ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย อัทธ์ พิศาลวานิช กล่าวถึงผลประเมิน 10 ปี ข้าวไทยในตลาดโลก ว่า ตั้งแต่ปี 2547- 2556 สัดส่วนการส่งออกข้าวไทยในตลาดโลกมีลำดับที่ลดลง โดยตลาดที่ยังส่งออกได้ดีคือตลาดยุโรปและแอฟริกา โดยประเทศที่ไทยส่งออกข้าวมากที่สุดในปีนี้คือประเทศเบนินในแอฟริกา รองลงมาคือสหรัฐ จีน ไนจีเรีย
ส่วนตลาดอื่นๆ ยังแข่งกับประเทศเวียดนามไม่ได้ โดยผลผลิตข้าวไทยอยู่ที่ 450 กิโลกรัมต่อไร่ ขณะที่ข้าวเวียดนาม อยู่ที่1.2 ตันต่อไร่ คาดว่าอีก 10 ปีข้างหน้าข้าวไทยภายใต้สถานการณ์เดิมจะทำเงินหายไปในตลาดโลกประมาณ 8.7 หมื่นล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 8 พันล้านบาท โดยเฉพาะในตลาดเอเชียจะหายไปประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท
ในช่วงที่ผ่านมาราคาข้าวไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ส่งออกข้าวได้ปริมาณมากขึ้น และปีนี้ไทยแข่งขันส่งออกข้าวกับเวียดนามได้ แต่ถ้าเทียบมูลค่าจะพบว่ามีอัตราการเพิ่มขึ้นต่ำกว่าปริมาณ โดยการส่งออกข้าวช่วง 7 เดือนแรก มีปริมาณ5.6 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 55% และมีมูลค่า 90,850 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20%
สำหรับปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข เพื่อกู้วิกฤติข้าวไทย คือ1.เร่งปฏิรูปการผลิตข้าวไทยทั้งระบบ เพื่อให้ข้าวไทยแข่งขันได้อย่างยั่งยืน เพราะที่ทำอยู่ในขณะนี้ถือว่าล้มเหลวทั้งกระบวนการ โดยต้องปรับปรุงทั้งแหล่งน้ำ โรงสี และพันธุ์ข้าวรวมทั้งปรับโครงสร้างการเพาะปลูกเพื่อลดต้นทุนการผลิต
2.รัฐบาลต้องสนับสนุนค่าใช้จ่ายต้นทุนการผลิตของชาวนา 20% ของต้นทุนการผลิตทั้งหมด เช่น ค่าปุ๋ย ค่าน้ำมัน ค่าเช่านาค่าเมล็ดพันธ์ เพื่อให้ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น และ3.ปฏิรูปห่วงโซ่อุปทานการบริหารจัดการข้าวใหม่ทั้งระบบ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานรัฐ ชาวนาและโรงสี โดยอาจตั้งองค์กรใหม่ขึ้นมาเพราะที่ผ่านมาเป็นรูปแบบที่ต่างฝ่ายต่างทำ