svasdssvasds
เนชั่นทีวี

บันเทิง

ติ๋ม ทีวีพูล'วอนพนง.ลาออก-26ก.ค.จอดำ

28 มิถุนายน 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

'ติ๋ม ทีวีพูล' ไลน์หลุด ทีวีดิจิทัล 2 ช่อง ขาดทุนหนัก 26 ก.ค.จอดำถาวร วอนพนักงานลาออก หลังแบกค่าใช้จ่ายไม่ไหว ล่าสุดออกแล้ว 20 คน


27 มิ.ย. 58 กรณีบริษัท ไทยทีวี จำกัด ผู้บริหาร เจ้าของกิจการทีวีดิจิทัลช่องไทยทีวี และโลก้า ตัดสินใจขอคืนใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิทัล ทั้ง 2 ช่องแก่ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เนื่องจากผลประกอบการไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ขณะที่ปัจจุบันทีวีทั้ง 2 ช่อง ยังคงออกอากาศรายการอยู่ตามปกติ ท่ามกลางความหวังของผู้ชมรายการที่อยากเห็นช่องไทยทีวี และโลก้า พลิกฟื้นสถานะและเดินหน้ากิจการ เพื่ออยู่คู่กับวงการธุรกิจทีวีดิจิทัลต่อไป แต่ล่าสุด เป็นที่แน่นอนและน่าเสียดายว่าทีวีทั้ง 2 ช่องจะต้องปิดตัวเองลงและยุติการออกอากาศช่วงปลายเดือนหน้านี้แล้ว
นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือ "ติ๋ม ทีวีพูล" ประธานกรรมการ บริษัท ไทยทีวี จำกัด ให้สัมภาษณ์วันนี้ (27 มิ.ย.) ชี้แจงถึงสถานภาพของทีวีดิจิทัลในสังกัดทั้ง 2 ช่อง ว่า ทีวีดิจิทัลทั้ง 2 ช่อง คือ ช่องข่าว "ไทยทีวี" และช่องเด็กและครอบครัว "โลก้า" จะยุติการออกอากาศในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้อย่างแน่นอนแล้ว แต่ยืนยันว่าแม้จะยุติการออกอากาศ แต่ทางบริษัทจะจับคู่พันธมิตรจากช่องดาวเทียมต่างๆ เพื่อให้สามารถออกอากาศได้ต่อไป ดังนั้น พนักงานไทยทีวี ยังมั่นใจได้ว่า ทุกคนยังมีงานทำตามปกติ
คำชี้แจงของ ประธานกรรมการบริษัทไทยทีวี มีขึ้นหลังจากช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้อความสนทนาของ นางพันธุ์ทิพา ที่สื่อสารกันในแอพพลิเคชั่นไลน์ของกลุ่มผู้บริหารบริษัท ได้หลุดออกมาเผยแพร่ในสังคมออนไลน์จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงสถานะของบริษัทไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายจากการบริหารทีวีดิจิทัลทั้ง 2 ช่องได้อีกต่อไป ถึงขั้นต้องเรียกร้องให้พนักงานยอมสมัครใจลาออกเพื่อรักษาบริษัทไว้ โดยข้อความสนทนาในไลน์ของผู้บริหาร ไทยทีวี ระบุตอนหนึ่งว่า
"สำนักข่าวต้องจ่ายถึงเดือนละ 1.9 ล้าน ยังไม่รวมข่าวภูมิภาคอีกประมาณ 1 แสน และค่าน้ำมันรถและค่าเสื่อมมากมาย กว่าจะได้ข่าวมาแต่ละชิ้น เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้โดยตรง เราจึงต้องลดค่าใช้จ่าย และจะลดลงไปเรื่อยๆ ให้เหลือเท่า โต๊ะข่าวบันเทิง คือประมาณ 600,000 บาท ขอย้ำว่าเราจะไม่ไล่ใครออก เพราะจะทำให้พนักงานคนนั้นๆ เสียประวัติไปตลอดชีวิตการทำงาน"
"ใครยังไม่มีทางไปจะอยู่ก็ไม่ว่านะคะ เพราะถ้าลาออกเราก็สามารถรับเงินจากประกันสังคมได้ 3 เดือน เพราะบริษัทเราส่งประกันสังคมเดือนละหลายล้านบาท การลาออกไม่มีใครลำบากหรอก แต่จะทำให้บริษัทอยู่ได้ ทีวีพูลจะมาเลี้ยงไทยทีวีตลอดไม่ได้ เพราะทีวีพูลมีแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ปีหน้า ต้องทำกำไรโชว์ในตลาดด้วยนะคะ"
"เราต้องลดคนเพราะประชุมฝ่ายขายแล้ว ยอดรายได้ไม่ได้ตามเป้า ขายได้เดือนละ 3 - 4 ล้าน เฉพาะเงินเดือนพนักงานของไทยทีวี 8.5 ล้าน รวมค่าเช่าดาวเทียม HD แล้ว เป็นเงินเดือนละ 13.5 ล้าน บริษัทต้องลดค่าใช้จ่ายทุกประเภท มิฉะนั้นไทยทีวีจะขาดทุนเดือนละ 10 ล้าน จะให้ทีวีพูลมาเลี้ยงทุกเดือนก็ไม่ไหว ใครที่มีทางไปก็ไปก่อน เมื่อมีรายได้เพิ่มเราจะเรียกกลับมาใหม่ หรืออาจมารับเป็น Freelance ก็ได้ ขอบคุณ"
หลังจากข้อความสนทนาเชิงนโยบายดังกล่าว ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อยู่ในสังคมออนไลน์อยู่ไม่นาน ผู้บริหารไทยทีวี จึงตัดสินใจชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชนในวันนี้ (27 มิ.ย.) โดยนางพันธุ์ทิพา กล่าวว่า ข้อความสนทนาดังกล่าว ไม่ใช่คำสั่งปลดพนักงาน แต่ขอความร่วมมือให้พนักงานสมัครใจยื่นใบลาออก เนื่องจากบริษัทมีความจำเป็นต้องลดรายจ่าย ซึ่งเป็นไปตามแผนการบริหารจัดการเมื่อบริษัทขาดทุน ล่าสุดมีพนักงานสมัครใจยื่นลาออกแล้ว 20 คน จากพนักงานทั้งหมด 400 คน
นางพันธุ์ทิพา กล่าวด้วยว่า การลาออกจะทำให้พนักงานมีอนาคตที่ดีกว่าการทำงานที่เดิม หรือหากพนักงานไทยทีวีต้องการย้ายมาทำงานที่ทีวีพูล ซึ่งเป็นบริษัทในเครือก็สามารถทำได้ เพราะทีวีพูลอยู่ระหว่างการขยายตัว ในฐานะผู้ผลิตรายการให้ทีวีช่องต่างๆ นอกจากนี้ ไทยทีวียังมีแผนลดต้นทุนด้วยการซื้อข่าวจากสำนักข่าวอื่น เพราะปัจจุบันมีรายจ่ายเฉพาะการผลิตข่าวอยู่ที่เดือนละประมาณ 2 - 3 ล้านบาท แต่หากซื้อข่าวจากสำนักข่าวอื่น จะมีรายจ่ายเหลือเพียง 2 แสนบาทต่อเดือน ทำให้แต่ละเดือนลดรายจ่ายได้ประมาณ 1.8 ล้านบาท ถึง 2.8 ล้านบาท
"วันที่ 26 กรกฎาคมนี้ ทีวีดิจิทัลทั้ง 2 ช่อง จะยุติการออกอากาศ แต่ยืนยันว่า แม้จะยุติการออกอากาศ แต่ทางบริษัทจะจับคู่พันธมิตรจากช่องดาวเทียมต่างๆ หาพันธมิตรใหม่ เพื่อให้สามารถออกอากาศได้ต่อไป ดังนั้น พนักงานไทยทีวียังมั่นใจได้ว่า ทุกคนยังมีงานทำตามปกติ"

logoline