"พลอย" เปิดใจทั้งน้ำตาครั้งแรก หลัง "ปีเตอร์"ลั่นวาจาขอหย่า!

ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 59 ที่ผ่านมา พลอย พลอยพรรณ ได้เปิดใจทั้งน้ำตาในงาน วันผู้ให้กำเนิด เกิดชูชัย บุรีบุญทานบารมี ลีลาศ ณ อัมผวา ที่โครงการชูชัยบุรีศรีอัมพวา อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ยอมรับเสียใจหลังเลิกรากับปีเตอร์ อาจจะรู้จักกันไม่ดีจึงเป็นเหตุให้ต้องแยกทาง แจงเรื่องหย่ายังไม่ลงตัว ในส่วนของข้อเสนออาจจะต้องเรียกทนายมาคุย โดยเธอให้สัมภาษณ์ว่า

"พลอยดูที่เขาพูดแค่ในรายการเพียงไม่นาน แต่ว่าตอนที่เขาแถลงข่าวพลอยไม่ได้ดู เรื่องที่เขาบอกว่าให้ทนายร่างข้อเสนอ จริงๆ แล้วก็เป็นเรื่องทางฝั่งเขานะคะ เพราะพลอยเคยบอกแล้วว่าพลอยจะไม่พูดอะไรจนกว่าพี่เขาจะพูดเอง ซึ่งวันนี้เขาก็พูดแล้ว พลอยก็มองว่าดีเหมือนกัน เราจะได้เคลียร์ และพลอยก็ไม่ต้องออกมาพูดคนเดียวเอง หลังจากนี้ก็คงต้องเป็นช่วงที่พี่เตอร์เขาคุยกับทนายว่าสิ่งที่เขาต้องการคืออะไร พอจบตรงนั้นปุ๊บก็จะเป็นส่วนของพลอยต่อว่าพลอยต้องการอะไร สุดท้ายเราก็ค่อยมาทำสัญญาหรือว่าเซ็นหย่ากันอีกเรื่องหนึ่ง"

ผู้สื่อข่าวท่านหนึ่งถามเธอว่า...เราได้ยื่นข้อเสนออะไรบ้าง?"วันนั้นที่เขาเข้ามาพูดคุย พลอยก็ทำหน้าที่แค่ขอฟังอย่างเดียวว่าเขาจะพูดอะไร ซึ่งพอได้ฟังก็ถือว่าสะเทือนใจนิดหน่อย คือเราก็รักกันมา (เสียงสั่น) เราก็มีช่วงเวลาที่ดีๆ กันมา แต่สุดท้ายมันก็ผ่านไปเร็ว และเมื่อมันมาถึงจุดนี้แล้วจริงๆ มันก็คงต้องจบ แต่ความรู้สึกพลอย พลอยก็ยังจำผู้ชายดีๆ ที่เราเคยรักเขาได้อยู่"

ผู้สื่อข่าวท่านหนึ่งถามเธอต่ออีกว่า...แสดงว่าเราก็เคยแอบหวังว่าจะกลับมาคืนดีกันได้?"ด้วยความที่เราเป็นครอบครัว เราเป็นพ่อแม่ที่มีลูกถึงสองคน พลอยก็หวังไว้ในใจลึกมากๆ ว่า ถ้าหากเรากลับมาเรื่องความรักพ่อแม่มันก็อาจจะยากสำหรับพลอย แต่สำหรับลูก พลอยคิดว่าเขาควรที่จะมีพ่อ ถ้าสมมติเรามาอยู่และปรับตัวทำหน้าที่พ่อแม่ให้ดีที่สุดมันก็น่าจะดีกับลูกของเราสองคน"วันที่คุยกันทำไมไม่บอกปีเตอร์ว่าความรู้สึกของเราจริงๆ ต้องการอะไร ผู้สื่อข่าวถาม?"ไม่กล้าพูดหรอกค่ะ เพราะว่าเราก็ยืนหยัดและก็เข้มแข็งมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว ส่วนทางฝั่งเขาเรื่องนี้มันก็เป็นความต้องการของเขาเหมือนกัน ถ้าจะให้พลอยไปพูดมันก็ไม่มีประโยชน์"

ต่อมาผู้สื่อถามเธอย้ำอีกว่า จริงๆ แล้วเขาเป็นคนขอเราหย่าอย่างที่บอก?"พลอยก็เคยเห็นเขาสัมภาษณ์แนวๆ นี้มาอยู่แล้วนะคะ ซึ่งตอนที่ฟังพลอยก็ทำใจสักพักหนึ่งแล้วเหมือนกันว่ายังไงวันนี้ก็ต้องมาถึง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีค่ะ อย่างน้อยเขาก็ได้ให้เวลาพลอยในการปรับตัวและก็ทำใจมาเยอะแล้ว ส่วนสำหรับลูกๆ ทั้งสองคน พลอยก็จะพยายามเลี้ยงให้ดีที่สุดค่ะ"

คำถามต่อมา...ก่อนหน้านี้ปีเตอร์ออกมาแถลงถึงเรื่องราวในครอบครัว หากไม่รอด ก็พร้อมจะเซ็นใบหย่าในส่วนของข้อเสนอที่เขายื่นมาเราโอเคไหม?เธอได้ให้คำตอบว่า "เอ่อ...มันก็คงมีอะไรที่จะต้องปรับเยอะเหมือนกัน ทั้งสิ่งที่เขาขอ และสิ่งที่พลอยต้องการให้ลูก ซึ่งอาจจะต้องเรียกทนายมาคุยว่ามันคืออะไร แต่ตอนนี้ก็มีอันหนึ่งที่พลอยอยากให้เป็นไปได้ก็คือเรื่องที่ให้พี่เตอร์ฟ้องร้องคนทำเพจ "สตรอเบอร์รี่ตัวแม่" รวมถึงน้องผู้ชายที่เพิ่งจะมาคอมเม้นต์ว่าพูม่าว่าหน้าเป็นเด็กลาว แถมยังบอกอีกว่าไปคุ้ยมาจากถังขยะหรือเปล่า ซึ่งเรื่องนี้พลอยรู้ตัวคนทำแล้ว แต่ทางเพจสตรอเบอร์รี่อันนี้พี่เตอร์เขาทราบตัวคนนะคะ ดังนั้นพลอยก็อยากให้พี่เตอร์ทำตรงนี้เพื่อลูก จริงๆ วันที่คุย พลอยเองก็ได้คุยกับเขาเรื่องนี้แล้วด้วย พลอยบอกว่าไม่อยากให้ใครมาดูถูกหรือมากลั่นแกล้งลูกเราได้"

ผู้สื่อข่าวถามต่อ...พอเราเสนอไปแบบนี้เขามีท่าทีเห็นด้วยหรือไม่?"เขาก็...จะบอกว่าเห็นด้วย มันก็คงจะมีจุดที่ลำบากใจกันในแก๊งเขานิดหน่อย แต่ว่าอันนี้เอาไว้เดี๋ยวพลอยจัดการเองดีกว่า พลอยไม่อยากพูดถึงหรือกล่าวถึงใครเรื่องเพจตรงนี้ แต่ก็คือทราบตัวค่ะว่าใครเป็นคนทำ แค่พลอยไม่อยากจัดการให้ พลอยอยากให้คนเป็นพ่อเขาจัดการดีกว่า"

ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตุและถามต่อว่า เหมือนมองว่าหลัก ๆ แล้ว พลอยต้องการให้ปีเตอร์ช่วยเคลียร์เรื่องนี้ มากกว่าเรื่องทรัพย์สิน?ซึ่งพลอยได้ให้คำตอบว่า "เรื่องการเงินพลอยอยู่ตัวของพลอยมาสักพักหนึ่งแล้วค่ะ งานของพลอยรวมถึงธุรกิจของพลอยทุกอย่างมันค่อนข้างซับพอร์ตพลอยพอสมควรแล้ว และพลอยก็มั่นใจว่าถ้าทำงานหนักกว่านี้การงานการเงินก็จะมั่นคง สามารถดูแลลูกได้ค่ะ ส่วนเรื่องที่เรียกร้องพลอยก็เน้นของลูกมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยให้ลูก การศึกษา จริงๆ การศึกษาจ่ายเองได้นะคะ แต่มันก็ไม่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก ดังนั้นเราก็อยากคุยกันก่อนว่าสิ่งที่เราทำได้ทั้งคู่คืออะไร"
พลอย พลอยพรรณ กล่าวต่ออีกว่า เชื่อว่าพี่เตอร์อยากให้ลูกอยู่กับพลอย เนื่องจากงานของพี่เตอร์ส่วนมากเขาต้องเดินทางเยอะ แต่ที่คุยกันคือถ้าว่าวันไหนพลอยไม่อยู่เขาก็จะเข้ามาดูแลลูกให้ ที่ผ่านมาพลอยไม่เคยกีดกัน ไม่เคยมีวันไหนเลยที่พลอยจะห้าม เรายังอยู่บ้านเดียวกันที่เคยอยู่ รูปภาพของเราวางตรงไหนก็ยังวางตรงนั้น ของใช้พี่เตอร์ก็ยังอยู่ที่เดิม พลอยไม่เคยห้ามพี่เตอร์หรือฝั่งครอบครัวเขามาเจอลูกเลยแม้แต่นิดเดียว

.แสดงว่าการหย่าครั้งนี้จะไม่มีการฟ้องร้องเรื่องลูกแน่นอน ผู้สื่อข่าวถาม?"ถ้าตกลงกันได้ตามที่พลอยเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก ทุกอย่างก็จบค่ะ แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็น่าจะถึงจุดนั้น แต่อย่างที่ทุกคนทราบ หากมีการฟ้องศาลมันก็จะเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา รวมถึงความรู้สึก ดังนั้นทางที่ดีก็คือเราเลือกอะไรที่มันดีที่สุดสำหรับลูกดีกว่าค่ะ"
ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงประเด็นที่ทางปีเตอร์ระบุว่ามีปัญหากับพลอย ทำให้มีปัญหาเรื่องการเงิน?"พลอยไม่ได้คุยกับเขาเลยค่ะ แต่การที่เขาหายไม่ส่งเงินหรืออะไรมา พลอยก็เข้าใจได้ว่าเขาน่าจะมีปัญหาอยู่ เพราะโดยส่วนตัวแล้วเขาไม่ใช่คนงกหรือเหนียวหนี้ ถ้าหากเขามีก็ยินดีให้ ยินดีแจก ยินดีแบ่งปันทุกคนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นลูกน้องหรือเพื่อนฝูง"
ในส่วนบ้านที่เขาบอกว่าอยากขาย เราเห็นว่ายังไงบ้าง ผู้สื่อข่าวถาม?"ได้คุยกันแล้วค่ะ แต่ก็อาจจะมีปรับกันนิดหน่อยเพราะบ้านหลังที่อยู่ตอนนี้มันเดินทางสะดวก โรงเรียนลูกก็อยู่ใกล้บ้าน ดังนั้นพลอยก็อยากให้เขาอยู่ไปก่อน เนื่องจากบ้านหลังที่พี่ปีเตอร์คิดพื้นที่มันอาจจะอยู่ไกลเกินไป และทำให้ลูกเดินทางไปโรงเรียนยาก"

แสดงว่าเรื่องบ้านยังไม่ได้ผลสรุปที่แน่ชัด?"วันนั้นพลอยนั่งฟังเป็นส่วนมากค่ะ แต่ก็อยากให้พี่เตอร์เขาไปนั่งคิดก่อนดีกว่าว่าสิ่งที่เขาต้องการคืออะไร หลังจากนั้นพอเขาส่งทนายมาคุยก็น่าจะเรียบร้อย"
มีผู้สื่อข่าวท่านหนึ่งถามว่า ที่เราฟังเขาแถลงข่าว รู้สึกไหมว่ามีข้อมูลอะไรคลาดเคลื่อน?"พี่เตอร์เขาเป็นคนตรงๆ อยู่แล้ว ดังนั้นทุกอย่างก็จะเป็นตามสิ่งที่เขาพูดเลย มีก็แต่เรื่องที่บอกว่า "เรารู้จักกันไม่ดีพอ" ประโยคนี้ตอนที่ได้ฟังพลอยเองก็รู้สึกเสียใจนะ ถ้าหากเขาฟังหรืออ่านอยู่ตอนนี้ พลอยก็อยากบอกเขานะว่าพลอยก็ยังเป็นคนเดิมที่คอยดูแลเขาตอนที่ไปเที่ยวเรือด้วยกัน พลอยก็ยังดูแลเขามาตลอด (น้ำตาคลอ) พลอยก็ยังเป็นห่วงเขานะคะ ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น พลอยก็ยังมองว่าเขาเป็นพ่อของลูกเรา"
พลอย พลอยพรรณ ยอมรับว่า ตนเสียใจ เพราะเรารู้จักกันดีพอที่เราจะยอมแต่งงาน ยอมมีลูกด้วยกัน ดังนั้นถ้าจะบอกว่าเรารู้จักกันไม่ดีพอ มันคือคงไม่ถึงจุดนี้หรอกค่ะ"
ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นที่คุณแม่ของพลอยกับปีเตอร์เป็นเพื่อนกัน?พลอยได้ตอบกลับว่า ไม่ได้เป็นเพื่อนในแง่ที่รู้จักกันมานานนะคะ แต่คือเราก็อยู่บริษัทเดียวกัน รวมถึงน้องสาวคุณแม่พี่เตอร์ที่อยู่การบินไทยก็ยังบินอยู่เหมือนกัน ดังนั้นไม่มีเหตุอะไรเลยที่จะต้องมีปัญหากันค่ะ
เราบอกว่าทำใจมาตลอดเรื่องการหย่า แต่ว่าพอเรื่องใกล้มาถึงจริงๆ เรามีแอบร้องไห้ไหมเวลานอนคิด ผู้สื่อข่าวถาม?"พลอยไม่เคยร้องไห้ค่ะ เพิ่งจะมาร้องไห้ต่อหน้านี่แหละ ที่ผ่านมาพลอยพยายามไม่คิด พยายามไม่พูดถึงมันเลย พลอยอยากให้ทุกคนเห็นว่าพลอยเข้มแข็ง ทุกคนจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงพลอย ดังนั้นถ้าวันนี้ทุกคนเห็นพลอยร้องไห้มันก็เป็นความผิดหวังนิดหน่อยที่เขาบอกว่าเขารู้จักไม่ดีพอค่ะ แต่พลอยกลับรู้สึกว่าพลอยรู้จักเขาดีพอ และเขาก็ยังเป็นผู้ชายที่พลอยเคยรัก เป็นคนที่ดีสำหรับพลอยค่ะ"
ผู้สื่อข่าวได้ถามถึง ในความรู้สึกของพลอย คิดไหมว่ามีอะไรที่เราทำพลาดจนทำให้เรื่องมันมาถึงจุดนี้?"เอ่อ...ถ้าถามว่าพลอยทำอะไรพลาด จริงๆ มันอาจจะเป็นความรู้สึกของพี่เตอร์มากกว่าที่อาจจะไม่พร้อมมีครอบครัวหรือเปล่า รวมถึงช่วงพลอยท้อง พี่เตอร์เขาก็จะต้องดูแลพลอยเยอะขึ้น แถมช่วงนั้นเขาทำงานหนัก เขาก็เลยอาจจะเหนื่อย บวกกับอารมณ์คนที่กำลังท้องมันก็จะมีการขึ้นๆ ลงๆ ตามให้เขากลับบ้าน หรือเรียกร้องมากเกินไปหรือเปล่า ซึ่งมันอาจจะทำให้พี่เตอร์รู้สึกไม่ดีจนอยากเดินออกไปจากชีวิตพลอยและลูก พลอยก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ"

หลังจากนี้เราพร้อมไหมหากต้องเผชิญหน้ากับปีเตอร์ ผู้สื่อข่าวถาม?"พลอยไม่เคยมีปัญหานะคะ แต่ก็อย่าคุยกันเยอะดีกว่า"
แพนเตอร์ พูม่า ลูกชายของพลอยและปีเตอร์ จะนัดเจอกันอีกครั้งเมื่อไหร่ ผู้สื่อข่าวถาม?"เมื่อเขาพร้อมค่ะ ที่ผ่านมาพลอยไม่เคยเรียกร้องเลย เพราะพลอยเคยลองแล้วแต่มันก็ไม่เวิร์ค ดังนั้นตอนนี้ก็พยายามใช้ชีวิตผ่านไปทุกวันให้มันดีสำหรับลูกที่สุด"
ผู้สื่อข่าวถามย้ำ ถ้าเจอกันอีกครั้งพร้อมทนายก็อาจจะหย่าเลย?"จริงๆ เรื่องหย่ามันเป็นเรื่องสุดท้ายมากเลยนะคะ เพราะพลอยรีเควสพี่เตอร์หนักๆ เลยก็คือเรื่องเพจสตรอเบอร์รี่ที่เขารังแกลูก ถ้าหากเรื่องนี้เคลียร์ได้ พลอยก็จะมีความสุขมากๆ เลยค่ะ"
ผู้สื่อข่าวถามต่อ แสดงว่าถ้าเรื่องนี้เคลียร์ได้เราก็จะยอมหย่า?"มีหลายอย่างค่ะ อย่าว่าเรื่องนี้เรื่องเดียวเลย แค่เรื่องนี้เป็นหนึ่งในข้อเสนอของพลอยค่ะ"
ผู้สื่อข่าวท่านหนึงได้ถามถึงประเด็นค่าเลี้ยงดูว่าได้มีการตกลงเป็นจำนวนเงินแล้วหรือไม่?"ยังค่ะ เพราะที่ผ่านมาพลอยก็อยู่ด้วยตัวเองมาได้สักพักใหญ่แล้ว เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับพลอย แต่เรื่องใหญ่คือ เรื่องสิทธิในการเลี้ยงดูลูก กับเรื่องบ้าน เพราะว่าบ้านหลังนี้มันอยู่ในจุดที่ดีอยู่แล้ว แถมบ้านนี้มันมีหลายห้องด้วย ถ้าพี่เตอร์อยากจะมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านโดยที่สบายใจอยากทำอะไรก็ทำ บ้านหลังนี้ก็ยังเป็นบ้านของเขาอยู่ค่ะ หรือถ้าหากเขาคิดจะมีสาวใหม่ ใช้ชีวิตข้างนอกบ้าน วันไหนพลอยไม่อยู่เขาก็สามารถมานอนกับลูก มาดูแลลูกที่บ้านได้ รวมถึงที่เขาบอกว่าเขาอยากอยู่ในที่เล็กๆ จริงๆ เขาก็ไปอยู่คอนโดก็ได้ ถือว่าบ้านนี้พลอยรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องขายค่ะ"
สุดท้ายพลอย พลอยพรรณ กล่าวว่า ไม่เสียดาย ตลอดระยะเวลาที่รู้จักพี่เตอร์ พี่เตอร์เป็นคนดี เป็นสุภาพบุรุษ"