โดยปีนี้มีนักบินลาออกเพียง 30-40 คนและหากนับตั้งแต่ปี 2553 จนถึงขณะนี้เกือบ 4 ปีมีนักบินทยอยลาออกแล้ว 200 คน ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานของการบินไทย เพราะปัจจุบันการบินไทยมีนักบินถึง 1,350 คน แม้จะลาออกแต่ก็รับสมัครนักบินทดแทนทุกปี เดือนกันยายนปีนี้ได้รับสมัครนักบินฝึกหัดประมาณ 90 คน และยังรับนักบินใหม่ที่มีประสบการณ์จากสายการบินต่างๆ อีกประมาณ 85 คน
รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทยยอมรับว่า การแข่งขันของธุรกิจการบินสูง โดยเฉพาะสายการบินตะวันออกกลางที่มีการซื้อตัวนักบินที่มีประสบการณ์และยืดการเกษียณอายุเป็น 65 ปีจาก 60 ปีสำหรับนักบิน โดยใช้วิธีสัญญาจ้างหลังเกษียณปีต่อปีในกรณีที่ยังสามารถบินได้และผ่านการตรวจสุขภาพ อนาคตจะปรับแก้หรือไม่ขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหาร
พร้อมกับยืนยันว่ารายได้ของนักบินการบินไทยจะจ่ายในอัตราที่เหมาะสม ซึ่งงบฝึกนักบินต่อคนประมาณ 4 ล้านบาทในเวลา 2-3 ปี และนักบินจะต้องปฏิบัติงานตามสัญญาของการบินไทยให้ครบ 8 ปี ถึงจะสามารถย้ายงานได้ ส่วนการย้ายงานของนักบินฝึกหัดบางรายต้องการเลื่อนตำแหน่งเป็นกัปตันและผลตอบแทนที่สูงขึ้น ซึ่งนักบินส่วนใหญ่ที่ลาออกจะไปทำงานในสายการบินในตะวันออกกลางและสายการบินต้นทุนต่ำ
ส่วนความคืบหน้าของแผนฟื้นฟูกิจการของการบินไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งคณะอนุกรรมการแผนฟื้นฟูตามคำแนะนำของซูเปอร์บอร์ด เพื่อขับเคลื่อนการบริหารงานตามแผนซึ่งต้องใช้เวลา 2 ปีเพื่อเพิ่มรายได้ให้การบินไทย โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการในวันที่ 29 สิงหาคมนี้
การแก้ปัญหาสภาพคล่องของการบินไทย คาดว่ากระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาอนุมัติงบประมาณในเดือนปลายกันยายนถึงต้นตุลาคม แต่ในส่วนที่จะขอกู้ของธนาคารออมสินคงอยู่ระหว่างพิจารณาของกระทรวงการคลัง แต่การบินไทยยังมีเงินสดสำรองถึงเดือนกันยายน และมีเงินสดจากรายได้ของการบินไทยแต่ละเดือนร้อยละ 15 หรือ 15,000 ล้านบาท คาดว่าในไตรมาส 4 จะมีผลประกอบการที่ดีขึ้นเท่ากับไตรมาส 1 เนื่องจากปีนี้มียอดจองเข้ามาร้อยละ 70-80 และคาดการณ์ว่าอัตราทุกเฉลี่ยผู้โดยสาร อยู่ที่ร้อยละ 80
ส่วนโครงการปลดพนักงานในแผนระยะเวลา 5 ปีแบ่งเป็นละ 1,200 คน โดยเริ่มต้นในปีนี้เป็นปีแรก ขณะนี้มีผู้ขอเข้าร่วมโครงการแล้ว 900 คน ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณจำนวน 2,000 ล้านบาท และมีพนักงานที่จะเกษียณอายุอีกประมาณ 500 คน