นักลงทุนญี่ปุ่นแห่ย้ายฐานมาไทย

อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายการเกษตร ผู้อำนวยการสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงโตเกียว ฉันทานนท์ วรรณเขจร กล่าวว่า ตั้งแต่ปลายปี 2557 มีนักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น ซึ่งนักลงทุนเหล่านี้ย้ายฐานการผลิตมาจากจีน และมีแนวโน้มว่าในอนาคตนักลงทุนญี่ปุ่นจะย้ายฐานการผลิตมาไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนด้านสินค้าเกษตรและอาหาร 
ปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนญี่ปุ่นย้านฐานการผลิตจากจีนมาไทย เป็นผลจากภาวะการเมืองของทั้ง 2 ประเทศ ทำให้นักธุรกิจญี่ปุ่นที่ลงทุนในจีนเห็นว่าในระยะยาวหากปัญหาดังกล่าวมีความรุนแรงขึ้น จะส่งผลต่อธุรกิจที่มีอยู่ ประกอบกับไม่มั่นใจด้านสุขอนามัยที่เกิดปัญหาบ่อยครั้งในจีน และตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจสูงที่สุดคือกลุ่มอาเซียน โดยไทยเป็นประเทศที่มีความเหมาะสมมากที่สุดทั้งในด้านวัตถุดิบ และโครงสร้างพื้นฐาน  นักลงทุนญี่ปุ่นจึงเลือกย้ายฐานการลงทุนมาไทย คาดว่าในครึ่งหลังของปี 2557 ต่อเนื่องถึงปี 2558 การลงทุนจากญี่ปุ่นในไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก 
ข้อตกลงทางการค้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ทำให้การส่งออกสินค้าจากไทยได้เปรียบเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ประกอบกับปัจจุบันทุกข้อตกลงทางภาคการเกษตรของไทยยังใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่ ต่างจากญี่ปุ่นที่ใช้ประโยชน์จากข้อตกลงเต็มหมดแล้ว ทำให้นักลงทุนญี่ปุ่นเห็นข้อได้เปรียบ จึงย้ายฐานการลงทุนมาไทย โดยเฉพาะในกลุ่มปศุสัตว์ ซึ่งไทยมีศักยภาพสูงมากและญี่ปุ่นยังมีความต้องการบริโภคสูง เช่น ไก่เนื้อ กุ้ง 
สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือกระบวนการผลิตสินค้าของไทย ยังไม่ดีพอในด้านความปลอดภัย โดยเฉพาะสินค้าพืชที่ยังตรวจพบสารตกค้าง เกษตรกรจึงต้องเอาใจใส่ มีความซื่อสัตย์ เก็บเกี่ยวผลผลิตตามระยะเวลาที่กำหนด และควรรวมกลุ่มเพื่อผลิตให้ได้ในปริมาณที่ตลาดต้องการ