แท็กซี่เตรียมปรับค่าโดยสารใหม่ 22 ธ.ค.นี้

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ธีระพงษ์ รอดประเสริฐ กล่าวถึงการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่รอบแรกในอัตรา 8% ว่า จะเริ่มใช้อัตราใหม่ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคมนี้ หลังจากมีรถแท็กซี่ผ่านการตรวจสภาพแล้วประมาณ 45,000 คัน หรือประมาณ 50% จากจำนวนรถแท็กซี่ในระบบทั้งหมด 85,000 คัน และคาดว่าจะมีรถแท็กซี่ผ่านการตรวจสอบสภาพเพิ่มขึ้นเป็น 85% ในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ โดยกรมฯจะปรับจูนมิเตอร์รถที่ผ่านการตรวจสอบสภาพเพื่อให้ใช้อัตราค่าโดยสารใหม่

สำหรับรถแท็กซี่ที่ผ่านการตรวจสอบสภาพและปรับจูนมิเตอร์ราคาใหม่ จะมีสติ้กเกอร์ แท็กซี่ผ่านการยกระดับและปรับจูนมิเตอร์แล้ว ติดที่กระจกรถฝั่งซ้ายมือด้านบน หรือฝั่งที่นั่งผู้โดยสาร

ส่วนอัตราค่าโดยสารใหม่ ระยะทาง 1 กิโลเมตรแรก 35 บาท ส่วนระยะทางเกินกว่า 1 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 10 กิโลเมตรละ 5.50 เพิ่มขึ้นจากเดิมกิโลเมตรละ 50 สตางค์ ระยะทางเกินกว่า 10 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 20 กิโลเมตรละ 6.50 เพิ่มขึ้นจากเดิมกิโลเมตรละ 1 บาท

ระยะทางเกินกว่า 20 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 40 กิโลเมตรละ 7.50 เพิ่มขึ้นจากเดิมกิโลเมตรละ 1.50 บาท ระยะทางเกินกว่า 40 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 60 กิโลเมตรละ 8.00 เพิ่มขึ้นจากเดิมกิโลเมตรละ 1.50 บาท ระยะทางเกินกว่า 60 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 80 กิโลเมตรละ 9.00 เพิ่มขึ้นจากเดิมกิโลเมตรละ 1.50 บาท

สำหรับระยะทางเกินกว่า 80 กิโลเมตรขึ้นไป กิโลเมตรละ 10.50 เพิ่มขึ้นจากเดิมกิโลเมตรละ 2 บาท แต่หากเกิดกรณีรถไม่สามารถเคลื่อนที่หรือเดินรถต่อไปได้เกินกว่า 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอัตรานาทีละ 2 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมนาทีละ 50 สตางค์

หลังการปรับอัตราค่าโดยสารใหม่ กรมฯ จะประเมินและตรวจสอบคุณภาพการให้บริการก่อนประกาศปรับอัตราค่าโดยสารระยะที่ 2 ซึ่งจะเพิ่มขึ้นอีก 5% ผู้ประกอบการและผู้ขับรถแท็กซี่จึงควรพัฒนาคุณภาพการให้บริการทั้งสภาพรถและมารยาทคนขับเพื่อสร้างความพึงพอใจต่อผู้ใช้บริการในระยะยาวต่อไป
ส่วนอัตราค่าโดยสารมอเตอร์ไซต์รับจ้างนั้น กรมฯจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อสรุปการปรับค่าโดยสารทั้งระบบให้มีความเหมาะสม สอดคล้องกับราคาน้ำมันในปัจจุบันต่อไป คาดว่าจะได้ข้อสรุปก่อนช่วงปีใหม่นี้