มิใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด ที่หนังในดวงใจของ แจ๊ค หม่า จะเป็นคนละ "ตระกูล"(genre) กับภาพยนตร์ที่รักของ บ็อบ ดิแลน และไม่ใช่เรื่องต้องค้นหาเหตุผลอะไร เมื่อ "หนังในความทรงจำ" ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นคนละเรื่องกับหนัง "ลืมไม่ลง" ของ สตีฟ จ๊อบส์
Forrest Gump, JFK, The Godfather และ Direction Home คือ 4 หนังในหัวใจของทั้ง 4 คนดังระดับโลกที่เรากล่าวถึงข้างต้น
แม้การชอบหนังเป็นเรื่องของรสนิยม เป็นเรื่องส่วนตัว แต่ทว่า หนังบางเรื่อง ได้เข้ามามีส่วนในสร้างแรงบันดาลใจ เป็นหลักคิด คำสอนของการใช้ชีวิต และ "มีชีวิต"
ถ้อยคำหลัง คนหนึ่งที่ยืนยันได้ก็คือ ปกรณ์ พงศ์วราภา CEO ของค่ายคุณภาพอย่าง GM Group ที่เป็น "ไม้ยืนต้น" ของวงการสิ่งพิมพ์บ้านเรา มายาวนาน... ผู้บริหารที่น่าจะดูหนังเยอะสุดของประเทศไทยอย่าง ปกรณ์ เคยเล่าให้ผมฟังว่า เขาชอบหลายเรื่องที่สูสีกัน แต่หนึ่งในนั้นคือ The Godfather ในปี 1972 เพราะงานที่ทำมาจากวรรณกรรมชื่อนี้ มีหลายแง่มุมลึกซึ้ง...
"มันไม่ใช่แค่หนังแก๊งสเตอร์นะ เป็นหนังที่สอนการบริหารคนหลายๆ แบบ ดูเรื่องนี้แล้ว ทำให้เข้าใจความเป็นมนุษย์ โดยพ้นไปจากเรื่องของมาเฟียอะไรไป"
เขาได้มุมมมองเชิงลึก ขณะที่บางคนก็ชอบหนังสะท้อนตัวตนของตัวเอง นี่อาจเป็นผลที่ วิชา พูลวรลักษณ์ ใช้เวลาคิดไม่นานในเลานจ์บางกอกแอร์ฯ ที่ชั้น 5 พารากอน เพื่อจะตอบว่า Gladiator คือหน้งในดวงใจของเขา
CEO โรงหนังเบอร์หนึ่งของไทย ให้เหตุผลว่า ชอบที่ตัวละครของเรื่อง มันอดทน ฟันฝ่า ในการต่อสู้กับทุกอุปสรรค เพื่อจะกลับมาเป็นผู้ชนะ การทำธุรกิจก็คล้ายๆกัน มันมีอุปสรรคปัญหาเยอะ ที่ต้องต่อสู้ เดินข้ามอย่างเข้มแข็ง "ผมดูเรื่องนี้แล้ว รู้สึกมีพลังนะ"
ไม่แน่ใจว่า "พลัง" แบบดู Gladiator เหมือน "พลัง" แบบ Star Wars มั้ย แต่ที่แน่ๆ งานต้นทางที่เป็นหนังใหญ่และเป็นวัฒนธรรมป๊อปแฟรนไชส์มา 50 ปีของจอร์จ ลูคัส เป็นหนังในดวงใจของ ปริญ มาลากุล ณ อยุธยา ผู้บริหารของไฮเนเก้น ซึ่งโดดเด่นมากกับหลายอีเวนท์ในบ้านเรา แต่หนังแฟนตาซีไม่ใช่ตระกูล สไตล์ แนวทางที่มี "ผู้รักความเร้าใจบนถนน" เท่านั้นที่ชอบ...
ผู้บริหารที่ดูอบอุ่น ใจดี ลึกซึ้ง อย่าง สุวิทย์ วังพัฒนมงคล ของไฮคิว & โรซ่า แต่มีภาพยนตร์ในหัวใจอันดับ 1 อยู่ในกลุ่มแฟนตาซีด้วยอีกคน และ Back to The Future ก็คือหนังเรื่องนั้น
แฟนแมนยูรุ่นคลาสสิคอย่าง สุวิทย์ บอกว่า มันอาจจะมีหลายแง่มุม แต่เป็นหนังที่ผมจดจำมากในตอนแรกที่ได้ดูและดูซ้ำอีกหลายรอบ "ผมชอบภาคแรกมากที่สุด" เขาบอกแบบไม่ลังเลเมื่อถามว่า ชอบภาคไหน
วู้ดดี้ อัลเลนบอกกับนิตยสาร sight & sound ว่า ทุกคนมักรักหนังที่เป็นตัวแทนในยุคสมัยของเขา ความหมายนี้ ถ้อยความนี้ คำพูดนี้ น่าจะครอบคลุมถึงหัวใจของคนข่าวคลาสสิคอย่าง สุทธิชัย หยุ่น
"ผมเลือก Gone With The Wind มันเป็นความหมายหลายๆ อย่างนะ ทั้งคลาสสิค เข้มข้นทางเนื้อหา และองค์ประกอบทุกอย่างดีหมด" CEO เนชั่นฯ มายาวนานอย่างเขาบอกว่า บางคนดูหนัง 4 ชั่วโมงอาจจะเบื่อ แต่ "วิมานลอย" ไม่เคยทำให้เขาเบื่อในระหว่างการดู..
เควนติน ตารันติโน เคยพูดกับ Film Comment ว่า เขารักหนังดาร์กๆ เพราะเชื่อว่าทุกตัวละครในโลกมืดอยากทำความดี ดูแล้วรู้สึกว่าสังคม ยังต้องการการทำความดีไม่รู้จบ. ภูริต ภิรมย์ภักดี เป็น CEO คนหนุ่ม ที่คงใกล้กับ message นี้มากที่สุด
เพราะหลากหลายกิจกรรมของเขา ไม่เฉียดตรงก็โอบข้าง กับสารตัวนี้ เมื่อไถ่ถามถึง หนังในดวงใจของเขา ความคิดของผู้ชายอารมณ์ศิลปินคนนี้ จึงไม่ต้องเดินทางย้อนไปไกล เพราะหนังเรื่องนั้นคือ "พรจากฟ้า" ที่กำลังอยู่ฝนโรงตอนนี้ และเรียกน้ำตามาแล้วหลายคน จากนักดูหนังทั้ง ขาจรและ "รักจริง"
แต่ไม่ได้มีแต่ "พรจากฟ้า" ที่ทำให้เราคำนึงถึงคุณค่าและความดี... มี CEO อีกคนหนึ่ง ที่ว่ากันว่าเล่นกีฬาได้ดีหลายอย่างพร้อมกัน เขามีชื่อว่า ปกรณ์ นามสกุล เมฆจำเริญ และเป็นผู้นำคนใหม่ของเครื่องเรือนเครื่องบ้านแบรนด์มาแรงอย่าง "เฌอร่า"
"ผมเลือก Forrest Gump เพราะ คนทุกคนล้วนมีคุณค่าในตัวเอง ไม่ว่าเขาจะเป็นอะไรในสังคม ดูแล้วรู้สึกถึงสิ่งนี่จริงๆครับ คุณค่าของคน ความหมายนี้เลย"
ทั้ง 7 ท่านที่บอกเล่ามา ต่างมีแง่มุมที่น่ารับฟัง ด้วยเพราะทุกผู้นามนี้ล้วนประสบความสำเร็จในแต่ละแวดวงและหน้าที่การงาน ทว่า บางคนก็รักหนังเพราะสร้างปรากฏการณ์สำคัญๆ กับชีวิต
ไม่มีใครไม่รู้จัก "คนเหล็ก" เหมือนที่ไม่มีใคร ไม่รู้จัก "เสี่ยเจียง" !
"ผมชอบคนเหล็ก เพราะนี่คือหนังที่สร้างปรากฏการณ์ในบ้านเรา ทั้งรายได้และดึงให้หนังแอ๊คชั่นกลับมาเป็นที่นิยมในตอนที่หนังเรื่องนี้ออกฉาย" CEO ของค่ายสหฯ บอกกับผมในห้องทำงานบริษัท แม้จะเนิ่นนาน... แต่ยังจำจด
จดจำแม้เนิ่นนาน...
ก็ยังต้องคิดถึงหนังในดวงใจของ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม เพราะมันน่าสนใจว่า คนเก่งที่สร้างอิฐก้อนแรกของ "แกรมมี่" มาอย่างเขา จะรักหนังเรื่องใด และวางไว้ในหัวใจ
คำตอบคือ The Sound of Music หนังเพลงสุดแสนคลาสสิค ที่รวมเอาทุกองค์ประกอบผสานเข้าด้วยกัน ที่ว่ากันว่า ใครที่หลงรักเรื่องนี้ ไม่เคยดู "หนเดียว"
อากู๋ แกรมมี่ ชมกี่หนยังไม่ได้ถามในวันนั้น.... แต่ที่แน่ๆ CEO แวดวงกีฬารุ่นคลาสสิคอย่าง ถิรชัย วุฒิธรรม ก็เพิ่งรจนาถ้อยคำในคืนดาวเอื้อมฟ้าย่านรามอินทราว่า
"หนังที่ผมรักที่สุดก็คือ The Sound of Music นั่นเอง"
เหตุผลคงมากมายแน่นอก จนเกินจะไถ่ถอน หรือผ่องถ่าย..เป็นถ้อยคำ
เพราะความรักนั้นเกินถ้อยคำ... และเหล่านี้คือรักของ CEO
ที่ไม่ใช่ "ยากจะลืม" ทว่า "ลืมไม่ลง"...