2 อเมริกัน ที่ติดเชื้ออีโบล่าออกจากโรงพยาบาลแล้ว
ชาวอเมริกันสองคนที่ติดเชื้ออีโบลาสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ในขณะที่ชาติแอฟริกาเร่งควบคุมการระบาด หลังยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นเป็น 1,350 คน
นายแพทย์ เคนท์ แบรนท์ลีย์ วัย 33 ปี ให้สัมภาษณ์ที่โรงพยาบาล เอโมรี ในเมืองแอตแลต้าเมื่อวานหลังได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้ว่า เหมือนเป็นปาฏิหาริย์ ที่เขากลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้อีกครั้ง ดีใจที่ได้มีชีวิตอยู่ และได้กลับมาหาครอบครัวอีกครั้ง หลังจากเขาติดเชื้อไวรัสอีโบลา ขณะเข้าไปช่วยเหลือผู้ป่วยในไลบีเรียในทวีปแอฟริกา และถูกส่งตัวรักษาที่โรงพบาลเอโมรีนานเกือบ 3 สัปดาห์ โดยเขาได้รับยา Zmapp ซึ่งเป็นตัวยาทดลองที่สกัดจากใบยาสูบขณะอยู่ในไลบีเรีย
นอกจากนี้นางแนนซี่ ไรท์โบล์ มิชชันนารีชาวอเมริกัน วัย 59 ปี ที่ติดเชื้อไวรัสอีโบลาจากไลบีเรียขณะทำงานงานช่วยเหลือผู้ป่วยอีโบลาด้วยเช่นกัน และถูกส่งตัวเข้ารักษาตามหลังนายแพทย์เบนท์ลีย์เพียงไม่กี่วัน ก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้วเช่นเดียวกัน หลังพบว่ามีอาการดีขึ้นเรื่อย ๆ และไม่เป็นอันตรายต่อสาธารณะแล้ว
แม้ว่าทั้งคู่ได้รับการรักษาด้วยตัวยา Zmapp แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจนว่า ยาตัวนี้ช่วยให้ทั้งสองมีอาการดีขึ้นจริงหรือไม่ หรือทั้งสองมีอาการดีขึ้นด้วยตัวเอง
ล่าสุด รายงานจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO พบว่า มีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสอีโบลาแล้ว 1,350 รายจากจำนวนผู้ติดเชื้อ 2,473 ราย โดยไลบีเรียมีผู้เสียชีวิตมากที่สุด 576 คน และเผชิญปัญหามากมายที่เป็นอุปสรรคในการยับยั้งการระบาด
หลังจากรัฐบาลไลบีเรียใช้กฎเคอร์ฟิวและกำหนดพื้นที่กักโรคในกรุงมอนโรเวีย ก็มีเหตุรุนแรงที่ประชาชนพยายามออกนอกเขตจนเกิดการปะทะกับทหารที่เฝ้าคุมพื้นที่ จนต้องยิงแก๊สน้ำตาเข้าสลาย และระหว่างการนำข้าวและน้ำไปแจกจ่ายชาวบ้านในพื้นที่กักโรค ก็มีการยื้อแย่งกันชุลมุนวุ่นวายจนตำรวจต้องใช้ไม้ไล่ นอกจากนี้สถานที่เผาศพในกรุงมอนโรเวียไม่สามารถรองรับศพที่เข้ามาวันละหลายสิบศพได้ จนต้องนำศพไปส่งคืนที่โรงพยาบาล
ส่วนกินี ที่มีการระบาดของอีโบลาเป็นชาติแรกเมื่อต้นปีนี้และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 396 คน ได้ส่งแพทย์และอาสาสมัครไปยังด่านชายแดนที่ติดกับเซียร์ราลีโอนและไลบีเรียเพื่อคัดกรองผู้ที่เข้าออกประเทศ และ เซเนกัล ชาติเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกับกินี สั่งปิดชายแดนรอบใหม่เมื่อวาน หลังจากประกาศใช้เมื่อต้นปีและยกเลิกไปเมื่อเดือน พ.ค.
นอกจากนี้แอฟริกาใต้เป็นประเทศล่าสุดที่ประกาศห้ามผู้โดยสารจากกินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอนเข้าประเทศ เพื่อป้องกันเชื้ออีโบลาเข้าสู่ประเทศ แต่มาตรการนี้ยกเว้นชาวแอฟริกาใต้ที่เดินทางกลับจากชาติเหล่านี้
ขณะที่ประเทศที่มีการระบาดเริ่มประสบปัญหาขาดแคลนเชื้อเพลิง อาหารและสิ่งของจำเป็นเนื่องจากมาตรการห้ามเที่ยวบินของชาติต่างๆแล้ว และองค์การอนามัยโลกย้ำว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องใช้มาตรการห้ามเดินทางหรือห้ามการค้ากับประเทศที่มีการระบาด แต่ขอให้ประเทศเหล่านี้คัดกรองผู้โดยสารที่จะเดินทางออกนอกประเทศ