กรมเจ้าท่าเตรียมงบ 70 ล้าน ปรับปรุงท่าเรือโดยสาร

อธิบดีกรมเจ้าท่า จุฬา สุขมานพ กล่าวว่า เป้าหมายสำคัญของกระทรวงคมนาคมคือการเพิ่มสัดส่วนการขนส่งทางน้ำเป็น 30% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วน 11.08% โดยในส่วนของการขนส่งผู้โดยสาร จำเป็นต้องพัฒนาปรับปรุงท่าเรือโดยสารให้มีความทันสมัย สะดวกสบายและปลอดภัย เพราะท่าเรือโดยสารเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ระบบขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบประสบความสำเร็จ กรมฯจึงมีแผนพัฒนาท่าเรือโดยสารสาธารณะในแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อจูงใจให้ประชาชนใช้บริการขนส่งทางน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งจะใช้งบประมาณ 70 ล้านบาท
ในระยะแรกจะดำเนินการพัฒนาปรับปรุงท่าเรือสาธารณะนำร่อง จำนวน 8 ท่า ซึ่งมีประชาชนใช้บริการเกินวันละ 2 พันคน โดยใช้งบประมาณ 14 ล้านบาทคือ ท่าเรือสาทร ราชวงศ์ สี่พระยา พระราม 7 บางโพ ปิ่นเกล้า พรานนกและท่าเรือนนทบุรี ซึ่งกรมฯ จะเปิดให้เอกชนมีส่วนร่วมในการปรับปรุง โดยจะให้สิทธิเอกชนในการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณท่าเรือ
ปัจจุบันบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา ได้แสดงความสนใจร่วมลงทุนพัฒนาท่าเรือ 8 ท่าดังกล่าว ซึ่งท่าเรือเหล่านี้มีขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 150 จนถึง 250 ตารางเมตร สามารถนำมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ได้ เช่น อาจจัดให้มีร้านกาแฟ ร้านหนังสือ หรือร้านค้าสะดวกซื้อ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ โดยคาดว่าการปรับปรุงท่าเรือทั้ง 8 ท่า จะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2558
ส่วนการขนส่งสินค้าทางน้ำ ยุทธศาสตร์สำคัญคือการก่อสร้างท่าเรือปากบารา เพื่อเปิดประตูการขนส่งด้านฝั่งทะเลอันดามันที่สามารถเชื่อมโยงเป็นสะพานเศรษฐกิจกับท่าเรือฝั่งอ่าวไทย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขออนุมัติงบประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนในพื้นที่ ก่อนจะศึกษาผลกระทบอีเอชไอเอ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2560 
เมื่อท่าเรือปากบาราแล้วเสร็จ จะทำให้ผู้ประกอบการหันมาใช้ท่าเรือปากบาราแทนการขนส่งสินค้าทางรถไฟหรือรถบรรทุกเพื่อส่งไปยังท่าเรือปีนังหรือท่าเรืออื่นๆในมาเลเซีย ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณสินค้าเฉลี่ยปีละประมาณ 7 แสนทีอียู ขณะที่เมืองท่าของประเทศจะขยายตัวจากภาคตะวันออกไปสู่ภาคใต้ ทำให้เอกชนมีทางเลือกในการขนส่งและต้นทุนค่าขนส่งลดลง