เทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพฯ ครั้งที่ 14 - "(การเดินทางในดินแดนแห่งภาพยนตร์)"

บริษัท เนชั่น บอร์ดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ, กระทรวงวัฒนธรรม, และ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า จัด "เทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพฯ ครั้งที่ 14" ภายใต้แนวคิด "Travelling through Films" เดินทางผ่านเรื่องราวความมหัศจรรย์ของชีวิตและธรรมชาติผ่านภาพยนตร์ที่ส่งตรงมาจากทุกมุมโลก
โดยในปีที่ 14 ของเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพฯ เป็นการนำเสนอความน่าหลงใหลและมนต์สเน่ห์และวัฒนธรรมที่น่าหลงไหลของดินแดนต่างๆทั่วโลกที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน โดยเริ่มจากภาพยนตร์เปิดเทศกาลฯ เรื่อง "Elle" ภาพยนตร์ตัวแทนประเทศฝรั่งเศส บนเวทีงานประกาศรางวัลออสการ์ปี 2560 สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม เรื่องราวระลึกขวัญของผู้บริหารสาวที่ถูกข่มเหง และวิธีการแบบศาลเตี้ยในการเอาคืนของเธอ ผลงานกำกับของ Paul Verhoeven ผู้กำกับชาวดัตช์ ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมากจากนักวิจารณ์ภาพยนตร์ทั่วโลก

ภาพยนตร์เด่นในปีนี้ เริ่มด้วยภาพยนตร์จากประเทศต่างๆ ในเอเชียก่อน กับหมวด Asian Contemporary ที่จะพาผู้เดินทางไปดูแง่มุมชีวิต วัฒนธรรม และสังคมต่างในเอเชียผ่านทางภาพยนตร์เอเชียที่ได้รับการยอมรับมาแล้วจากเทศกาลภาพยนตร์ชั้นนำระดับโลกอย่าง The Black Hen โดย Min Bahadur Bham จากประเทศเนปาล, Diamond Island โดย Davy Chou จากประเทศกัมพูชา, Thithi โดย Raam Reddy จากประเทศอินเดีย, Present Perfect โดย ผู้กำกับดาวรุ่งชาวไทย อนุสรณ์ สร้อยสงิม, และที่พลาดไม่ได้ Barakah Meets Barakah โดย Mahmound Sabbagh จากประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งนับได้ว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของซาอุดิอาระเบียหลังจากเปลี่ยนระบบการปกครองเป็นรัฐอิสลาม

ถัดมาสู่มนต์เสน่ห์แห่งอเมริกาใต้กับหมวด Cine Latino กับ The Mushroom โดย Oscar Ruiz Navia และ Wind Journeys โดย Ciro Guerra จากประเทศโคลัมเบีย, The Clan โดย Pablo Trapero จากประเทศอาร์เจนตินา, The Debts โดย Barney Elliott จากประเทศเปรู และ Wastelands โดย Miriam Heard จากประเทศชิลี
ในกลุ่มภาพยนตร์ที่คอภาพยนตร์จับตามองมากที่สุด Cinema Beat ที่นำเสนอภาพยนตร์ที่เป็นที่จับตามองจากทวีปยุโรป เริ่มต้นที่ Body โดย Magorzata Szumowska จากประเทศโปแลนด์, Death of a Fisherman โดย Gerardo Herrero จากประเทศสเปน, Self Made โดย Shira Geffen จากประเทศอิสราเอล, Sworn Virgin โดย Laura Bispuri จากประเทศอิตาลี, และ 2 ภาพยนตร์ฝรั่งเศส Where There Is Shade โดย Nathan Nicholovitch และ Staying Vertical โดย Alain Guiraudie ที่ได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัลปาล์มทองคำในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ที่ประเทศฝรั่งเศส

สำหรับในหมวดภาพยนตร์สารคดี เทศกาลฯได้คัดสรรภาพยนตร์สารคดีคุณภาพมานำเสนอเช่นเคย City of Gold โดย Laura Gabbert และ Racing Extintion โดย Louie Psihoyos จากประเทศสหรัฐอเมริกา, Gabo: The Creation of Gabriel Garcia Marquez โดย Justin Webster จากประเทศโคลัมเบีย, Presenting Princess Shaw โดย Ido Haar จากประเทศอิสราเอล, ภาพยนตร์สารดีรางวัลหมีทองคำจากเทศกาลภาพยนตร์เบอร์ลิน Fire at Sea โดย Gianfranco Rosi จากประเทศอิตาลี, และ Railway Sleepers ผลงานสารคดีจากคุณ สมพจน์ ชิตเกษรพงศ์ ประเทศไทย
ในหมวดของภาพยนตร์สั้น Shortwave ภาพยนตร์ที่ได้รับการคัดเลือกเข้ามาฉายในปีนี้ ก็มีความเข้มข้นไม่แพ้ภาพยนตร์ยาว เช่น 500,000 Years โดยคุณชัยศิริ จิวะรังสรรค์ จากประเทศไทย, Wedding: A Film โดย Mohammadreza Farzad จากประเทศอิหร่าน, Fire โดย Pablo Penchansky จากประเทศอาร์เจนติน่า, I am Jupiter, I am the Biggest Planet โดย Matthew Victor Pastor จากประเทศฟิลิปปินส์ และ The Law of the Excluded Third or no Third is Given โดย Alexandra Sokolovskaya จากประเทศรัสเซีย

ภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่อยู่ในกระแสที่วงการกล่าวถึงอย่าง The Red Turtle โดย Michael Dudok de Wit จากประเทศฝรั่งเศสที่ได้รับรางวัล Un Certain Regard จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์, Adama โดย Simon Rouby, และ The Girl without Hands โดย Sbastien Laudenbach ก็ถูกนำมาฉายในเทศกาลฯในปีนี้เช่นกัน


อีกหนึ่งหมวดภาพยนตร์ที่มักได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากคอหนังตัวจริงจากทุกยุคทุกสมัย นั่นคือการนำเสนอภาพยนตร์สุดคลาสสิกเพื่อรำลึกถึงภาพยนตร์ที่สร้างกระแสความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมภาพยนตร์ในแต่ละยุคสมัย โดยในปีนี้ เรามีภาพยนตร์เด่นๆ มากมายเช่น Dragon Inn ภาพยนตร์กำลังภายใน ฝีมือกำกับของ King Hu จากประเทศไต้หวัน, Elevator to the Gallows โดย Louis Malle ผู้กำกับชาวฝรั่งเศสหนึ่งในผู้กำกับที่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์ของผู้กำกับชื่อดังจำนวนมากในปัจจุบัน, ทิ้งท้ายด้วย ภาพยนตร์ที่นำแสดงนักแสดงคู่ขวัญที่มีเสน่ห์มัดจัดผู้ชมทั้งโลก อย่าง Sophia Loren, Marcello จากภาพยนตร์เรื่อง Mastroianni Marriage Italian Style โดย Vittorio De Sica จากประเทศอิตาลี และ Alain Delon, Romy Schneider จากภาพยนตร์เรื่อง The Swimming Pool โดย Jacques Deray จากประเทศฝรั่งเศส

และเช่นเคยในทุกปีของ "เทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพฯ" จะมีการมอบรางวัล "โลตัส อวอร์ด" เพื่อเป็นเกียรติกับบุคลากรในวงการภาพยนตร์ ซึ่ง โลตัส อวอร์ด ประจำปี ในปีนี้ทางเทศกาลมอบรางวัลให้กับ "โอลิเวอร์ สโตน" ผู้สร้าง ผู้กำกับ นักแสดง นักเขียน ผู้ที่ได้รับรางวัลในวงการภาพยนตร์มากมายนับไม่ถ้วน ผู้เปรียบได้ดั่ง ร๊อกสตาร์แห่งวงการภาพยนตร์

นอกจากกิจกรรมการฉายภาพยนตร์แล้ว ทางเทศกาลฯ ยังได้จัดกิจกรรมเพื่อการสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรในวงการภาพยนตร์สองกิจกรรม อันได้แก่ การอบรมการสร้างสรรค์ภาพยนตร์แอนิเมชั่น "Rendez-vous de lAnimation ครั้งที่ 3" ที่ในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก Alain Gagno ผู้กำกับแอนิเมชั่นระดับต้นๆของโลก จากภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง Phantom Boy และผู้เชี่ยวชาญอีกมากมาย

อีกหนึ่งกิจกรรมคือการเสวนาภาพรวมวงการภาพยนตร์เอเชีย Asian Cinema ที่ผู้ชม ผู้ที่สนใจและผู้ที่ทำงานในวงการภาพยนตร์จะได้ร่วมเสวนาไปกับผู้กำกับจากชาติต่างๆ ที่เข้าร่วมนำผลงานมาจัดฉายในเทศกาลฯในปีนี้
เทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพฯ ครั้งที่ 14 นี้จะมีขึ้นในวันที่ 4 - 13 พฤศจิกายน 2559 ที่ ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ในราคา 120 บาท ทุกที่นั่ง ทุกเรื่อง ทุกรอบ พิเศษสุดกับ Coke World Film Pack ในราคาสุดคุ้มเพียง 550 บาท จะได้รับบัตรชมภาพยนตร์ในเทศกาลจำนวน 5 ใบ และคูปองสำหรับแลกเครื่องดื่มโค้ก แฟนต้า หรือสไปรท์ ขนาด 44 ออนซ์ จำนวน 5 ใบ

เทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพฯ จัดโดย บริษัท เนชั่นบอร์ดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), โดยได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ, กระทรวงวัฒนธรรม บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอมเมอร์เชียล จำกัด, บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), ยางดีสโตน, บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน), ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ร้านอาหารกัลปพฤกษ์, บริษัท ทรี มินิทส์ ฟู้ด เซอร์วิสเซส ประเทศไทย (จำกัด), ร้านขนมเกียวโรเอ็น, มิสเตอร์ โดนัท ได้รับความร่วมมือจากสถานเอกอัครราชทูต ฝรั่งเศส โคลัมเบีย อิสราเอล อิตาลี อาร์เจนติน่า เปรู โปแลนด์ สเปน สหรัฐอเมริกา สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย และสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ผู้สนใจสามารถตรวจสอบรอบฉายและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.worldfilmbkk.com, www.sfcinemacity.com SF Call Center 02-268-8888 และ www.facebook.com//Welovesf หรือ แอพพลิเคชั่น SF Showtime In Hand