svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

อนุกมธ.กสทช.คงเจตนารมณ์ "ห้ามผูกขาดทีวีดิจิทัล"

28 มกราคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

28 ม.ค. -- อนุกมธ.กสทช.คงเจตนารมณ์ 31 และ ม. 32 ไม่ให้ผู้ได้รับอนุญาตทีวีดิจิทัลหมวดหมู่เดียวกันมีผลประโยชน์ร่วมกัน เหตุขัดหลักเกณฑ์ประมูล เตรียมชงเข้าที่ประชุมกสท.จันทร์หน้า


นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ รองปธ.กมธ.ปฏิรูปสื่อสารมวลชนและเทคโนโลยีสารเทศ เปิดเผยหลังการประชุม ว่า วันนี้ที่ประชุมได้เชิญตัวแทนคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และโทรคมนาคมคือดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือกลต.คือนายเอนก อยู่ยืน โดยได้มีการพูดคุยกันถึงการป้องกันการผูกขาด การควบรวมหรือครอบงำกิจการสื่อสารมวลชน ซึ่งจะมีผลต่อการรับรู้ข่าวสารข้อมูลประชาชน

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เชิญมาพูดคุยเรื่องทั่วไปว่าแนวทางการกำกับดูแล ควรเป็นอย่างไรในปัจจุบัน มีปัญหาอะไรหรือไม่และในอนาคตจะมีแนวทางอย่างไรให้เป็นไปตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ เนื่องจากขณะนี้เราอยู่ระหว่างการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ โดยที่ประชุมได้มีการหบิบยกกรณีที่เอสแอลซีเข้ามาถือหุ้นสามัญของเอ็มเอ็มจี แต่เราไม่ได้ลงลึกไปในรายละเอียด แต่มีการพูดคุยกันถึงภาพรวมว่าจากนี้จะต้องทำอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะดังกล่าวขึ้น ซึ่งเข้าใจว่ากมธ.ได้ยกร่างประเด็นนี้ในรัฐธรรมนูญแล้ว ส่วนรายละเอียดก็ต้องมาพูดคุยกันว่าจะป้องกันอย่างไร

นายธวัชชัยได้ชี้แจงในที่ประชุมว่ากสทช.ได้ดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง เช่น การออกประกาศที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไปแล้ว 3 ฉบับและอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 1 ฉบับซึ่งสอดคล้องกับพรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ม.31 และม.32 ส่วนเรื่องการกำกับดูแลผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล มีการกำหนดว่าจะเป็นเจ้าสื่อทีวีดาวเทียมดิจิตอลได้ไม่เกินสามช่องประเภทเดียวกันได้ไม่เกินช่องเดียว การถือเกิน 1 ช่อง 10 เปอร์เซ็นเป็นหลักการที่ประกาศไว้ก่อนการประมูลแต่วันนี้อนุกมธ.กม.ของ กสทช. ได้มีมติออกมาว่าประกาศนี้โดยเจตนาที่ควรจะเป็นคือควรมีผลบังคับใช้ต่อเนื่องไม่ใช่มีผลเฉพาะตอนประมูล

"เรื่องนี้จะนำเข้าที่ประชุม กสท.วันจันทร์หน้า เพื่อพิจารณา หากพิจารณาแล้วเห็นว่าขัดต่อต่อกฏหมายก็ต้องตั้งกรรมการสอบสวนและเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม โดยให้มีการแก้ไข แต่หากสมมุติว่าที่ประชุมพิจารณาตีความเป็นอย่าง เรื่องนี้ก็อาจจบไป" นายธวัชชัย กล่าว

นายวสันต์กล่าวอีกว่า กลต.ได้ชี้ว่ากลต.เน้นการกำกับดูแลคุ้มครองผู้ลงทุนเป็นหลักว่าจะต้องไม่ดำนินการผิดกฏหมายและต้องเปิดเผยข้อมูลให้เป็นธรรมกับผู้ลงทุน แต่เรื่องการแข่งขันและการครอบงำไมได้อยู่ในจุดประสงค์พรบ.กลต. และการกำกับน่าจะเป็นเรื่องของกสทช.หรือพรบ.แข่งขันทางการค้า ซึ่งกลต.ไม่ได้ดูเรื่องนี้โดยตรง การกำกับก็ไม่ได้แยกว่าเป็นกิจการประเภทไหนหากแต่อยู่บนพื้นฐานเดียวกันทั้งหมด

ทั้งนี้ วันพุธหน้ากมธ.จะเชิญตัวแทนจาก ทีดีอาร์ไอมมาพูดคุยเพิ่มเติมถึงรายละเอียด เรื่องการผูกขาดการควบรวม ครอบงำกิจการสื่อหากจะมีผลกระทบกับการปิดกั้นหรือการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่หลากหลายของประชาชนจะต้องดำเนินการอย่างไรเพราะเราไม่ต้องการให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้ขึ้นมา

อย่างไรก็ตามกมธ.จะไม่เชิญตัวแทนเอสแอลซีหรือบริษัทเนชั่นมาพูดคุยเพราะไม่ได้หยิบยกเรื่องมาเป็นกรณีพิเศษ และเราไม่ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายมาให้ข้อมูลแต่เรามองในเชิงการกำกับดูแลภาพรวม

ส่วนระหว่างที่ผู้ให้ข้อมูลจะยกตัวอย่างหรือมีกรณีศึกษาเรื่องใดมาพูดคุยก็เป็นเรื่องเฉพาะหากไปดำเนินการเรื่องนี้ในลักษณะสอบสวนก็จะถูกตั้งคำถามได้ ดังนั้น ทางกมธ.จึงดำเนินการในเรื่องหลักการเท่านั้น

logoline