การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. วันนี้ พิจารณาร่าง พ.ร.บ. ภาษีการรับมรดก และ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร มีรัฐมนตรีคลังสมหมาย ภาษี เช้าชี้แจงหลักการและเหตุผลของ พ.ร.บ.ภาษีการรับมรดกว่า ที่ผ่านมาการถ่ายโอนทรัพย์สินกองมรดกไม่ต้องเสียภาษี ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรม จึงควรจัดเก็บเพื่อไปพัฒนาพัฒนาประเทศยกระดับการดำรงชีพประชชนยากไร้ โดยไม่ให้กระทบผู้ได้รับมรดกพอสมควรกับการดำรงชีพ
ส่วนร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร เป็นการแก้ไขให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.การการรับมรดก ซึ่งประมวลรัษฎากรยังมีการงดเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะ ปัจจุบันรายได้จากการเก็บภาษีอยู่ที่ 18% ต่อจีดีพี ขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วสูงถึง 30-40 % ซึ่งการจัดเก็บภาษีสูงไม่ได้หมายความว่าไปรีดเค้นจากประชาชน แต่เป็นการเก็บเพื่อให้มีการกระจายรายได้ไม่ไปกระจุกคนกลุ่มหนึ่ง และเอาเงินมาพัฒนาประเทศ การจัดเก็บภาษีมรดก 10 % จากส่วนที่เกิน 50 ล้านบาท จะทำให้ภาษีขยับอยู่ที่ 21-22 % และหากคนไม่มีเงินชำระภาษีก็สามารถผ่อนจ่ายได้ 5 ปี โดย 2 ปีแรกไม่เสียดอกเบี้ย หรือ หากไม่มีเงินก็สามารถไปจัดตั้งเป็นกองมรดกได้
ขณะที่สมาชิก สนช.ได้อภิปรายอย่างกว้างขาง เช่นคุณประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อภิปรายว่า 12 ใน 25 ประเทศ ที่จัดเก็บภาษีมรดกปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้ว อย่าง ออสเตรเลีย แคนาดา / นิวซีแลนด์ / นอร์เวย์ เพราะ ไม่คุ้มค่าการจัดเก็บ หรือ ไม่ต้องการให้รายได้ออกไปนอกประเทศจากการหลบเลี่ยงภาษีมรดก และ สัดส่วน 10 % นั้นถือว่าสูงเป็นลำดับที่ 5 ของโลก ซึ่งประเทศไทย ยังมีทางเลือกในการเก็บภาษี โดยการการจัดเก็บภาษีฟุ่มเฟือยทั้งรถยนต์ เหล้า บุหรี่ ที่จะทำให้การจับเก็บรายได้เพิ่มขึ้น
เช่นเดียวกับ คุณสมชาย แสวงการ ฝากให้รัฐบาลพิจารณารอบด้าน จัดการรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วน เพราะนักวิชาการหลายมหาวิทยาลัยตรงกัน ว่าภาษีมรดกไม่สามารถแก้ปัญหาเหลื่อมล้ำได้ตรงจุด แต่อยากให้ผลักดันกฎหมายภาษี ทีดิน สิ่งปลูกสร้าง ลดความเหลื่อมล้ำ ที่ต้องนำเข้าสู่สภาโดยเร็ว
ขณะที่ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ เป็นห่วงการจัดเก็บภาษีมรดก เพราะการจัดเก็บไม่แน่นอน รายได้น้อย แต่มีภาระมาก เพราะจะมีการหลีกเลี่ยงด้วยการตั้งกองมรดก มูลนิธิ รวมไปถึงการโยกย้ายไปต่างประเทศ
จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบในหลักการของร่างพ.ร.บ.ภาษีการรับมรดก พ.ศ.... ด้วยคะแนนเห็นชอบ 160 เสียงต่อ 16 เสียง และงดออกเสียง 10 เสียง พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 25 คน มีระยะเวลาแปรญัตติ 15 วัน และระยะเวลาทำงานของกรรมาธิการฯ 90 วัน จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบในหลักการของร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ด้วยคะแนนเห็นชอบ 172 เสียงต่อ 8 เสียง และงดออกเสียง 7 เสียง พร้อมทั้งใช้คณะกรรมาธิการวิสามัญชุดเดียวกับที่พิจารณาร่างพ.ร.บ.ภาษีการรับมรดก มีระยะเวลาแปรญัตติ 15 วัน และระยะเวลาทำงานของกรรมาธิการฯ 90 วัน