที่แท้จริงสูงกว่านี้มากเพราะยังมีอุปสรรคจากการที่ชุมชนต่อต้านบุคลากรการแพทย์ ผู้ป่วยหลบซ่อนตัว และเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ระบาดได้
นอกจากนี้ผู้ประสานงานของกลุ่มแพทย์ไร้พรมแดนในเซียร์ราลีโอน บอกว่า อีโบลาระบาดเกินกว่าจะควบคุมได้มาหลายเดือนแล้ว แต่ความพยายามของนานาชาติเพื่อยับยั้งการระบาดยังมีน้อยมากจนน่าอันตราย
ขณะเดียวกัน ดับเบิลยูเอชโอ ระบุว่า อีโบลาคร่าชีวิตบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขไปแล้ว 120 คน จากผู้ติดเชื้อกว่า 240 คน ซึ่งสาเหตุมาจากหลายปัจจัย รวมทั้งการขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกัน และการใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่อย่างไม่เหมาะสม
และนักระบาดวิทยาชายชาวเซเนกัล ที่ทำงานเป็นที่ปรึกษาให้ดับเบิลยูเอชโอในเซียร์ราลีโอน ถูกส่งตัวไปถึงเมืองฮัมบวร์กของเยอรมนีเมื่อวานเพื่อรักษาตัวแล้ว แต่แพทย์ที่ให้การรักษา บอกว่า จะไม่ใช้ยาที่ยังอยู่ระหว่างการทดลองเพื่อรักษาเจ้าหน้าที่คนนี้ โดยจะเน้นให้การรักษาตามอาการ
ขณะที่ประเทศที่เป็นแหล่งระบาดของอีโบลา อย่าง กินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอนถูกโดดเดี่่ยวจากนานาชาติมากขึ้น โดยมีอีกหลายสายการบินทยอยประกาศระงับเที่ยวบินไปประเทศเหล่านี้ ล่าสุดแอร์ฟรานระงับเที่ยวบินไปเซียร์ราลีโอน หลังจากบริติช แอร์เวยส์ระงับเที่ยวบินไปไลบีเรียและเซียร์ราลีโอนจนถึงปีหน้า