อิสราเอล - ฮามาส ตกลงหยุดยิงระยะยาว

ชาวปาเลสไตน์รวมตัวตามท้องถนนในฉนวนกาซา โบกธง โห่ร้องเต้นรำด้วยความยินดี ตลอดจนบีบแตรรถยนต์ หรือยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อเฉลิมฉลองเมื่อวาน หลังข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสระยะยาวที่ไม่มีกำหนดเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 1 ทุ่มตรงตามเวลาท้องถิ่นหรือ 5 ทุ่มตามเวลาไทย แม้ว่าก่อนหน้านั้นจะเกิดเหตุรุนแรงจนถึงนาทีสุดท้าย โดยมีกระสุนปืนถูกยิงจากฉนวนกาซาเข้าไปในอิสราเอลทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คนและบาดเจ็บ 6 คน และก่อนหน้านั้นในวันเดียวกันอิสราเอลโจมตีทางอากาศในกาซาหลายระลอกทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน
ประธานาธิบดีมาห์มุด อับบาสของปาเลสไตน์ กล่าวในเมืองรามัลลาห์ ในเขตเวสต์แบงก์ว่า เขาหวังว่าการหยุดยิงครั้งนี้จะเป็นการยุติการสู้รบที่ยั่งยืนยาวนาน เพื่อให้ปาเลสไตน์สามารถฟื้นฟูบ้านเมืองที่เสียหายย่อยยับจากการทำลายของศัตรู
ข้อตกลงหยุดยิงครั้งนี้บรรลุผลในการเจรจาที่กรุงไคโรของอียิปต์ หลังจากความพยายามหยุดยิงล้มเหลวหลายรอบ และรายละเอียดของข้อตกลงกำหนดให้ทั้งอิสราเอลและฮามาสยุติการโจมตีซึ่งกันและกัน อิสราเอลต้องยกเลิกการปิดกั้นพรมแดนฉนวนกาซาที่ติดกับอียิปต์ และขยายเขตทำประมงของฉนวนกาซาในทะเลเมดิเตอเรเนียนจาก 3 ไมล์ทะเลนอกชายฝั่งเป็น 6 ไมล์ทะเลนอกชายฝั่ง
นอกจากนี้ฮามาสที่ควบคุมพื้นที่ฉนวนกาซา ยินดีให้กองกำลังรักษาความมั่นคงประธานาธิบดีอับบาส และรัฐบาลปรองดองแห่งชาติ ที่ตั้งขึ้นโดยกลุ่มฟาตาห์ของอับบาสและกลุ่มฮามาสควบคุมด่านข้ามพรมแดน
ส่วนมาตรการระยะสองของข้อตกลงกำหนดให้อิสราเอลและปาเลสไตน์เริ่มการเจรจาภายในหนึ่งเดือนเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างท่าเรือและสนามบินในฉนวนกาซา และอิสราเอลต้องปล่อยตัวนักโทษฮามาส 100 คน แลกกับการส่งคืนศพของทหารอิสราเอลที่เชื่อว่าถูกฮามาสจับไป ขณะที่ฮามาสต้องปลดอาวุธ
โฆษกกลุ่มฮามาส ประกาศว่า ข้อตกลงหยุดยิงครั้งนี้เป็นชัยชนะของความพยายามต่อสู้ เป็นชัยชนะของฉนวนกาซา และบอกให้ทหารอิสราเอลกลับบ้านไป
และมีรายงานว่า ชาวปาเลสไตน์เริ่มเก็บข้าวของออกจากศูนย์อพยพเพื่อกลับเข้าบ้านเรือน หลังการโจมตีทางอากาศและพื้นดินของอิสราเอลสร้างความเสียหายย่อยยับแก่ฉนวนกาซา
นักวิเคราะห์มองว่า การสู้รบระหว่างอิสราเอลและฮามาสครั้งนี้ไม่มีใครเป็นผู้ชนะที่แท้จริง ยุทธการปกป้องชายแดนของอิสราเอลที่เริ่มขึ้นเมื่อ 8 ก.ค.ด้วยการโจมตีทางอากาศก่อนขยายเป็นการสู้รบภาคพื้ดิน ทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 2,140 คนซึ่งรวมถึงเด็กกว่า 490 คน บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 17,000 หลัง และมีชาวอิสราเอลเสียชีวิต 69 คน นอกจากนี้เป้าหมายทางทหารของฮามาสหลายพันจุดและเครือข่ายอุโมงค์ลับของฮามาสถูกทำลาย รวมทั้งระดับแกนนำของของกลุ่มถูกสังหาร
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีเบนยามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลอาจเผชิญเสียงวิจารณ์อย่างดุเดือดจากนักการเมืองหัวรุนแรง กรณียอมอ่อนข้อตามข้อเรียกร้องของฮามาสแทนที่จะกำจัดฮามาสให้ราบคาบ แต่ทั้งกระทรวงต่างประเทศสหรัฐและบัน คี-มุน เลขาธิการสหประชาชาติต่างแถลงแสดงความแสดงความยินดีกับข้อตกลงหยุดยิง