svasdssvasds
เนชั่นทีวี

บันเทิง

เปิดใจ! "แตงโม-ภัทรธิดา" แถลงทั้งน้ำตา สาเหตุคิดสั้นฆ่าตัวตาย

07 กรกฎาคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ยอมรับ กินยาฆ่าตัวตาย เพราะปัญหาที่สะสมมานาน ไม่ใช่เพราะคำพูดของโตโน่ ที่บอกว่า "ผมเป็นโสดแล้ว"

เปิดใจ! "แตงโม-ภัทรธิดา" แถลงทั้งน้ำตา สาเหตุคิดสั้นฆ่าตัวตาย


เป็นกระแสสังคมอย่างหนักกรณี น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ดาราสาวชื่อดัง กรีดข้อมือกินยาเพื่อฆ่าตัวตาย เนื่องจากเสียใจกับความรักที่อดีตคู่หมั้น นายภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หรือ โตโน่ นักร้องหนุ่มชื่ิอดัง ประกาศบนเวทีคอนเสิร์ตว่า โสดแล้ว               ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 กรกฎาคม ที่ห้องประชุมชั้น 2 โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น น.ส.ภัทรธิดา พร้อมด้วย คุณพ่อ นายโสภณ พัชรวีระพงษ์ และ นพ.คมสัน อังคณานุพงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรม แถลงข่าวถึงความคืบหน้าของอาการป่วยของแตงโม โดยตลอดระยะทางที่เดินเข้ามายังห้องแถลงข่าว น.ส.ภัทรธิดา มีน้ำตาคลออยู่ตลอดเวลา และเมื่อเจอกับสื่อมวลชนดาราสาวได้ปล่อยโฮออกมา                          ด้าน น.ส.ภัทรธิดา กล่าวว่า ขอโทษทางโรงพยาบาล ในประเด็นที่มีรูปหลุดออกไปจากเพื่อนสนิทที่ถ่ายรูปและคลิปวิดีโอในห้องฉุกเฉินระหว่างหมอรักษาอยู่ จึงขอกราบขอโทษทางโรงพยาบาลด้วย ในส่วนเหตุผลของเพื่อนที่ถ่ายภาพและคลิปนั้น คงเป็นช่วงที่เพื่อนทนเห็นสภาพที่เกิดขึ้นไม่ไหว จึงอยากจะให้คนได้เห็นในอีกมุมหนึ่ง คือมุมที่อ่อนแอ เพราะโดยปกติส่วนตัวเป็นคนมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ดังนั้นการที่ได้รับคำพูด หรือเหตุการณ์สถานการณ์ในชีวิตต่างๆ ในช่วงนี้อาจจะค่อนข้างหนักมาก ภายนอกอาจดูเหมือนจะรับไหว และเป็นคนแข็งแรง แต่ว่าข้างในคืออ่อนแอมาก                "ส่วนเรื่องที่ทุกคนสันนิษฐานว่าเป็นคำพูดของคุณโตโน่ในคอนเสิร์ต ตรงนั้นเป็นแค่ส่วนเล็กๆ เพราะตลอดเวลาที่เราห่าง ช่วงนั้นเป็นอะไรที่คลุมเครือ มันเป็นปัญหาชีวิตคู่ที่เราไม่เข้าใจกัน พยายามปรับเข้าหากัน แต่เราเข้ากันไม่ได้ โตโน่จึงตัดสินใจแยกออกจากบ้านไป แต่ยังติดต่อกันอยู่ตลอดเวลา ข้าวของในบ้านทุกอย่างก็ยังวางอยู่เหมือนเดิม จากที่เราเคยนอนอยู่ด้วยกัน เคยมีคนปรับทุกข์ เคยมีกำลังใจ และตั้งแต่มีข่าวบอกว่าห่างกัน โมพยายามติดต่อไปให้กำลังใจเขา เพราะรู้ว่าเขามีงานใหญ่ ไม่ว่าขึ้นคอนเสิร์ตหรือถ่ายละครต่างๆ แต่ว่าในส่วนของเรา มันขึ้นอยู่กับสภาพและจิตใจ ที่ต้องทำงานหนักไม่แพ้กัน มันค่อนข้างหนักสำหรับชีวิตโม" ดาราสาว กล่าว              ดาราสาว กล่าวว่า เป็นคนที่ตกลงแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่ชีวิตครอบครัวมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด เมื่อโตโน่หายไปไม่เคยกลับมาอีกเลย ตลอดเวลาที่ส่งไลน์ไปมีการอ่าน แต่ไม่ตอบ เป็นแบบนี้มา 2 เดือน แต่ทุกครั้งที่ให้สัมภาษณ์ว่าห่างกัน ก็ไม่เคยมีใครออกมาพูดคำว่า หย่าร้าง จึงไม่รู้จะทำตัวอย่างไร จะตัดสินใจอย่างไร ที่ผ่านมาไม่คิดมีใครใหม่ ไม่มีมือที่สาม แต่ผิดที่ตั้งความหวังว่า เขาจะเชื่อเหมือนกันว่าจะกลับมาเป็นครอบครัวเหมือนเดิมได้อีก ยอมรับว่า ทางบ้านเจอปัญหาอะไรหลายๆ อย่าง เมื่อหันไปทางไหนก็มีแต่ปัญหา โดยที่ไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใคร ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มีคนคอยปรับทุกข์ด้วย หรือมีเพื่อน มีพระเจ้าที่ควรจะพึ่งพา               "เราควรจะรักตัวเอง ควรจะเป็นแบบอย่างที่ดีกว่านี้ แต่ ณ เวลานั้นไม่คิดถึงบุคคลเหล่านั้น เราลืมไปว่ายังมีคนที่รักอีกมากมาย คนที่เจ็บที่สุดก็คือพระเจ้ากับพ่อ เชื่อว่า ทุกคนที่คิดสั้นไม่คิดว่าตัวเองจะฟื้นขึ้นมาอีก จึงขอโทษทุกคนที่ทำให้ผิดหวัง ขอโทษผู้ใหญ่ที่ทำงานด้วย และอาจจะมีผลกระทบกับเขา และขอโทษพ่อ" ดาราสาวกล่าวก่อนหันไปกอดพ่อร่ำไห้               ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หลังจากนี้วางแผนชีวิตไว้อย่างไร น.ส.ภัทรธิดา ยอมรับว่า สภาพจิตใจยังสับสนอยู่หลายอย่าง ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่า ก่อนหน้านี้พ่อเคยบอกโตโน่ว่า ขอบคุณที่ทำหน้าที่ ที่ดูแลในช่วงเวลาที่ไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว เป็นโรคซึมเศร้า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คิดจะฆ่าตัวตาย แต่ส่วนตัวรู้สึกว่า ตอนคบกันก็โดนด่า พอบอกห่างก็โดน บางครั้งเหมือนตกเป็นจำเลยของสังคมไปโดยปริยาย               "มีครั้งหนึ่ง หนูพยายามกลับมาปรับความเข้าใจกัน และขอโทษที่ทำผิดไป ตอนนั้นหนูก้มลงกราบแม่น้อย สุดลมโชย (มารดาโตโน่) แม่น้อยบอกให้หนูเจริญๆ มันเหมือนเป็นสัญญาณการจากลาบางอย่าง หนูกราบที่ตักโตโน่ เขาบอกให้เดินตามทางพระเจ้าอย่างที่หนูตั้งใจไว้ แต่ทุกครั้งที่เขาให้ข่าว ไม่เคยพูดว่าหย่า วันนี้ข้าวของโตโน่อยู่ที่เดิม ถึงตอนนี้ไม่รู้ว่าคำตอบมันคืออะไร เราเลิกกันแล้วหรือยัง ก่อนหน้านี้ทำทุกวิถีทางแล้ว แต่จริงๆ เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตคู่ที่ต้องผ่านช่วงมรสุม ซึ่งได้พยายามบอกเขาว่า พร้อมที่จะเดินไปข้างหน้ากับเขา และทำทุกวิถีทาง เพราะยังรักเขาเหมือนเดิม แตงโมกล่าว                        เมื่อถามย้ำว่า อยากจะบอกอะไรถึงโตโน่บ้าง แตงโม กล่าวว่า ได้พิมพ์ข้อความไปบอกคร่าวๆ ไปแล้วว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ที่ผ่านมา หากทำอะไรผิดไปขอโทษ และขอขอบคุณที่เข้ามาในชีวิต ทำให้ชีวิตมีคุณค่า มีความหมาย ส่วนตัวขอเป็นกำลังใจให้ เพราะรู้ว่าความฝันของเขาคืออะไร ยืนยันว่ายังรักและสนับสนุน พร้อมที่จะเดินไปข้างหน้าด้วยกัน               "บางคนที่ต่อว่าโตโน่ อย่าไปต่อว่าโตโน่ มันไม่ใช่ความผิดของเขา ถ้าหนูแข็งแรงพอคงไม่มีวันนี้ โตโน่ยังมีความฝันที่ต้องทำหลายอย่าง ส่วนใครที่ให้กำลังใจหนูก็ขอให้ให้กำลังใจโน่เขาด้วย เขาเป็นคนที่หนูรัก รักมาก เพราะฉะนั้นจึงอยากให้สนับสนุนเขา ให้เขาได้มีที่ยืนต่อไป ส่วนที่ถามว่าหนูไล่โตโน่ออกจากบ้าน คือโน่เดินออกไป โดยมีสาเหตุที่โน่ไม่พอใจหนู หนูมีส่วนผิด หนูไม่ขอลงรายละเอียด อย่างที่บอกชีวิตคู่ถ้าเราจะแพ้เราก็แพ้ทั้งคู่ ถ้าเราจะก็ผิดด้วยกันทั้งคู่ คู่เราไม่ได้มีประสิทธิภาพเหนือคนอื่น เรามีเรื่องที่ไม่เข้าใจกันหลายอย่าง แต่โน่เป็นคนที่เดินออกไป หนูไม่เคยเสียใจเลยที่คบเขา หนูภูมิใจมากที่สุด อย่างที่เคยพูดว่า พระเจ้าส่งเขามาเป็นของขวัญให้ ไม่งั้นคงไม่มีชื่อเขาอยู่บนเรือนร่าง หนูพร้อมที่จะรับคำตอบของเขาทุกอย่าง นักแสดงสาวกล่าวก่อนร้องไห้อย่างหนัก              อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณคนรอบข้างที่เข้าใจและไม่ซ้ำเติม อย่างที่บอก คนคิดสั้นไม่มีใครคิดว่าตัวเองจะฟื้นขึ้นมาอีก ส่วนคนรอบข้างต้องพูดอยู่แล้วว่า อย่าทำอีก ยืนยันว่า ต่อไปจะพยายามประคับประคองไม่ให้อ่อนแอ               "ตัวหนูเอง ถ้าอยู่ในสภาวะปกติ หรือไม่มีคำพูดที่รุนแรงจากคนที่หนูรักมากจนตายแทนได้อย่างที่เคยพูดไปหลายครั้ง ถ้าไม่มีเรื่องกระทบกระเทือนใจจากคนที่รักเหมือนหัวใจ เราจะไม่มีทางเป็นแบบนี้ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ทุกสิ่งที่เคยปรากฏอยู่บนโลกโซเชียล หลายๆ คำที่หนูเคยให้คำสัญญาก็ยังทำมันอยู่ ไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่หนูเลือกแล้ว หนูตัดสินใจทำลงไปแล้ว หนูไม่เคยเสียใจ แตงโม กล่าว              ด้านนายโสภณ พัชรวีระพงษ์ บิดาของดาราสาว กล่าวว่า เมื่อคืนโตโน่โทรมาหา แต่ไม่รับสาย ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ไม่รับสายมานานแล้ว ไม่ใช่เพราะโกรธ อาจจะเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้เมื่อมีคนเข้ามาก็ต้อนรับ แต่เมื่อออกไปก็ไม่ใช่คนในครอบครัว จึงไม่มีอะไรจะคุย เพราะไม่ได้เป็นอะไรกัน จากนี้ไปถ้าต่อไปได้พูดคุยอาจจะเป็นการคุยกันเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดเท่านั้น             

เปิดใจ! "แตงโม-ภัทรธิดา" แถลงทั้งน้ำตา สาเหตุคิดสั้นฆ่าตัวตาย

         ด้าน นพ.คมสัน อังคณานุพงศ์ แพทย์เจ้าของไข้ได้เล่าถึงอาการของ น.ส.ภัทรธิดา ว่าตอนนี้อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย พ้นขีดอันตรายแล้วในทางการแพทย์ แต่จะมีประเด็นที่สำคัญอยู่ก็คือเนื่องจากตัวผู้ป่วยมีเรื่องทางด้านจิตใจ เรื่องของการซึมเศร้า และที่ผ่านมาได้รับการรักษาจากแพทย์ประจำตัวอยู่ ตอนนี้อยู่ในระยะพักฟื้น และต้องการกำลังใจเป็นอย่างยิ่ง เป็นจุดที่เซนซิทีฟ อยากจะฝากทุกคนช่วยกันดูแลด้านจิตใจเป็นหลัก อะไรที่ไม่ดีอาจจะต้องหลีกเลี่ยงไป ระดับที่เห็นในห้องฉุกเฉิน ระดับการรู้ตัวค่อนข้างน้อยมาก ที่น่ากลัวคือเรื่องของตัวยาไปกดการหายใจ มันอันตรายสำหรับผู้ป่วย ซึ่งอาจทำให้เกิดการเสียชีวิตได้ ปริมาณยาในประวัติที่ผู้ป่วยกินเข้าไปประมาณ 10 เม็ด ซึ่งถือว่าปริมาณมากอยู่ ทั้งนี้ เมื่อเจอครั้งแรก คนไข้ระดับการรู้สึกตัวน้อยมาก ไม่สามารถตอบสนองกับคนทั่วไปได้ เพราะยาในกลุ่มนี้ถ้ากดการหายใจจะทำให้คนไข้หายใจไม่ได้ ก็จะเสียชีวิตด้วยสาเหตุขาดอากาศไป              ส่วนเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องอนุญาตให้ญาติเข้าไปถ่ายภาพขณะทำการรักษาคนไข้ นพ.คมสัน กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลมีนโยบายอยู่แล้วห้ามถ่ายภาพโดยเฉพาะภาพเคลื่อนไหว แต่ไม่สามารถดูแลได้ทุกมุมทุกจังหวะ เพราะต้องดูแลคนไข้เป็นหลักก่อน จึงไม่ได้ใส่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง บอกตรงๆ ว่า ทางโรงพยาบาลไม่ทันเห็น ตอนนั้นอาจจะตื่นเต้น ต่อไปจะต้องระวังขึ้น                  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางโตโน่ยังคงเก็บตัวเงียบ ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น โดยจะพร้อมแถลงข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นในวันที่ 8 กรกฎาคม ที่บริษัทจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ชั้น 21 เวลา 17.00 น. 

logoline