svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

10 ปีข้างหน้า.. โลกอนาคตที่เหนือจินตนาการ

21 กรกฎาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ในวันนี้ ผู้นำทุกประเทศทั่วโลกต่างมีความกังวลว่าประชากรของชาติจะมีความรู้ความสามารถและความเชี่ยวชาญ ที่ตรงกับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ผันผวนอย่างหนักหรือไม่

ซึ่งยากมากในการคาดการณ์ แต่อย่างไรก็ตาม นักอนาคตศาสตร์กลุ่มหนึ่งก็สามารถพยากรณ์อนาคตได้อย่างแม่นยำมาโดยตลอด

และพวกเขาก็ได้พยากรณ์สิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นภายใน 10 ปีข้างหน้า ซึ่งผู้เขียนขอนำมาเสนอพอสังเขปดังนี้

อนาคตของธนาคารใน 10 ปีข้างหน้าจะไม่หลงเหลือรูปแบบที่เห็นกันในวันนี้เลย เพราะต้องใช้การแสดงตนด้วยระบบชีวภาพ

เช่น ลายนิ้วมือ ม่านตา เสียง เป็นต้น และจะมีความเป็นกายภาพที่หลงเหลืออยู่น้อยมาก ซึ่งจะมีลักษณะเหมือนกับในหนัง Sci-Fi เรื่อง Minority Report ที่ Tom Cruise เล่นเป็นพระเอก
-http://www.telegraph.co.uk/finance/newsbysector/banksandfinance/11875841/In-10-years-banking-will-look-like-a-sci-fi-film.html

ยานยนต์ใน 10 ปีข้างหน้าจะขับเคลื่อนด้วยตัวเองด้วยพลังงานไฟฟ้า และรถจะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ด้วยอุปกรณ์เซ็นเซอร์มากมายรอบคัน จนทำให้รถทุกคันมีระบบบอกตำแหน่งที่แม่นยำแบบ realtime สามารถสื่อสารกันได้เพื่อลดอุบัติเหตุ และจัดการกับระบบจราจรในภาพรวม-https://futurism.com/images/car-tech-forecast-the-next-10-years/

โดรนใน 10 ปีข้างหน้าจะถูกใช้เป็นปกติในชีวิตประจำวันของทุกคน และจะเป็นเครื่องมือเพื่อการส่งสินค้า และการติดตามตรวจสอบสภาพอากาศและการจราจรแบบ realtime รวมทั้งเป็นส่วนสำคัญของการแพร่ภาพและการรักษาความปลอดภัยของเมืองและที่พักอาศัย
-http://www.businessinsider.com/drones-will-become-a-reality-in-our-daily-lives-2014-4

พลังงานจากแสงอาทิตย์ (Solar Energy) จะเป็นแหล่งพลังงานหลักของโลก ที่มีราคาถูกกว่าพลังงานอื่นๆใน 10 ปีข้างหน้า และผู้ใช้อย่างพวกเราจะเป็นผู้ผลิตด้วย จนทำให้อุตสาหกรรมพลังงานเปลี่ยนรูปแบบไปอย่างมาก คือ ผู้บริโภคจะเข้ามาเปลี่ยนระบบนิเวศของอุตสาหกรรม คล้ายๆกับการพลิกผันที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมสื่อ ที่ผู้บริโภคมีอำนาจในการผลิตเองและบริโภคแลกเปลี่ยนกันเอง
-https://venturebeat.com/2011/06/16/solar-energy-overtakes-fossil-10-years/

งานของคน 80 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา และ 15 ล้านคนในอังกฤษ จะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ภายใน 10 ปีข้างหน้า ด้วยระบบอัตโนมัติ และจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ทั่วโลก ผลกระทบที่เห็นได้ชัดที่สุดของการใช้หุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมคือ การตัดตำแหน่งงานที่ไม่มีทักษะจำนวนมากออกจากตลาดทั่วโลก อย่างไรก็ตาม จะเกิดการสร้างตำแหน่งงานใหม่ๆทางเทคนิคสำหรับการบำรุงรักษาเทคโนโลยีมากขึ้น เช่นเดียวกับที่สำนักงานคอมพิวเตอร์ที่เกิดขึ้น ที่ต้องมีช่างเทคนิคต่างๆ จำนวนมากมาย ดังนั้นหุ่นยนต์ก็ต้องการการบำรุงรักษาทางเทคนิคจากมนุษย์เช่นกัน
-http://bgr.com/2015/11/16/robots-replacing-human-jobs/

Smartphones จะเข้าแทนที่บัตรเครดิต, พาสปอร์ต, GPS, Remote control, โทรทัศน์, กล้องถ่ายรูปและคอมพิวเตอร์ ภายใน 10 ปีจากนี้ และ smartphones จะเชื่อมต่อกับเครือข่ายเซ็นเซอร์ที่เป็นอุปกรณ์ตรวจจับข้อมูลต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนเซ็นเซอร์ถึง 1 แสนล้านชิ้นที่เชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ต จนโลกจะถึงจุดที่เรียกระบบเศรษฐกิจว่า "A Trillion-Sensor Economy"

ซึ่งจะมีข้อมูลจำนวนมหาศาลเคลื่อนย้ายอยู่บนโครงข่ายอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆทั่วโลก จนทำให้เกิดการวิเคราะห์ผลจากข้อมูลมหาศาล (Big Data Analytics) เกิดความชาญฉลาดและผลิตความรู้ใหม่ๆ ให้กับโลกมากมาย เพิ่มพูนขึ้นอย่างก้าวกระโดด
-http://www.rl360.com/row/aboutus/technologyarticles/top10_smartphone_replace.htm
-https://singularityhub.com/2015/05/11/the-world-in-2025-8-predictions-for-the-next-10-years/
การโจมตีทางไซเบอร์ (cyber attack) ภายใน 10 ปีข้างหน้า จะเป็นภัยคุกคามที่หนักหนาสาหัสและจะเป็นภัยคุกคามหลักของทุกประเทศทั่วโลก และหน่วยงานด้านความมั่นคงของชาติในทุกประเทศจะถูกพลิกผันในด้านการจัดโครงสร้างใหม่ทั้งหมด
รวมทั้งต้องยกเครื่องขีดความสามารถของบุคคลากรในหน่วยงานทั้งหมด เพราะจะไม่สามารถตอบโต้กับภัยคุกคามไซเบอร์ได้บนขีดความสามารถเดิมได้อีกต่อไป
-http://www.wired.co.uk/article/cybersecurity-2025-skills-risks
กรณีศึกษาจากหลายประเทศที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาประเทศ มักจะพบว่ารากเหง้าของความสำเร็จมักเกิดจากระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ
ดังนั้น ปัญหาที่ผู้นำทุกประเทศต้องค้นหาคำตอบให้ได้คือ "เรากำลังผลิตและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อทำงานในปี 2025 หรือเพื่อทำงานในปี 2017"
ดังนั้น หน้าที่ของเราที่สำคัญที่สุดในขณะนี้คือ การพัฒนาระบบการศึกษาที่ทันสมัยสอดคล้องต่อทิศทางของโลก และต้องมีกลไกที่จะดึงดูดทรัพยากรบุคคลที่มีค่าเอาไว้ แต่ถ้าเราไม่ให้ความสนใจที่จะดึงคนเหล่านี้เอาไว้ (เพราะ knowledge workers คนยุคใหม่เขาจะเลือกไปอยู่กับประเทศอื่นที่ดีกว่า) อีกทั้งไม่ให้การศึกษาที่เป็นไปในทิศทางของโลก เราอาจจะพบกับความอ่อนแอที่สุดของชาติได้ในอนาคตอันใกล้https://en.m.wikipedia.org/wiki/Knowledge_workerhttps://hbr.org/2014/10/what-peter-drucker-knew-about-2020

พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิทาจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)www.เศรษฐพงค์[email protected]

logoline