ศาลแพ่งสั่งระงับฉาย "ฟาสต์ 7" คุ้มครองชั่วคราว "เสี่ยเจียงฟ้องจาพนม"

--ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก --26 มี.ค.58 --นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความรับมอบอำนาจนาย สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ หรือเสี่ยเจียง ผู้ก่อตั้งบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดและประธานสหมงคลกรุ๊ป ผู้ประกอบธุรกิจภาพยนตร์ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายพนมหรือทัชชกร ยีรัมย์ หรือจา พนม พระเอกภาพยนตร์บู๊ชื่อดัง ต้มยำกุ้ง และองค์บาก อายุ 38 ปี , บริษัทยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ซึ่งอำนวยการสร้างภาพยนตร์ Fast and Furious 7 (ฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียส ภาค 7) และบริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) จำกัด หรือยูไอพี ประเทศไทย เป็นจำเลยที่ 1-3 เรื่องละเมิด ผิดสัญญา เรียกค่าเสียหาย 1,600 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จากกรณีที่นายพนม หรือ จา พนม ร่วมแสดงภาพยนตร์บริษัทอื่น ทั้งที่นายพนม ยังติดสัญญาการแสดงกับบริษัท สหมงคลฟิล์ม ฯ ที่จะสิ้นสุดสัญญา ปี 2566 โดยการยื่นฟ้องนายสุวัตร ทนายความโจทก์ ยังได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ระงับการฉายภาพยนตร์เรื่อง Fast and Furious 7 ที่นายพนม หรือจา พนม จำเลยที่ 1 ร่วมแสดง ทั้งที่ยังมีภาระผูกพันกับสัญญาการแสดงกับบริษัท สหมงคลฟิล์ม ซึ่งภาพยนตร์ดังกล่าวมีกำหนดฉายในประเทศไทยในวันที่ 1 เม.ย.นี้ ขณะที่ศาลพิจารณาคำร้องแล้ว ให้ดำเนินการไต่สวนฉุกเฉินทนายฝ่ายโจทก์ จนแล้วเสร็จเมื่อเวลา 17.00 น.โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีร่วมฟังการไต่สวน ภายหลังนายสุวัตร ทนายความบ.สหมงคลฟิล์มโจทก์ เปิดเผยผลการไต่สวนว่า เมื่อไต่สวนพยานแล้ว 2 ปาก ศาลได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวโจทก์ โดยให้ระงับการฉายภาพยนตร์ Fast and Furious 7 ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาในคดี หรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น ซึ่งคำสั่งศาลดังกล่าวมีผลการระงับฉายภาพยนตร์ภายในประเทศเท่านั้น นายสุวัตร ยังกล่าวอีกว่า เหตุที่ต้องนำมาฟ้องต่อศาลแพ่งในวันนี้ และขอคุ้มครองชั่วคราวนั้น เนื่องจากทราบว่าภาพยนตร์ดังกล่าว กำหนดฉายรอบสื่อมวลชนในวันที่ 31 มี.ค. และฉายรอบจริงในวันที่ 1 เม.ย.นี้ ซึ่งการนำภาพยนตร์ที่ จา พนม ร่วมแสดง แต่จา พนม ยังติดสัญญากับสหมงคลฟิล์มมาฉายนั้น ถือเป็นการละเมิดสัญญา จึงได้เรียกค่าเสียหาย 1,600 ล้านบาท โดยจา พนม ได้เซ็นสัญญา กับสหมงคลฟิล์มไว้ เดือน ก.ค.56 และจะหมดสัญญาในปี 2566 ซึ่งค่าเสียหายที่เราเรียกไป คำนวณ จากการซื้อตัว จา พนม มาจากบริษัทอื่น รวมถึงการปลุกปั้นและโปรโมทภาพยนตร์ต่างๆ กระทั่งมีชื่อเสียง ทั้งนี้สำหรับการพิจารณาคดีหลัก เรื่องการผิดสัญญา ศาลแพ่ง ได้นัดชี้สองสถานเพื่อกำหนดวันสืบพยานและประเด็นนำสืบในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น. เมื่อถามว่า ศาลมีคำสั่งระงับการฉายภาพยนตร์แล้วจะมีผลกระทบต่อโรงภาพยนตร์และฝ่ายจำเลยที่เตรียมจะฉายหนังหรือไม่ นายสุวัตร ทนายความ กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องมีการเจรจากัน หากบริษัทหรือโรงภาพยนตร์ต่างๆได้รับผลกระทบ สามารถยื่นคัดค้าน หรือเข้ามาเจรจากันกับเราได้ ซึ่งแล้วแต่บริษัทหรือโรงภาพยนตร์ว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยเราพร้อมจะคุย หลังจากนี้หากทั้งหมดเข้ามาเจรจาและถ้าตกลงกันได้ เราก็สามารถที่จะถอนฟ้องได้ตามขั้นตอน