ส่งออกรถไร้ผลกระทบหากถูกตัดจีเอสพี

รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบผลกระทบกรณีที่สหภาพยุโรปหรืออียู จะตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรหรือจีเอสพีสินค้าไทยทั้งหมดในปี 2558 พบว่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไม่มาก
ในปีที่ผ่านมาไทยส่งออกรถยนต์ไปอียูประมาณ 7 หมื่นคัน หรือ 7% ของยอดการส่งออกรถยนต์ทั้งหมด 1.12 ล้านคัน หากถูกตัดจีเอสพีอาจทำให้ยอดการส่งออกรถไปอียูในปี 2558 ลดลงประมาณ 15% เหลือประมาณ 6 หมื่นคัน แต่ภาพรวมการส่งออกรถยนต์ในปี 2558 จะเพิ่มขึ้นประมาณ 5%
การที่อียูตัดสิทธิ์จีเอสพี จะทำให้รถยนต์ไทยต้องเสียภาษีเต็มจำนวน โดยภาษีรถยนต์นั่งจะเพิ่มเป็น 10% จากเดิม 6.5% ภาษีรถกระบะเครื่องยนต์ไม่เกิน 2.5 พันซีซี  เพิ่มเป็น 10% จากเดิม 6.5% และภาษีรถกระบะ เครื่องยนต์เกิน 2.5 พันซีซี จะเพิ่มเป็น 22% จากเดิม 15.4% ซึ่งการตัดสิทธิ์จีเอสพีไม่น่าจะกระทบมาก เพราะไทยกระจายการส่งออกรถยนต์ไปทุกภูมิภาคทั่วโลก ไม่ได้กระจุกตัวในตลาดใดตลาดหนึ่ง จึงยังเพิ่มยอดส่งออกได้ โดยเฉพาะในภูมิภาคอเมริกาเหนือ อาเซียน ตะวันออกกลางและเอเชีย โดยในปี 2557 ตั้งเป้าว่าจะมียอดส่งออกรถยนต์ 1.2 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน 
ส่วนยอดการส่งออกยานยนต์ในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ มีมูลค่า 4.05 แสนล้านบาท ขยายตัว 9.73% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดหลักอันดับ 1 คือ ออสเตรเลีย มียอดการส่งออก 1.37 แสนล้านบาท ติดลบ 15%  อันดับ 2 คือ อินโดนีเซีย มูลค่า 9.9 หมื่นล้านบาท ติดลบ 12% และอันดับ 3 มาเลเซีย มูลค่า 6.09 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 14%