ทั้งนี้ ในเดือนพ.ย.นี้จะดำเนินการต่อเนื่องติดตั้งเครื่อง EDCให้ครบ 20,000 ร้านค้า หรืออย่างน้อยอาจจะประมาณ 18,000 ร้านค้า โดยมีสัดส่วนของรถธงฟ้าประชารัฐเคลื่อนที่ประมาณ 300 คัน ตามเป้าหมายที่วางไว้ในเฟสแรก เพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานของประชาชนทั้ง 11.4 ล้านคน หรือเฉลี่ย 600 คนต่อ 1 เครื่อง ตามการประเมินไว้ในเบื้องต้นว่าจะครอบคลุมการใช้งาน แต่จะต้องมีการประเมินอีกครั้งทุกเดือนเพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานจริง ที่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยกระจายตัว หากยังไม่ครอบคลุมก็พร้อมพิจารณาติดตั้งเพิ่มเติมให้ครอบคลุมพื้นที่ความต้องการของประชาชนเฟสต่อไป
"หลังจากเปิดใช้งานมาเกือบ 2 สัปดาห์ ปัญหาด้านการคีย์ข้อมูล และการรูดบัตรขัดข้องเริ่มลดน้อยลง รวมถึงความต้องการการใช้งานที่แน่นหนาในวันแรกจนต้องมีการต่อคิวการใช้งาน ซึ่งปัญหาดังกล่าวค่อยๆ เบาบางลง เพราะมีการแก้ไขปัญหา และเริ่มทยอยเพิ่มจุดให้บริการติดตั้งเครื่อง EDC ให้สอดคล้องกับความต้องการ ซึ่งที่ประเมินไว้เฉลี่ยเครื่องละ 600 คน ซึ่งเฉลี่ยวันละ 20 คนเท่านั้นก็น่าจะเพียงพอ แต่ที่กระจุกตัวและแน่นหนาในวันแรก น่าจะเป็นเพราะทุกคนเร่งมาใช้บริการทันทีในวันแรก ซึ่งต่อไปหากทยอยเข้ามาใช้บริการน่าจะเพียงพอกับความต้องการ " รมช.กล่าว
นายสนธิรัตน์ ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของการให้บริการร้านธงฟ้าประชารัฐ ซึ่งจะเริ่มนำสินค้าธงฟ้าประชารัฐ ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ราคาถูกกว่าตลาด 15-20% มาวางในมุมธงฟ้าเพื่อช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ผลิตที่เข้าร่วมโครงการ 40 ราย ครอบคลุมสินค้า 300 รายการ ในอนาคตกำลังจะหาการบริการเสริมเพิ่มกลุ่มผู้ผลิตที่เป็นสินค้าชุมชน ทั้งด้านการเกษตร วิสาหกิจชุมชน สินค้าโอท็อป เพื่อเป็นการกระตุ้นการใช้บริการสินค้าชุมชน ที่จะช่วยเพิ่มเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนได้อีกทาง