กสทช.หาทางออก ผลกระทบคลื่นเสาโทรศัพท์

จากกรณีตัวอย่างปัญหาการร้องเรียนจากประชาชนว่าได้รับผลกระทบจากการติดตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่ที่ตนเองอาศัยอยู่แล้วมีปัญหาด้านสุขภาพตามมา เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจและแนวทางการป้องกันให้กับปชช.กสทช.จึงได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมพูดคุยเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาและการป้องกันผลกระทบจากคลื่นสัญญาณโทรศัพท์โดยเฉพาะในแง่มุมของสุขภาพจากงานวิจัย พบว่ามีความเสี่ยงต่อระบบสมอง ความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง และระบบภายในร่างกาย โดยพื้นที่ที่ไม่ควรนำเสาสัญญาณโทรศัพท์มาติดตั้งเพราะมีความเสี่ยงต่อผู้อยู่อาศัยสูง อาทิ โรงเรียน โรงพยาบาล และสถานรับเลี้ยงเด็ก โดยทางด้านตัวแทนจากกสทช.นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศาบอกว่าทั่วไปแล้วคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะมาจาก2แหล่งคือจากโทรศัพท์ที่เราใช้กับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาสัญญาณโทรศัพท์ โดยหากเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาสัญญาณโทรศัพท์ต้องมีการตรวจสอบเรื่องทิศทางการส่งว่าไปยังพท.ใดกับกำลังที่จะส่งว่าเกินมาตรฐานหรือไม่ ทั้งนี้บริษัทที่ทำการติดตั้งควรมีการขออนุญาติทำการติดตั้งเสาสัญญาณจากหน่วยงานท้องถิ่นก่อนรวมถึงการทำความเข้าใจกับปชช.ให้ถูกต้อง 
โดยระหว่างนี้หน่วยงานมาตรฐานระดับสากลกำลังมีการทบทวนค่ามาตรฐานจากเสาสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งหากได้ข้อสรุปกสทช.จะนำประกาศนี้มาบังคับใช้ สิ่งที่สามารถทำได้ขณะนี้คือการเชิญ บริาทติดตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์รวมถึงตัวแทนผุ้บริโภคเข้าร่วมพูดคุย หาแนวทางออกร่วมกัน ส่วนภาคประชาชนก็ได้มีข้อเสนอไปยัง กสทช.ให้มีการเชิรตัวแทนส่วนท้องถิ่นเข้ามาให้ข้อมูลที่ถูกต้องเพราะที่ผ่านมาเกิดปัญหาเมื่อบริษัทนำเสาสัญญาณโทรศัพท์มาติดตั้งแต่ประชาชนในชุมชนไม่ทราบก็เกิดปัญหาการต่อต้านตามมา
สำหรับข้อปฏบัติของประชาชน ได้มีคำแนะนำสำหรับประชาชนที่ใช้โทรศัพท์ให้เลื่อกใช้โทรศัพท์ที่ถูกต้อง ไม่ควรใช้โทรศัพท์ที่มีกำลังเยอะ และใช้ติดต่อกันไม่ควรนานเกิน10นาที หรือหากจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ ควรมีอุปกรณ์เสริม อย่างเช่น หุฟังสปีคเกอร์โฟน หรือการเชื่อมต่อผ่านไวไฟ และการส้รางสิ่งกำบังคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเช่นต้นไม้ก็จะสามารถช่วยรองรับคลื่นรังสีได้อีกทางนึง โดยการเสวนาครั้งนี้ กสทช.จะนำข้อมูลของภาคส่วนต่างๆประกอบการพิจาณณาแนวทางการแก้ปัญหาในเรื่องนี้