svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

วิจัยพบรัฐซื้อสื่อปี 56 สูงถึง 7,985 ล้าน

19 กันยายน 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทีดีอาร์ไอเปิดผลวิจัย "รัฐซื้อสื่อ" พบปี 2556 หน่วยงานรัฐใช้เงินถึง 7,985 ล้านบาทในการประชาสัมพันธ์ โดยธนาคารออมสิน และสำนักนายกฯ ใช้งบฯส่วนนี้สูงสุด

นายธิปไตย แสละวงศ์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย บอกระหว่างการเสวนาเรื่อง กฎหมายควบคุมพีอาร์รัฐว่า จากการสำรวจของบริษัทเอกชนพบปี 2556 หน่วยงานรัฐใช้งบประมาณเพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์ถึง 7,985 ล้านบาท สูงสุดผ่านสื่อโทรทัศน์ ร้อยละ 50 ตามด้วย สื่อโรงภาพยนต์ / สื่อหนังสือพิมพ์ และสื่อวิทยุ
และเมื่อตรวจสอบหน่วยงานของรัฐที่ใช้จ่ายเงินค่าโฆษณาพบว่า รัฐวิสาหกิจมีสัดส่วน ถึงร้อยละ 48 ตามด้วยกระทรวง และองค์กรอิสระ
ส่วนรัฐวิสาหกิจที่จ่ายค่าโฆษณามากที่สุด 3 อันดับแรก คือ ธนาคารออมสิน ร้อยละ 18 อสมท. ร้อยละ 12 และ ปตท. ร้อยละ 10
สำหรับกระทรวงที่ใช้จ่ายมากที่สุดคือ สำนักนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 15 คิดเป็นเงิน 506 ล้านบาท ตามดวย กระทรวงอุตสาหกรรมร้อยละ 14 คิดเป็นเงิน 468 ล้านบาท และ กระทรวงกลาโหม ร้อยละ 9
โดยหน่วยงานในสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ใช้งบประมาณเพื่อการประชาสัมพันธ์สูงสุดคือ กรมประชาสัมพันธ์ 215 ล้านบาท / กอ.รมน. 40 ล้านบาท และสำนักปลัดสำนักนายกฯ 35 ล้านบาท
และหากเทียบการใช้งบเพื่อประชาสัมพันธ์โดยเน้นนักการเมืองและข้าราชการจะพบว่า สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คิดเป็น ร้อยละ 7 ขณะที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ คิดเป็น ร้อยละ 18
งานวิจัยครั้งนี้ ยังเสนอแนะให้ออกกฎหมายป้องกันการใช้งบประมาณของรัฐเพื่อหาเสียงส่วนตัว เช่น การห้ามมีรูป ชื่อ หรือเสียงของนักการเมือง และข้าราชการ รวมถึงสัญลักษณ์ของพรรคการเมือง ในสื่อประชาสัมพันธ์ที่ใช้เงินของรัฐ และต้องมีการวางแผนงานประจำปีการใช้จ่ายงบประชาสัมพันธ์ รวมถึงสรุปรายงานผลการดำเนินการประจำปี เพื่อเปิดเผยต่อประชาชน แต่หากพบว่า หัวหน้าหน่วยงานใดปล่อยปละละเลย หรือ ฝ่าฝืนกฏหมาย เพื่อป้องกันการใช้งบประมาณภาครัฐไปเพื่อการประชาสัมพันธ์ส่วนตัว
ด้าน ดร.มานะ นิมิตรมงคล ผู้อำนวยการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน บอกว่า ขณะนี้ร่างพ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ของหน่วยงานรัฐ ได้จัดทำเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา คาดว่าจะเสนอรัฐบาลได้เร็วที่สุด / โดยร่างกฏหมายฉบับนี้ จะมีหน่วยงานใหม่ขึ้นมาทำหน้าที่กลั่นกรองและตรวจสอบงบประมาณการประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานรัฐ ตั้งแต่ต้นทาง โดยจะมีตัวแทนจากทั้งภาครัฐ เอกชน รวมถึง องค์กรวิชาชีพสื่อฯ เข้าร่วมด้วย

logoline