จีน-รัสเซียร่วมเป็นพันธมิตรเดินหน้าปฏิรูประบบการเงินสู่ยุคสังคมที่ไร้เงินสด

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศในคำแถลงนโยบายบริหารประเทษในอนาคตจนถึงปี 2035 และปี 2050 หนึ่งในประเด็นสำคัญคือการปรับโครงสร้างระบบการเงินของจีนโดยเฉพาะเป้าหมายของเงินหยวนที่หล่อยให้มีการปรับตัวตามกลไกของตลาด
ขณะที่จีนได้เริ่มดำเนินการในขั้นตอนต่อไป โดยเร่งโปรโมทที่จะผลักดันบทบาทของเงินหยวน ให้เป็น CryptoYuan ที่ใช้ทองคำเป็นสินทรัพย์หนุนหลัง

1. จีน-รัสเซียร่วมเป็นพันธมิตรเดินหน้าปฏิรูประบบการเงินสู่ยุคสังคมที่ไร้เงินสด หรือ Cashless Society พร้อมกับนำเอาระบบการเงินที่เป็นดิจิตัลมาใช้ในการชำระเงินในทางการค้าและการลงทุน จนนำมาสู่การใช้เงินที่เป็นสกุลเงินดิจิตัล หรือ Cryptocurrencies ซึ่งทั้งจีนและรัสเซียมีเป่าหมายที่จะสร้างสกุลเงินดิจิตัลของตัวเองที่เรียกว่า Crypto-Yuan และ Crypto-Ruble
ถ้าหากว่า ทั้งจีนและรัสเซียสามารถผลักดันให้เกิดสังคมที่ไม่ใช้เงินสดก็จะหนุนให้การใช้สกุลเงินที่เป็น Cryptocurrencies มีการกระจายตัวออกไปในวงกว้างของตลาดการเงินทั่วโลก เพื่อทำให้เกิดสภาพคล่องทางการเงินของทั้ง 2 สกุลจำนวนมหาศาลในตลาดค้าเงินโลก


2. ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศในคำแถลงนโยบายบริหารประเทษในอนาคตจนถึงปี 2035 และปี 2050 หนึ่งในประเด็นสำคัญคือการปรับโครงสร้างระบบการเงินของจีนโดยเฉพาะเป้าหมายของเงินหยวนที่หล่อยให้มีการปรับตัวตามกลไกของตลาด ท่ามกลางนโยบายการเงินของธนาคารกลางจีน หรือ PBOC ที่จะผลักดันเงินหยวนให้เป็นสกุลเงินสากลมีเสถึยรภาพในระบบการเงินโลก
นับตั้งแต่จีนได้รับการประกาสและรับรองเป็น 1 ใน 5 สกุลหลักในตะกร้าเงินสกุลพิเศษ หรือ SDRs (Special Drawing Rights) ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ โดยมีสัดส่วน 10.9% เป็นอันดับสามที่ถ่วงหนักใน SDRs ถัดจากเงินดอลลาร์ที่มีสัดส่วนราว 41% สกุลเงินยูโร 30% และอีก 2 สกุลเป็นเงินปอนด์และงินเยนในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันที่สกุลละ 8% ส่งผลให้ขณะนี้มีประเทศต่างๆ รวม 60 ประเทศที่ปรับฐานะโดยเพิ่มสัดส่วนของเงินหยวนดขเาไปอยู่ในทุนสำรองระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการ


3. ความต้องการลดบทบาทการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์ที่ยังคงมีอิทธิพลต่อระบบการเงินโลก เนื่องจากสภาพคล่องของดอลลาร์ที่มีการใช้หมุนเวียนในตลาดการค้าและการลงทุนทั่วโลกมีอยู่ในสัดส่วนสูงถึง 60-70%
จีนได้เริ่มดำเนินการในขั้นตอนต่อไปที่จะผลักดันบทบาทของเงินหยวน ให้เป็น CryptoYuan ที่ใช้ทองคำเป็นสินทรัพย์หนุนหลัง กลับมาซื้อขายใหม่อีกครั้ง ซึ่งแตกต่างจาก Cryptocurrencies อื่นๆ ที่ไม่มีสินทรัพย์ใดๆ หนุนหลัง ตัวอย่างเช่นกรณีของ Bitcoin ซึ่งธนาคารกลางจีนได้ทดลองนำร่องการซื้อขายเงินหยวนในรูปเงินดิจิตัลเมื่อเดือนสิงหาคมและกันยายน แต่ไม่ประสบกับความสำเร็จจนต้องยกเลิกชั่วคราวไปก่อนหน้านี้


4. ขณะที่รัสเซียได้ผลักดันให้เกิด CryptoRuble โดยมีสัญญาของการซื้อขายน้ำมันและก็าซของบริษัทรอสเนฟซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ที่สุดของรัฐบาลรัสเซียเป็นปัจจัยหนุนหลังเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ที่มีการซื้อขายในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนทั้งในยุโรปและเอเชีย หรือ EurAsEC
เช่นเดียวกับสิ่งที่รัฐบาลสวีเดนได้ประกาศอย่างเป็นทางการที่จะใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินโครห์นาเป็น ekrona ภายในปี 2019 หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากการเข้าสู่สังคมไร้เงินสด โดยที่ประชาชนชาวสวีเดนมีการใช้เงินสดเหลือเพียงสัดส่วน 15% ลดลงจากสัดส่วนเดิม 40%


5. ท่ามกลางธนาคารกลางจีนที่กำลังเร่งโปรโมทเงินหยวนเป็นสกุลเงินสากลในตลาดค้าเงินโลกนั้น โดยที่ล่าสุดธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB ได้เข้าลงทุนในเงินหยวนเพื่อเพิ่มน้ำหนักในฐานะทุนสำรองที่เป็นทางการจำนวน 500 ล้านยูโรในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
ขณะที่ทุนสำรองของจีนก็มีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจาก 3,0 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อสิ้นปี 2016 กลับขึ้นอยู่ที่ระดับ 3.1 ล้านล้านดอลลาร์ แต่เงินหยวนของเงินยังมีความผันผวนที่ต้องเผชิณความเสี่ยงจากการไหลออกของกระเงินทุนเคลื่อนย้าย หรือ Capital Outflow ซึ่งส่งผลให้ธนาคารกลางจีนต้องเข้าแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนของเงินหยวนเป็นระยะในช่วงที่ผ่านมา
เนื่องจากภาวะสินเชื่อในระบบที่มีอยู่ถึง 30 ล้านล้านดอลลาร์ ที่มีปัญหาหนี้สงสัยจะสูญราว 20% นั้นเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดความไม่แน่นอนต่อทิศทางของเงินทุนเคลื่อนย้าย ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ประกาศไว้เมื่อวันพุธในระหว่างการประชุมใหญ่ของสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีน ถึงการลดอุปสรรคที่กีดขวางการปฏิรูปเงินหยวนให้เป็นสกุลเงินสากลในอนาคต