เมื่อคืนนี้ ซัมซุงจัดงานเปิดตัว "ซัมซุงกาแลคซี่ เอส 6 และกาแลคซี่ เอส 6 เอดจ์" โดยรองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัทไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ วิชัย พรพระตั้ง บอกว่า ในยุคที่การแข่งขันของสมาร์ทโฟนค่อนข้างรุนแรง ซัมซุงจึงสร้างความต่าง ด้วยการฉีกกฎการแข่งขันแบบเดิมๆ ด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ที่โดดเด่น ที่มาพร้อมสีสัน 3 เฉดสีที่พร้อมเปล่งประกายเมื่อต้องสายไฟ คือ สีขาวมุก สีดำแซฟไฟร์ และสีทองแพลทินั่ม เพื่อตอบโจทย์แนวคิดที่ว่าสมาร์ทโฟนคือแฟชั่น แฟชั่นคือกระจกสะท้อนบุคลิก โดยนอกจาก เอส6 จะโดดเด่นด้วยแฟชั่นแล้ว ยังถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ซัมซุงอีกด้วย เพราะมีการดีไซน์สุดลํ้าในหลายๆ ด้าน คือ
การผลิตที่เลือกใช้โลหะเกรดพรีเมียมที่ใช้ผลิตเครื่องบินและกระจกชนิดที่แข็งที่สุดในโลก อย่าง "Corning Gorilla Glass 4" และนวัตกรรมขอบจอโค้งสองด้านครั้งแรกของโลก
กล้องถ่ายภาพที่มาพร้อมความละเอียดกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล มากกว่าคู่แข่งสำคัญอย่างไอโฟน6 ที่กล้องหลังคมชัด 8 ล้านพิกเซล และเซอร์ไพรส์คอไอทีด้วยเลนส์รับรู้แสง F1.9 (เอฟ-สะ-ต่อบ 1.9) ทำให้ถ่ายภาพได้สว่างและคมชัด เมื่อต้องอยู่ในที่สว่างน้อย ขณะที่ไอโฟน 6 มีขนาดของรูรับแสงอยู่ที่ F 2.2 (เอฟ-สะ-ต่อบ 2.2)
นอกจากนี้ ยังมีความพิเศษอื่นๆ เช่น การเสียบสายชาร์ตเอส6 เพียง 10 นาที จะสามารถใช้งานได้นานถึง 4 ชั่วโมงเต็ม ทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับแท่นชาร์ตไร้สายได้อีกด้วย
ส่วนการคาดการณ์ยอดขายในยุคที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้น มองว่าต้องรอเช็คกระแสตอบรับ หลังจากนี้ 2-3 เดือนอีกที จึงจะกล้าฟันธงเลือกตัวเลขยอดขาย แต่ลึกๆแล้วซัมซุง ก็มั่นใจว่ายอดขายจะต้องดีกว่าปีก่อนแน่นอน
สำหรับซัมซุงกาแลคซี่เอส 6 และ กาแลคซี่ เอส 6 เอดจ์ ขณะนี้ได้เริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว โดยกาแลคซี่ 6 เอส มีราคาเริ่มต้นที่ 2หมื่น3พัน9ร้อยบาท และ กาแลคซี่เอส 6 เอดจ์ เริ่มต้นที่ 2หมื่น7พันเก้าร้อยบาท โดยราคาทั้ง2 รุ่นนี้ ถือย่อมเยาว์กว่า คู่แข่งอย่างไอโฟน 6 และ 6 พลัส เล็กน้อย หรือเฉลี่ย 100 บาท ตามลำดับ