จีนเปิดประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ เดินหน้าแผนพัฒนาความเป็นมหาอำนาจของโลก

และเป็นที่คาดว่าสี จิ้นผิง จะทำหน้าที่ในฐานะประธานาธิบดีต่อเนื่องไปอีกหนึ่งสมัยในช่วง 5 ปีข้างหน้านี้ ในการนำประเทศไปสู่ยุคใหม่ที่มีความทันสมัย ซึ่งเป็นทิศทางการพัฒนาจีนในอนาคตที่มีการมองออกไปในระยะยาว โดยการปฏิรูปที่จะเกิดขึ้นนี้ได้กำหนดเป็นแนวทางในอีก 15-20 ปี
โดยจะเป็นการสานต่อจาก 5 ปีแรก ทั้งปฏิรูปและสร้างสังคมใหม่ ที่ต้องมีการปฏิรูป โดยที่ไม่หลับหูหลับตาคัดลอกจากต่างชาติ รวมถึงการเมิองของประเทศที่จะไม่มีระบบผู้นำคนเดียว

1. ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีนได้ใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่งในการแสดงปาฐกถาต่อที่ประชุมใหญ่สมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 19 ที่มีผู้เข้าร่วมถึง 2.287 คนเมื่อวันพุธ ทั้งนี้ เป็นที่คาดว่าสี จิ้นผิง จะทำหน้าที่ในฐานะประธานาธิบดีต่อเนืื่องไปอีกหนึ่งสมัย ในการนำประเทศไปสู่ยุคใหม่ที่มีความทันสมัย ซึ่งเป็นทิศทางการพัฒนาจีนในอนาคตที่มีการมองระยะยาวไปอีก 15-20 ปี
โดยจะเป็นการสานต่อจาก 5 ปีแรก ทั้งปฏิรูปและสร้างสังคมใหม่ ที่ต้องมีการปฏิรูป โดยที่ไม่หลับหูหลับตาคัดลอกจากต่างชาติ รวมถึงการเมิองของประเทศที่จะไม่มีระบบผู้นำคนเดียว
ทั้งนี้ การประชุมในวันแรกเริ่มต้นขึ้นแล้วเมิ่อวันพุธ และจะประชุมตลอดช่วงสัปดาห์นี้ โดยการปฏิรูปที่จะเกิดขึ้นนี้ จะเป็นการสานต่อความรุ่งโรจน์เมิ่อ 5 ปีก่อน พร้อมกับกำหนดแผนและแนวทางปฏิรูปต่อเนื่องไปอีก 15-20 ปี สู่ยุคที่เรียกว่า New Era Of Power


2. สำหรับองค์ประกอบก่อนที่จะมาเป็นร่างปาฐกถาของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่จะนำไปสู่ New Era Of Power ของจีนในศตวรรษที่ 21 นี้ มาจากการมีส่วนร่วมร่างของบุคคลรวม 4,700 คน 59 องค์กรบรืหารประเทศ กับอีก 25 นักคิด
ที่ผ่านมาการวิเคาะห์วิจัยทางวิชาการถึง 9 ชุด และผ่านวงการถกเถียงอีก 6 เวที โดยที่มีการพิเคราะห์ในประเด็นที่สำคัญอย่างละเอียดอ่อนมากที่สุด และต้องใช้ระมัดระวังอย่างมากที่สุดต่อบทบาทของจีนบนเวทีความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ


3. ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้กล่าวในพิธีเปิดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 19 ระบุว่า ความแตกต่างทางด้านหลักการที่สังคมจีนเผชิญอยู่นั้นได้เปลี่ยนแปลงไป ก็คือ ความแตกต่างระหว่างการพัฒนาที่ไม่สมดุลและไม่เพียงพอ และความต้องการของประชาชนที่ต้องการที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น
ขณะที่สังคมนิยมในแบบของจีนได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่แล้ว และก่อให้เกิดความจำเป็นที่พรรคคอมมิวนิสต์ รสมถึงการบริหารประเทศจะต้องดำเนินการอะไรใหม่ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ ความแตกต่างทางด้านหลักการซึ่งอยู่จุดกลางระหว่างความต้องการทางด้านวัตถุและทางวัฒนธรรมของประชาชน ที่มีกระบวนการผลิตที่ล้าหลัง เป็นแนวทางที่ได้ตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของประชาชนจีน และทำให้การมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่เป็นพื้นฐาน


4. แต่แนวทางต่อจากนี้ จีนจะสร้างสังคมแห่งความมั่งคั่งและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นขยายวงกว้างที่ครอบคลุมความต้องการของประชาชนจีนกว่า 1.3 พันล้านคน ซึ่งถือเป็นเป้าหมายแห่งความสำเร็จ นอกจากนี้ ในการพัฒนาความต้องการทางด้านประชาธิปไตย หลักนิติธรรม ความเท่าเทียมและยุติธรรม ความมั่นคง รวมถึงสิ่งแวดล้อมที่ดีและเพิ่มสูงขึ้น
ในบทพิสูจน์ตามแนวทางสังคมนืยมของจีน บทเส้นทางสังคมนิยมยุคใหม่ที่มีความทันสมัยที่ต้องผ่านการทำงานอย่างหนักในช่วงเวลาจากนี้ไปอีก 15 ปีจนถึงปี 2035 เพื่อเดินหน้าสู่ยุคทองของจีน ที่เป็น Golden Era เมื่อก้าวสู่ปี 2050


5. ในขณะที่ผลิตภาพการผลิตในภาพรวมของเศรษฐกิจจีนจะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ที่ส่งผลทำให้ศักยภาพการผลิตในการเป็นผู้นำโลก แต่เเนื่องจากจีนยังคงมีการพัฒนาที่ขาดความสมดุลและไม่เพียงพอ
ซึ่งถือเป็นเป้าหมายหลักเพื่อตอบสนองความต้องการที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน และเพื่อที่จะทำให้ประเทศจีนเป็นสังคมนิยมที่สามารถบินได้สูงและเต็มไปด้วยตวามภาคภูทิใจ

โดยจีนได้วางเป้าหมายของการเติบโตเศรษฐกิจในภาพรวมนับจากนี้ไป 5 ปีข้างหน้าต้องไม่ต่ำกว่าปีละ 6.5% ซึ่งไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากเป้าที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งให้ความสำคัญต่อคุณภาพที่ควบคู่ไปกับอัตราการเร่งตัวของอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ทางการจีนจะลดอุปสรรคที่ขัดขวางการลงทุนจากต่างประเทศที่ต้องมีขนาดใหญ่ เพื่อไท้ให้เศรษฐกิตจีนมีการเติบโตที่เล็กน้อยจนเกินไป จนกระกระทบต่อการก้าวเดินไปข้างหน้า เพื่อก้าวผ่านช่วงการพัฒนาประเทศที่แข็งแกร่งในช่วงเวลาแห่งศตวรรษที่ 21 นี้