คองโกอาจมีผู้เสียชีวิต ด้วยอีโบลา 13 คน
สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เป็นประเทศล่าสุดที่ยืนยันว่ามีผู้ติดเชื้ออีโบลา โดยอาจมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคนี้ถึง 13 คน แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการระบาดใน 4 ชาติแอฟริกาตะวันตกในขณะนี้
สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกแจ้งว่า ผลการทดสอบในห้องแลบยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสอีโบลา 2 รายในหมู่บ้าน เกร่า จังหวัด อิเควเตอร์ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 11 รายอยู่ในข่ายสงสัยติดเชื้อด้วย โดยผู้เสียชีวิตเหล่านี้มีแพทย์ 1 คนและพยาบาล 4 คนรวมอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่ระบุว่าไวรัสอีโบลาที่ระบาดในคองโกเป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างจากการระบาดในแอฟริกาตะวันตก และการระบาดครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกนับตั้งแต่พบไวรัสชนิดนี้ครั้งแรกใกล้แม่น้ำอีโบลาในประเทศนี้เมื่อปี 2519 ทางการได้สั่งกักโรคในพื้นที่ที่พบการระบาดแล้ว ซึ่งพื้นที่นี้อยู่ห่างจากกรุงคินชาซ่า เมืองหลวงกว่า 1,200 กม
การระบาดของคองโกเกิดขึ้นในขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วโลกกำลังเร่งควบคุมการระบาดในไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน กินี และไนจีเรีย ที่ที่มียอดผู้เสียชีวิตรวมกันถึง 1,427 คนจากจำนวนผู้ติดเชื้อ 2,615 คน
ล่าสุดองค์การอนามัยโลกแจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่ของอนามัยโลกติดเชื้ออีโบลาเป็นรายแรกด้วย โดยให้รายละเอียดเพียงว่าเป็นนักระบาดวิทยา แต่ไม่ได้ระบุเชื้อชาติ เพศ หรืออายุ เจ้าหน้าที่ถูกส่งไปปฏิบัติหน้าที่ในเซียร์ราลีโอน และขณะนี้ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีและกำลังพิจารณาที่จะอพยพเจ้าหน้าที่รายนี้ออกจากเซียร์ราลีโอน
ขณะเดียวกันบุรุษพยาบาลชาวอังกฤษที่ติดเชื้ออีโบลา เดินทางออกจากเซียร์ราลีโอนถึงอังกฤษแล้วเมื่อวาน กระทรวงกลาโหมอังกฤษ แถลงว่า ผู้ติดเชื้อที่ระบุชื่อเพียง วิลเลียม วัย 29 ปี ถูกส่งตัวไปรักษาที่แผนกแยกโรคของโรงพยาบาลรอยัล ฟรี ในย่านแฮมสตีดในกรุงลอนดอน เขาเป็นชาวอังกฤษคนแรกที่ติดเชื้ออีโบลา โดยเขาติดเชื้อขณะดูแลผู้ป่วยที่โรงพยาบาลในเซียร์ราลีโอน ที่มีพยาบาลติดเชื้อและเสียชีวิตแล้ว 15 คน กระทรวงสาธารณสุขเซียร์ราลีโอน ระบุว่า วิลเลียมเป็นบุรุษพยาบาลอาสาที่เข้าไปทำงานในเมืองเคเนม่า หนึ่งในพื้นที่ที่มีการระบาดหนักที่สุด และตอนนี้ได้กลายเป็นเขตกักโรคแล้ว
ขณะที่ไนจีเรีย ซึ่งมีผู้ติดเชื้ออีโบลา 15 ราย ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว 5 รายพยายามควบคุมการระบาด ท่ามกลางปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ของภาครัฐหยุดงานประท้วงมานานเกือบสองเดือน ล่าสุดแพทย์และพยาบาลเหล่านี้ประกาศจะกลับเข้าทำงานตามปกติในวันนี้แล้วเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของชาติที่เผชิญภาวะฉุกเฉินจากการระบาดของอีโบลา
ส่วนประเทศอื่นๆในภูมิภาคทยอยประกาศมาตรการป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่เข้าสู่ประเทศโดยล่าสุดไอวอรี โคสต์ประกาศปิดพรมแดนที่ติดกับกินีและไลบีเรีย เพียงไม่กี่วันหลังจากเซเนกัล ปิดพรมแดนที่ติดกับกินี และมาตรการเช่นนี้เริ่มทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้บริษัทเอกชนจากต่างประเทศหลายแห่งแห่ถอนตัวออกจากประเทศที่มีการระบาดของอีโบลาด้วย และจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้