svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ชะลอการก่อสร้าง สุวรรณภูมิเฟส 2

21 สิงหาคม 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

บอร์ด AOT มีมติให้ปรับแผนสุวรรณภูมิเฟส 2 ลดงบลงทุนลงราว 4 หมื่นลบ.

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ส.ค. 57)--นายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมกาบริษัทวันนี้ว่า คณะกรรมการบริษัทให้ศึกษาแผนดำเนินงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร ซึ่งเคยมีแผนงานมาก่อน โดยให้เวลา 2 เดือนในการศึกษาแผนงานและนำกลับมาพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอีกครั้งก่อนนำเสนอครม.ต่อไป หลังจากโครงการขยายท่าอากาศยานสุวรณภูมิระยะที่ 2 ได้ชะลอออกไปก่อน โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) 
           สำหรับอาคารผู้โดยสารดังกล่าวอยู่บริเวณทิศเหนือของอาคารเทียบเครื่องบิน A และมีหลุมจอดเครื่องบินอยู่แล้ว ซึ่งมีแผนจะใช้อาคารผู้โดยสารนี้รองรับทั้งผู้โดยสารในประเทศและต่างประเทศ หรือเป็น Multi Terminal ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 20 ล้านคนต่อปี มีงบลงทุน 2.4 หมื่นล้านบาท 
          นายประสงค์กล่าวว่า การปรับการลงทุนมาก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแทน เพราะใช้งบลงทุนน้อยกว่าโครงการขยายเฟส 2 ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่ใช้งบลงทุน 6.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งสามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารได้ใกล้เคียงกันที่ 20 ล้านคนต่อปี 
          "คิดว่าการลงทุนอาคารผู้โดยสารใช้เงินลงทุนน้อยกว่าทำเฟส 2 แต่รองรับผู้โดยสารได้พอกัน และทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรองรับได้ 60-65 ล้านคนต่อปี  โดยปลายปีนี้สรุปและส่งให้ครม.อนุมัติ ปีหน้าก็เปิดประมูลได้ ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี ทำได้เร็วและใช้เงินลงทุนน้อย ไม่กระทบกับ Cash Flowบริษัท ซึ่งตอนนี้มีอยู่ 6 หมื่นล้าน" นายประสงค์กล่าว 
          ปัจจุบันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีผู้โดยสาร 47 - 50 ล้านคนต่อปี เกินกว่าขีดความสามารถรองรับที่ 45 ล้านคนต่อปี และคาดว่าในปี 60 จำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นและเกินกว่าขีดความสามารถของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่รองรับได้ เมื่อรวมกับงานก่อสร้างในโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 (ปีงบประมาณ 2554-2560) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะมีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ 80 ล้านคนต่อปี สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึงปี 2566
          นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางในการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์แห่งที่สาม โดยตามที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)มีมติเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2557 ให้กระทรวงคมนาคมประสานกับกองทัพเรือเพื่อพิจารณาหาแนวทางในการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์แห่งที่สามนั้น ให้ฝ่ายบริหาร ทอท.ประสานกับกระทรวงคมนาคมและกองทัพเรือเพื่อดำเนินการตามมติดังกล่าวต่อไป
          นายประสงค์ ยังกล่าวว่า นายเมฆินทร์ เพ็ชรลาย ได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.57 และแต่งตั้งให้นายนิรันดร์ ธีรนาทสิน กรรมการ AOT เป็นรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่แทน และจะเร่งสรรหากรรมกาผู้อำนวยการใหญ่ต่อไป
          นอกจากนี้ คณะกรรมการได้แต่งตั้งพลโท กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ และการบริหาร เป็นกรรมการอิสระ  เข้าดำรงตำแหน่งแทน นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ และ พลอากาศโท ประกิต ศกุณสิงห์ ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเทศ เป็นกรรมการอิสระ เข้าดำรงตำแหน่งแทนนายถิรชัย วุฒิธรรม

logoline