พบศพเจ้าของเรือเซวอลแล้ว

ตำรวจเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า พวกเขาพบศพของนายยู บยอง-อุน มหาเศรษฐีวัย 73  ปี เจ้าของบริษัท ชงแฮจิน มารีน โค. ผู้ให้บริการเรือโดยสาร "เซวอน" ที่ทางการกำลังต้องการตัว หลังเกิดโศกนาฏกรรมเรืออับปาง เมื่อวันที่ 16 เมษายน ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 300 คน    นับเป็นสิ้นสุดการสิ้นสุดปฏิบัติการไล่ล่าครั้งใหญ่ ที่ใช้เวลายาวนานหลายเดือน ตำรวจระบุว่า ศพที่พบ อยู่ในสภาพเน่าสลายเกินกว่าจะหาสาเหตุการเสียชีวิตได้ ที่สวนพลัมในเมืองซอนเชือน ที่อยู่ห่างไปทางใต้ของกรุงโซล ราว 300 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน ตำรวจไม่อาจยืนยันได้ว่า เขาฆ่าตัวตายเองหรือถูกฆ่า แต่ก็พบขวดเปล่าหลายใบอยู่ที่เกิดเหตุ อีกทั้งจุดที่พบก็ใกล้กับบริเวณที่ตำรวจสงสัยมาตลอดว่า นายยูใช้เป็นที่ซ่อนตัว ส่วนหลักฐานจากตรวจสอบทางนิติเวช พบว่า ดีเอ็นเอของศพตรงกับพี่ชายของนายยู และตำรวจหวังว่า จากตรวจสอบเพิ่มเติมด้านพิษวิทยา อาจจะนำไปสู่สาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงได้ 
สำนักข่าวยนฮัพ รายงานว่า ศพของนายยูอยูในสภาพนอนคว่ำหน้า และสวมเสื้อกันหนาวกับหมวก ซึ่งตำรวจได้ส่งศพเข้าไปที่กรุงโซลเพื่อชันสูตร และได้จัดแถลงข่าวเมื่อเวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 07.00 น. ตามเวลาในไทย 
นายยูได้หลบหนีในเวลาไม่นาน หลังจากเรือเซวอลขนาดระวางบรรทุก 6,825 ตัน อับปางและจมลง พร้อมกับผู้โดยสาร 476 คน รวมทั้งเด็กนักเรียนชั้นมัธยม 325 คน ซึ่งตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันในขณะนี้ อยู่ที่ 294 คน และอีก 10 คน ยังหาไม่พบ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้สร้างความตกตะลึงและความโกรธแค้นไปทั่วประเทศ ประธานาธิบดีปัก กึน-เฮ และรัฐบาลของเธอ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในเรื่องการรับมือกับโศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้น
กัปตันและลูกเรือ 14 คน ที่รอดชีวิต กำลังอยู่ระหว่างการถูกดำเนินคดี มีบางคนถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ที่มีโทษสูงสุดขั้นประหารชีวิต  ก่อนหน้านี้ ได้มีการตั้งรางวัลนำจับนายยู จำนวน 500 ล้านวอน หรือราว 15 ล้านบาท และอีก 100 ล้านวอน หรือ 3 ล้านบาท เป็นรางวัลนำจับนายยู แด-คยอน บุตรชายของเขา 
ทางการต้องการสอบสวนนายยูเรื่องยักยอกเงิน หลีกเลี่ยงภาษีและประมาทเลินเล่อ สมาชิกส่วนใหญ่ในครอบครัวของเขาถูกจับไปก่อนหน้านี้ รวมทั้งภรรยาและน้องชาย ส่วนลูกสาวกำลังต่อสู้อยู่ที่ปารีส เพื่อไม่ให้ถูกส่งตัวกลับในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน