ปลัดพลังงาน ปล่อยคาราวาน ตรวจสต๊อกน้ำมัน

เมื่อคืนที่ผ่านมา ปลัดกระทรวงพลังงาน  อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม เป็นประธานปล่อยแถวคาราวานรถออกตรวจวัดปริมาณน้ำมันคงเหลือของสถานีบริการน้ำมัน 658 แห่งในกรุงเทพฯ พร้อมสาธิตการตรวจวัดปริมาณน้ำมันคงเหลือของสถานีบริการ และวิธีการคำนวณปริมาณน้ำมันคงเหลือ ก่อนปรับลดและเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิต และปรับอัตราจัดเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
ภายหลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เห็นชอบให้ปรับโครงสร้างราคาน้ำมันทุกชนิด มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 29 สิงหาคม 2557 ซึ่งการปรับลดหรือเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตจะทำให้มีการขาดทุนหรือมีกำไรในปริมาณน้ำมันคงเหลือที่ได้มาก่อนการปรับราคา กระทรวงพลังงานจึงได้มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานร่วมกับกระทรวงกลาโหม ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจวัดปริมาณน้ำมันคงเหลือของผู้ค้าน้ำมันทั่วประเทศ 22,269 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นสถานีบริการน้ำมันในกรุงเทพฯ 658 แห่ง ซึ่งการปรับลดราคาน้ำมันครั้งนี้น่าจะทำให้ราคาน้ำมันตรึงอยู่ในระดับราคาดังกล่าวไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่เมื่อเข้าถึงฤดูหนาวจะต้องมีการประเมินสถานการณ์ราคาน้ำมันอีกครั้ง
การปรับลดครั้งนี้จะทำให้มีเงินไหลเข้ากองทุนน้ำมัน 2,500 ล้านบาทต่อเดือน เมื่อครบ 3 เดือน จะทำให้กองทุนน้ำมันไม่ติดลบ นอกจากนี้ยังทำให้ภาษีสรรพสามิตเก็บเพิ่มได้เดือนละ 450 ล้านบาท คาดว่าจะทราบตัวเลขสรุปปริมาณน้ำมันคงเหลือทั่วประเทศภายใน 10 วัน นับจากวันที่ 29 สิงหาคม ว่ามีจำนวนเท่าไร และจะต้องมีการชดเชยเงินส่วนต่างให้กับผู้ค้าน้ำมันเท่าใด
สำหรับผลจากการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันครั้งนี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในกลุ่มเบนซิน และน้ำมันแก๊สโซฮอลเกือบทุกชนิดลดลง โดยน้ำมันเบนซินราคาขายปลีกลดลง 3.89 บาท/ลิตร ,น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 ลดลง 2.13 บาท/ลิตร ,น้ำมันแก๊สโซฮอล91 ลดลง 1.70 บาท/ลิตร, E20 ลดลง 1 บาท/ลิตร ,ส่วน E85 ราคาคงเดิม และน้ำมันดีเซลราคาปรับเพิ่มเล็กน้อย 0.14 บาท/ลิตร โดยที่ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลยังคงไม่เกิน 30 บาท/ลิตร