คนแห่ร่วมเผาศพ"สิงห์" แน่นวัดธาตุทอง

 หลังจากสวดพระอภิธรรมศพนายสิงห์  มุสิกพงศ์ หรือ สิงห์ สควิซ แอนนิมอล ที่วัดธาตุทอง ย่านเอกมัย ครบ 3 วัน ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 4 สิงหาคม 2558 ครอบครัว มุสิกพงศ์ ได้เคลื่อนศพมายังเมรุเพื่อทำพิธีฌาปนกิจ ท่ามกลางญาติพี่น้อง นักการเมือง และมิตรสหายทั้งในและนอกวงการบันเทิงที่มาร่วมส่งดวงวิญญาณเป็นครั้งสุดท้ายอย่างเนืองแน่น          น.ส.พรปวีณ์ นีระสิงห์ หรือ เฟย์ แฟนของสิงห์ เดินทางไปร่วมงานตั้งแต่เวลา 14.40 น. พร้อมกับ น.ส.ธนันต์ธรญ์ หรือ ฟาง ขณะที่ น.ส.พีร์พิชชา หรือ ฟิน น้องสาว และนางศรีวิไล ประสุตานนท์ มารดา ตามมาภายหลัง โดยภายในงานมีการแจกหนังสือที่ระลึก ภายในมีคำอาลัยที่ น.ส.พรปวีณ์ เขียนถึงสิงห์ ความว่า
          สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ระยะเวลา ว่าเราได้อยู่ด้วยกันนานแค่ไหน แต่คือช่วงเวลา ที่เราอยู่ด้วยกัน เราสองคนได้ทำทุกๆ วันของเรา เป็นวันที่มีความสุขที่สุด ขอบคุณมากนะคะ ที่ทำให้เฟย์รู้สึกว่าได้เป็นผู้หญิงที่โชคดีขนาดนี้ ไม่ต้องห่วงเฟย์นะคะพี่สิงห์ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อย่ากังวลนะ เฟย์จะดูแลตัวเองอย่างดี เรารู้ดีว่า ความรู้สึกของเราสำคัญที่สุด แค่เฟย์รู้ว่าพี่สิงห์รักเฟย์ และพี่สิงห์รู้ว่าเฟย์รักพี่สิงห์มากแค่ไหน..ก็พอแล้วค่ะ :') รอเฟย์นะ Love u always baby FayeSingha บนหีบศพของสิงห์มีหมวกใบเก่งของเขาวางอยู่ มีผ้าคลุมสีเขียวเข้มพร้อมด้วยข้อความภาษาอังกฤษว่า Love You Till Die แปลว่า รักคุณไปจนวันตาย

              ต่อมาเวลา 16.30 น. นายสมชาย วงศ์สวัสด์ อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลารับรองโอสถานุเคราะห์ ทำหน้าที่ประธานในพิธี  ขณะที่นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ บิดา เป็นผู้อ่านชีวประวัติของลูกชาย โดยมีน้ำตาซึมตลอดเวลา ก่อนที่จะเข้าสู่การอ่านประวัติ นายวีระกานต์ได้เผยความรู้สึกว่า อาสามาทำหน้าที่นี้ ทั้งที่ไม่แน่ใจว่าสามารถทำหน้าที่นี้ได้อย่างครบสมบูรณ์ แต่จะไม่ให้ทำอะไรเลยคงไม่ได้

          นายวีระกานต์ ได้บรรยายประวัติของสิงห์ ลูกชายคนที่ 2 ว่า มีความรักในดนตรี จนถึงขนาดที่ว่าดร็อปเรียนถึง 2 ครั้ง ก่อนจะหันมาสนใจในการเรียนกีตาร์อย่างจริงจัง ซึ่งพ่อก็ไม่ได้ห้าม          "ในวันที่เกิดเหตุ ที่ลูกชายของผมตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลง หากเขาแขวนหลวงปู่ทวด ที่ผมเคยให้เขาไว้ แต่เขาปฏิเสธที่จะแขวน ซึ่งเป็นพระที่โคตรเหง้าของผมนับถือ ท่านจะคุ้มครองไม่ให้เกิดเรื่องที่ทุกคนทราบกัน นี่คือความคิดของผม" นายวีระกานต์เผย          นายวีระกานต์ กล่าวในตอนท้ายว่า ทุกๆ คืนในการสวดพระอภิธรรมศพได้เกิดปรากฏการณ์ที่ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี คือการที่มีเหล่านักการเมืองจากทุกพรรค ที่ถึงจะมีความขัดแย้งกันมาร่วมในงาน ซึ่งเป็นนิมิตหมายอันดี ในการเริ่มการปรองดอง ถือว่าชีวิตของสิงห์สามารถทำประโยชน์ในการนี้          "ผมรู้สึกตลอดเวลาว่าสิงห์ยังอายุน้อยนิด อาชีพทางด้านดนตรียังเป็นละอ่อนน้อย คนในวงการจะยอมรับฝีมือของเขามากน้อยแค่ไหน แต่ในทุกๆ คืนที่มีการสวดอภิธรรม มีศิลปินวงใหญ่ๆ มาร่วมสวดอภิธรรม โดยยืนตากฝน ทำให้ผมคิดว่าสิงห์ควรจะได้เป็นนักดนตรีที่มีบทบาทต่อวงการดนตรีเมืองไทย ผมและครอบครัวอยากจะเสริมปณิธานของลูก หลังจากเสร็จงาน ผมและครอบครัวจะตั้งมูลนิธิ สิงห์ มุสิกพงศ์ เพื่อการดนตรี มีจุดประสงค์เพื่อดูแลสวัสดิการของนักดนตรี เท่าที่กำลังจะมี" นายวีระกานต์ กล่าว

          ช่วงสุดท้ายนายวีระกานต์เผยทั้งน้ำตาว่า ไม่ร่วมเผาลูกชาย เพราะตนไม่สามารถเผาสิ่งที่ตนสร้างมาได้ ขอไปอยู่ที่สงบๆ เพื่อคิดถึงลูกชาย จากนั้นนายวีระกานต์เดินออกจากแท่นพิธีการไปด้วยน้ำตานองหน้า 
              นายวีระกานต์ใช้เวลาในการกล่าวถึงประวัติของสิงห์นานกว่าครึ่งชั่วโมง ท่ามกลางบรรยายกาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าของแขกที่มาร่วมงาน ขณะที่ระหว่างที่นายวีระกานต์อ่านประวัติลูกชาย มารดาของสิงห์ร่ำไห้ด้วยความเศร้าโศกเสียใจตลอดเวลา

          จากนั้น เวลา 17.35 น. พิธีกรขอให้แขกที่มาร่วมงานยืนไว้อาลัยให้สิงห์เป็นเวลา 1 นาที ทุกคนต่างยืนสงบนิ่งอย่างพร้อมเพรียงกัน จนกระทัั่งเวลา 17.40 น. พิธีกรได้เชิญ นายสมชาย ประธานทอดผ้าบังสุกุล ต่อด้วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศพิจารณาผ้าบังสุกุล จากนั้นตามเหล่าคณะสงฆ์ที่ประกอบไปด้วยน้องชาย (เสือ) ขึ้นวางดอกไม้จันทน์ ลำดับต่อมาเป็นเพื่อนของสิงห์ทำหน้าที่แจกของที่ระลึกในงานฌาปนกิจศพได้แก่ 1.หนังสืออนุสรณ์งานศพ ผลิตโดยสไปร์ซซี่ดิสก์ 2 พระเครื่อง หลวงพ่อเงิน วัดบางคาน จ.พิจิตร 3.เหรียญห้อยคอ จ.เลย 4.หลวงตาหรั่ง จ.เลย          จากนั้นแขกที่มาร่วมงานต่างทยอยขึ้นวางดอกไม้จันทน์ทั้งแขกวีไอพี เหล่านักการเมือง ตามมาด้วยเพื่อนของสิงห์ มวลชน และครอบครัว