เมื่อทายาท "ฮูน เซน" มาเยือนไทย?

เพราะหนึ่งในคณะปรากฎชื่อบุตรชายผู้นำกัมพูชาด้วย ติดตามได้ในรายงานพิเศษ "เมื่อทายาท "ฮุน เซน" มาเยือนไทย ?"
การเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกลาโหมของกัมพูชา "พล.อ.เตีย บันห์" ซึ่งนำคณะนายทหารระดับสูงของกัมพูชา เข้าพบ พล.อ.ธนะศักด์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และรองหัวหน้า คสช. ก่อนะเข้าพบหัวหน้า คสช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันรุ่งขึ้นแน่นอนว่านอกผลการหารือของทั้งสองฝ่ายแล้ว ชื่อของ "พล.ท.ฮุน มาเน็ต" รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายสากลกระทรวงกลาโหมกัมพูชา บุตรชายคนโตของผู้นำกัมพูชา สมเด็จ ฮุน เซน ก็น่าจับตาเช่นกัน"พล.ท.ฮุน มาเน็ต" ถือเป็นนายทหารที่ไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งหลักในกองทัพอย่างรวดเร็วด้วยวัยเพียง 36 ปี หลังจบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยเวสปอยต์ สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2542 ก่อนจะคว้าปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ ในนิวยอร์ค และปริญญาเอก ด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยบริสตอล ประเทศอังกฤษ ตำแหน่งสำคัญในชีวิตราชการ คือ ผู้บัญชาการกองกำลังปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากลในสังกัดกองพลน้อยที่ 70 ถือว่าเป็น "หน่วยรบชั้นยอด" ของกัมพูชาที่ได้รับการสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยจากสหรัฐอเมริกาเพื่อใช้ในภารกิจการต่อต้านการก่อการร้าย โดย "ผู้หมวดฮุน มาเน็ต" ใช้เวลาเพียง 13 ปี ในการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งรองผู้บัญชาการทหารบก ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นส่วนใหญ่ยังครองยศ "พันโท" เท่านั้น นอกจากนี้ ยังคุมกำลังในกองพลรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรีกัมพูชา มีกองกำลังติดอาวุธถึง 5,000 นาย เพื่อเป็นกำลังป้องกันการทำรัฐประหารสมเด็จฮุนเซนที่อยู่ในอำนาจมาตั้งแต่ปี 2528พล.ท.ฮุน มาเน็ต มีบทบาทอย่างสูงในเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทพระวิหาร เมื่อต้นปี 2554 โดยมีรายงานว่า เขาได้นำกำลังพลกว่า 1,000 นาย พร้อมรถถังเข้ามาประชิดชายแดนไทย นอกจากนี้ยังถูกวางตัวเป็น "ทายาททางการเมือง" ของสมเด็จ ฮุน เซ็น ด้านหนึ่งเป็นเพราะความเป็นบุตรชายคนโต แต่อีกด้านมาจากบุคลิกส่วนตัวที่เป็นคนเปิดกว้าง ชอบเรียนรู้ ใจเย็น ยิ้มง่าย ชอบเสี่ยงในการลงทุน และชอบออกงานสังคมพบปะสานสัมพันธ์กับผู้คนหลากหลายวงการ