รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ เปิดเผยภายหลังประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหาปาล์มน้ำมันตกต่ำว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ตรวจสอบการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ทั้งหมดให้เร็วที่สุดภายใน 10 วัน เพื่อช่วยเหลือเฉพาะเกษตรกรรายย่อย ที่ปลูกไม่เกิน 70 ไร่
โดยให้องค์การคลังสินค้า หรือ อคส.เข้าไปซื้อน้ำมันปาล์มดิบ จากโรงสกัด กิโลกรัมละ 26 บาท 20 สตางค์ จำนวน 1 แสนตัน ใช้งบประมาณ 2,900 ล้านบาท ภายในกลางเดือนนี้ คาดว่าราคาปาล์มดิบจะขยับขึ้นมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 4 บาท 20 สตางค์ เชื่อว่ามาตรการนี้ จะแก้ปัญหาล้นตลาดในช่วงผลผลิตปาล์มกำลังออกสูงเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม
นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงเกษตรฯ สำรวจข้อมูลเกษตรกรที่ปลูกปาล์มให้เป็นปัจจุบัน โดยให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์ม และให้บูรณาการข้อมูลร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ในการสำรวจสต็อกปาล์มน้ำมัน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน โดยให้ปรับฐานข้อมูลตัวเลขให้ตรงกัน
รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทบทวนแผนยุทธศาสตร์ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปาล์มน้ำมันในตลาดโลก โดยเฉพาะการทบทวนแผนการเพิ่มพื้นที่ปลูกผลปาล์ม เพราะการเพิ่มพื้นที่ปลูก อาจไม่สำคัญเท่ากับการเพิ่มผลผลิตต่อไร่