ตลาดหุ้นเอเชียยืนในแดนลบ รับ ศก.จีนทรุด

ธนาคารกลางจีนวางแผนที่จะอัดฉีดเงินมูลค่า 1.30 แสนล้านหยวน หรือ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้าสู่ระบบการเงินในวันนี้ เพื่อลดความตื่นตระหนกของนักลงทุน หลังจากที่ตลาดหุ้นจีนถูกกระหน่ำขายอย่างหนัก การตัดสินใจไม่ขยายวงเงินสินเชื่อดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่า ธนาคารกลางจีนมีเป้าหมายที่จะคุมเข้มนโยบายการเงิน ตามแผนการของคณะผู้นำจีนที่ต้องการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อหนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยวันนี้ได้รับผลกระทบจากมาตรการจีนเช่นเดียวกับตลาดหุ้นเอเชียตลาดอื่นๆ
โดยหุ้นไทยปิดซื้อขาย ดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,253.34 จุด ปรับลดลง -10.07 จุด หรือคิดเป็น -0.80% มูลค่าการซื้อ-ขายทั้งสิ้น 45,355.64 ล้านบาท
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียปรับลดลงเป็นส่วนใหญ่
--------------------
ตลาดหุ้นเอเชียปิดตลาด (5ม.ค.) Nikkei (ญี่ปุ่น) 18,374.00 -76.98 (-0.42%)Hang Sang (ฮ่องกง) 21,188.72 -138.40 (-0.65%)SSE Composite (จีน) 3,287.71 -8.55 (-0.26%)Straits Times (สิงคโปร์) 2,825.51 -10.46 (-0.37%)All Ordinaries (Australia) 5,239.20 -83.60 (-1.57%)
--------------------
ตลาดหุ้นเอเชียปิดตลาด (5ม.ค.)S&P BSE Sensex (อินเดีย) 25,632.48 +9.13 (+0.04%)Jakarta (อินโดนีเซีย) 4,570.20 +44.29 (+0.98%)FTSE Bursa Malaysia (มาเลเซีย) 1,665.70 +12.33 (+0.75%)KOSPI (เกาหลี) 1,930.53 +11.77 (+0.61%)TWSE (ไต้หวัน) 8,075.11 -39.15 (-0.48%)
ส่วนวันพรุ่งนี้ คงต้องจับตาดูว่า ผลกระทบจากตลาดหุ้นจีนเปิดตลาดจะยังยืนในแดนลบหรือไม่
โดยผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ระบุว่า การปรับลดค่าเงินหยวนของทางการจีนลงมาในครั้งนี้ถือว่าเป็นการปรับลดลงมามากสุดนับตั้งแต่ปี 54 โดยหลังการปรับลดค่าเงินหยวน ทำให้เงินหยวนอ่อนกว่า 6.5 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ เพราะเผชิญกระแสกดดันมากขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจชะลอ และมองว่า มีโอกาสที่ทางการจีนจะปรับลดค่าเงินหยวนลงไปอีกครั้ง เพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจจีน ที่ยังคงอ่อนแอ ขณะที่จีนลดค่าเงินหยวนหลายครั้งรวมเกือบร้อยละ 5 ในหนึ่งสัปดาห์เมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อน สร้างความสั่นสะเทือนให้แก่ตลาดการเงินโลก