svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

"เครือเนชั่น"ยื่นฟ้องศาลปกครอง เพิกถอน"มติกสท."เอื้อครอบงำสื่อ

19 พฤษภาคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

3 บริษัทเครือเนชั่น NMG-NBC-NNV ยื่นฟ้องศาลปกครอง เอาผิดกสท.ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ โดยรับรองมติ 3:2 กรณี SLC ถือหุ้น NMG 12.27% ชี้ผิดหลักเกฎฑ์ประมูลทีวีดิจิตัล, ขัดม.31พ.ร.บ.ประกอบกิจการฯ เปิดช่องสู่การครอบงำสื่อ ขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ร้องให้ศาลสั่งเพิกถอนมติกสท.วันที่ 23, 30 มี.ค. 2558 พร้อมสั่ง SLC และพวก ลดถือหุ้นเนชั่นฯไม่เกิน 10% ประธานขณะที่สนช.รับสอบมติกสท.


วันนี้ (19 พ.ค. 2558) นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NBC เป็นตัวแทนผู้บริหารเครือเนชั่น จาก 3 บริษัท ซึ่งประกอบด้วย บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) NMG, บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) NBC, และ บริษัท เอ็นบีบีซี เน็กซ์ วิชั่น จำกัด NNV พร้อมด้วยทนายความ เดินทางไปยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครอง เอาผิดการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) ที่รับรองมติ 3:2 ระบุว่า การเข้ามาซื้อหุ้นเนชั่น ของบริษัท โซลูชั่นคอร์นเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน)หรือ SLC ไม่ขัดหลักเกณฑ์การประมูลทีวีดิจิทัล ที่ว่าด้วยสัดส่วนการถือหุ้นในสื่อประเภทเดียวกัน เกิน 10% ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ที่ปรึกษากฎหมายของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) มีความเห็นมาแล้วว่าต้องใช้หลักเกณฑ์การประมูลไปจนสิ้นสุดสัญญา มตินี้จึงเท่ากับผิดหลักเกณฑ์ข้อกฎหมายร้อง 3 ประเด็นเพิกถอนมติ-สั่งลดหุ้น
เครือเนชั่นได้เรียกร้องให้ ศาลปกครองพิจารณาใน 3 ประเด็นหลัก คือ 1.ขอให้ศาลเพิกถอนมติกสท.ในคราวประชุมครั้งที่ 11/2558 วันที่ 23 มีนาคม 2558, ประเด็นที่ 2.ขอให้ศาลเพิกถอนมติกสท.ในคราวประชุม ครั้งที่ 12/2558 วันที่ 30 มีนาคม 2558 วาระที่ 4.2.9 ข้อ 5. ในส่วนที่ให้ถือการงดออกเสียง ของพันเอกดร.นที ศุกลรัตน์ และพันตำรวจเอกทวีศักดิ์ งามสง่า มีผลเท่ากับไม่เห็นชอบกับข้อเสนอของสำนักงานกสทช.
 และประเด็นที่ 3.ขอให้ศาลมีคำสั่งให้กสท.ดำเนินการออกคำสั่งทางปกครองไปยังสปริงนิวส์ ในฐานะผู้รับใบอนุญาตให้ SLC และกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ปรับลดสัดส่วนการถือหุ้น NMG เพื่อมิให้มีความสัมพันธ์ในลักษณะการเป็นผู้ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน ไม่ให้เกิดการแทรกแซง หรือครอบงำกิจการ ระหว่างผู้รับใบอนุญาตและผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันตามกฎหมาย หากสปริงนิวส์ในฐานะผู้รับใบอนุญาต SLC และกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่เกี่ยวข้องอื่นไม่ดำเนินการตามคำสั่ง กสท.ต้องดำเนินการลงโทษทางปกครอง หรือเพิกถอนใบอนุญาต เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
คำฟ้องดังกลาว อ้างอิงถึงผลประชุมกสท. เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2558 กสท.ได้ประชุมครั้งที่ 12/2558 เพื่อมีมติรับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 11/2558 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2558 ปรากฏว่า คณะกรรมการกสท. 3 คน ประกอบด้วย พลโท ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ, พันเอกนที ศุกลรัตน์ และพันตำรวจโททวีศักดิ์ งามสง่า ได้มีมติรับรองรายงานการประชุม ให้การงดออกเสียงของพันเอกนที ศุกลรัตน์ และพันตำรวจโททวีศักดิ์ งามสง่า มีผลเท่ากับว่าไม่เห็นชอบกับข้อเสนอของสำนักงานกสทช. หรือนับรวมกับเสียงที่ว่า การที่ SLC เข้าถือหุ้น NMG 12.27%ไม่ผิด เมื่อนำมารวมกับการออกเสียงไม่เห็นด้วยของพลโทดร.พีระพงษ์ มานะกิจ จึงทำให้ กสท.มีมติเป็น 3: 2 ระบุว่า การถือหุ้นดังกล่าวไม่ผิดหลักเกฎฑ์การประมูลทีวีดิจิทัล
ดังนั้น กสท.จึงไม่มีคำสั่งทางปกครอง ไปยัง SLC ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ช่องข่าวสปริงนิวส์ ให้ปรับลดสัดส่วนการถือครองหุ้น เพื่อแก้ไขมิให้มีความสัมพันธ์ ในลักษณะการเป็นผู้ที่มีผลประโยชน์ร่วมกันของผู้รับใบอนุญาตทีวีดิจิล ตามหลักเกณฑ์การประมูลทีวีดิจิทัล โดยไม่ออกคำสั่งดังกล่าวเพื่อบังคับให้เป็นไปตามกฎหมาย
มติดังกล่าว ถือเป็นการกระทำทางปกครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการละเมิดทำให้เกิดความเสียหายแก่ทั้ง 3 บริษัทเครือเนชั่น เนื่องจาก NMG ซึ่งเป็นบริษัทแม่นั้นถือหุ้นใหญ่อยู่ใน NBC และ NBC ถือหุ้นใหญ่ใน NNV ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาติทีวีดิจิทัลชองข่าว เนชั่นทีวี ซึ่งเป็นประเภทเดียวกับ ช่องข่าวสปริงนิวส์ ซึ่งถือหุ้นใหญ่โดย SLC การเข้ามาถือหุ้น NMG ถึง 12.27% จึงเกินหลักเกณฑ์การประมูลทีวีดิจิทัล ที่ระบุให้ถือหุ้นในช่องประเภทเดียวกันได้ไม่เกิน 10% มติผิกฏหมายสื่อ-ขัดรัฐธรรมนูญ
กล่าวโดยสรุป มติกสท.ครั้งนี้ ขัดต่อ ประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ พ.ศ. 2556 ข้อ 7. กำหนดว่า คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมการประมูล..7.2 เงื่อนไขการเป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกัน และขัดมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 เพราะประกาศ กสทช.เรื่องหลักเกณฑ์การประมูลทีวีดิจิทัลฯ นั้นออกโดยอาศัยอำนาจ ตามมาตรา 31 แห่งพ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 เพื่อกำหนดสัดส่วนการกระทำที่เป็นการครอบงำกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล จึงเป็นหลักเกณฑ์ที่มีผลบังคับตามกฎหมาย ที่ต้องใช้บังคับกับผู้รับใบอนุญาตภายหลังจากที่ได้รับใบอนุญาตแล้ว
นอกจากนี้ ผลของมติดังกล่าว ยังขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญฯ 2550 มาตรา 47 วรรคท้าย ที่บัญญัติว่า การประกอบกิจการตามวรรคสอง ต้องมีมาตรการเพื่อป้องกันมิให้มีการควบรวม การครองสิทธิข้ามสื่อ หรือการครอบงำระหว่างสื่อสารมวลชนด้วยกันเอง หรือโดยบุคคลอื่นใด ซึ่งจะมีผลเป็นการขัดขวางเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร หรือปิดกั้นการได้รับข้อมูลข่าวสารที่หลากหลายของประชาชน เปิดช่องทางครอบงำสื่อ
การกระทำดังกล่าว จึงเท่ากับเป็นการครอบงำกิจการ เนื่องจากเจ้าของช่องข่าวสปริงนิวส์ มาถือหุ้นเกินสัดส่วนที่กฎหมายกำหนด ในช่องข่าวเนชั่นทีวี ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างการบริหารงาน ของบริษัทในเครือเนชั่นทั้ง 3 บริษัท คือ NMG-NBC และ NNV ผู้ถือใบอนุญาตช่องข่าวเนชั่นทีวี การที่ SLC เข้ามาถือหุ้นถึง 12.27% และยังมีข้อมูลความเกี่ยวโยงการถือหุ้นจากบุคคลอื่นๆ ที่มีความสัมพันธ์กันในนามบุคคล ซึ่งหากรวมสัดส่วนกันแล้วอาจสูงกว่า 30% ย่อมทำให้ 3 บริษัทเครือเนชั่นฯ ถูกควบคุมและครอบงำกิจการ โดยผู้ที่มีผลประโยชน์ร่วมกันกับช่องข่าวสปริงนิวส์ ซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตประเภทช่องข่าวเช่นเดียวกับเนชั่นทีวี ทำให้เครือเนชั่นเสียเปรียบในการประกอบกิจการแข่งขัน ระหว่างผู้รับใบอนุญาตและทำให้ถูกล่วงรู้ความลับทางการค้า และทำให้การประกอบกิจการโทรทัศน์ ไม่เกิดการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรมอย่างสมบูรณ์ เนื่องจาก SLC สามารถกำหนดบุคคลมาเป็นกรรมการในกิจการของเครือเนชั่น เพื่อควบคุมนโยบาย และอำนาจสั่งการ ตลอดจนสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารงานภายใน
อีกทั้ง มติดังกล่าว ยังเป็นการเปิดช่องทาง ให้ผู้มีเงินหรือผู้ประกอบการรายใหญ่เข้าครอบงำกิจการหรือซื้อกิจการของผู้รับใบอนุญาตซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายเล็ก ส่งผลให้ผู้มีอำนาจทางการเงิน สามารถครอบงำกิจการของผู้รับใบอนุญาตทุกราย ผ่านการซื้อหุ้น รวมทั้งกำหนดนโยบาย ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารในแบบเดียวกัน ทำให้ประชาชนขาดเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่หลากหลายทุกแง่มุม และเกิดการผูกขาดในการประกอบกิจการโทรทัศน์ซึ่งเป็นสื่อสารมวลชนและการใช้คลื่นความถี่ซึ่งเป็นทรัพยากรของชาติ
นอกจากนี้ เลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้มีหนังสือตอบกลับมายัง บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) เลขที่ สว(สนช.) 0001/02709 ระบุว่า ตามที่ทางบริษัทฯ ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังสนช. เมื่อวันที่ 23 เม.ย.2558 ขอให้สนช. ดำเนินการพิจารณาการลงมติของกสท. เมื่อวันที่ 30 มี.ค.2558 นั้น ประธานสนช.ได้พิจารณาแล้ว มีดำริให้ส่งเรื่องนี้ไปยัง คณะกรรมธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา ติดตาม และตรวจสอบการปฏิบัติงานของ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เพื่อพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

logoline