svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ผู้นำกองทัพสหรัฐหารือทรัมป์ แนวทางการรับมืออาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

12 ตุลาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผู้นำกองทัพสหรัฐได้หารือกับประธานาธิบดีทรัมป์เกี่ยวกับแนวทางการรับมืออาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ขณะที่หนังสือพิมพ์จุงอัง อิลโบ ของเกาหลีใต้รายงานอ้างถึงนักวิชาการด้านกิจการระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยจอร์เจียรายหนึ่งที่ได้พบกับจิมมี่ คาร์เตอร์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ต้องการที่จะเดินทางไปเยือนเกาหลีเหนือในการทำหน้าที่เป็นสื่อกลางของผู้นำสหรัฐถึงผู้นำเกาหลีเหนือ เพื่อแสวงหาหนทางสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลี


อย่างไรก็ตาม คณะเสนาธิการกองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยถึงการที่กองทัพอากาศสหรัฐได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-1B Lancer สองลำบินเหนือคาบสมุทรเกาหลี โดยได้บินออกจากฐานทัพบนเกาะกวม ก่อนเข้าร่วมฝึกซ้อมกับเครื่องบินขับไล่ F-15K สองลำของเกาหลีใต้ ซึ่ง B-1B Lancer ได้ทดสอบยิงอาวุธปล่อยนำวิถีแบบอากาศสู่พื้นในเขตน่านน้ำนอกชายฝั่งตะวันออกของเกาหลีใต้ เพื่อแสดงแสนยานุภาพของกองทัพ

ขณะที่ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นพุงขึ้นสูงสุดในรอบ 21 ปีนับตั้งแต่ปี 1996 โดยเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 200% จากจุดต่ำสุดเมื่อปี 2008-2009 โดยที่ Nikkei 225 ยังคงเปิดตลาดเช้าวันนี้เพิ่มขึ้น 0.37% แตะระดับ 20,958 ท่ามกลางการเริ่มต้นหาเสียงเลือกตั้งทั่วไปซึ่งชินโซ อาเบะ ยังได้รับคะแนนนิยม 32% เหนือคู่แข่งที่เป็นพรรคฝ่ายค้านที่ได้เพียง 19% และเป็นไปตามทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐ โดยเฉพาะ Nasdaq พุ่งทะลุ 6,600 แล้ว

1.ปาร์ค ฮัน ชิค นักวิชาการด้านกิจการระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยจอร์เจีย ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์จุงอัง อิลโบ (JoongAng Ilbo) ถึงดีตประธานาธืบดีสหรัฐ จิมมี คาร์เตอร์ ในวัย 93 ปี เสนอตัวที่จะพบกับผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอึน เพื่อที่จะหารือในการสร้างสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลีเหมือนอย่างที่เคยทำเมื่อปี 1994 รวมทั้งเกี่ยวกับวิธีการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือ หลังจากเมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ประกาศความสำเร็จในการทดสอบระเบิดไฮโดรเจนที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงและสามารถบรรจุเข้าไปในขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM)
ขณะเดียวกันจิม แมททิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ และพลเอกโจเซฟ ดันฟอร์ด ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐ ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีทรัมป์เกี่ยวกับทางเลือกในการตอบโต้การยั่วยุจากเกาหลีเหนือ รวมถึงแนวทางการป้องกันไม่ให้เกาหลีเหนือข่มขู่สหรัฐและประชาคมโลกด้วยอาวุธนิวเคลียร์ เนื่องจากความตึงเครียดเหนือคาบสมุทรเกาหลีได้ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง
โดยที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ระบุว่า แม้สหรัฐจะเตรียมการรับมือด้วยยุทธวิธีทางทหาร แต่การเจรจาทางทูตก็ยังถือเป็นทางเลือกอันดับหนึ่งของสหรัฐ โดยที่ไม่มีใครประเทศใดอยากทำสงคราม และสหรัฐเองก็ต้องการสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งทั่วโลกก็เห็นพ้องเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะไม่มีใครอยากเลือกใช้วิธีทางการทหาร แต่ก็ต้องเตรียมตัวไว้ให้พร้อม


2.คณะเสนาธิการกองทัพเกาหลีใต้ได้เปิดเผยถึงการที่กองทัพอากาศสหรัฐได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-1B Lancer สองลำบินเหนือคาบสมุทรเกาหลี โดยได้บินออกจากฐานทัพบนเกาะกวม ก่อนเข้าร่วมฝึกซ้อมกับเครื่องบินขับไล่ F-15K สองลำของเกาหลีใต้ ซึ่ง B-1B Lancer ได้ทดสอบยิงอาวุธปล่อยนำวิถีแบบอากาศสู่พื้นในเขตน่านน้ำนอกชายฝั่งตะวันออกของเกาหลีใต้ เพื่อแสดงแสนยานุภาพของกองทัพ
พร้อมกับยืนยันว่า เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการฝึกซ้อมตามปกติ เพื่อยกระดับการป้องกันและแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้เท่านั้น ส่วนกองทัพสหรัฐย้ำว่า การฝึกซ้อมครั้งนี้มีเครื่องบินขับไล่จากกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นมาร่วมด้วย


3.ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นพุงขึ้นสูงสุดในรอบ 21 ปีนับตั้งแต่ปี 1996 โดยเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 200% จากจุดต่ำสุดเมื่อปี 2008-2009 โดยที่ Nikkei 225 ยังคงเปิดตลาดเช้าวันนี้เพิ่มขึ้น 0.37% แตะระดับ 20,958 นำโดยหุ้นกลุ่มขนส่งทางน้ำ กลุ่มหลักทรัพย์ และกลุ่มธุรกิจบริการ ท่ามกลางการเริ่มต้นหาเสียงเลือกตั้งทั่วไปซึ่งชินโซ อาเบะ ยังได้รับคะแนนนิยม 32% เหนือคู่แข่งที่เป็นพรรคฝ่ายค้านที่ได้เพียง 19%
นอกจากนี้ ยังเป็นไปตามทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐ โดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยีที่มีการปรับขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้ดัชนี Nasdaq พุ่งทะลุระดับ 6,603 ขณะที่ดาวโจนส์ยังคงทำสถิตินิวไฮต่อเนื่องที่22,872
ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความระบุว่า ตลาดหุ้นได้พุ่งขึ้นอย่างมาก นับตั้งแต่ชัยชนะในการเลือกตั้ง และตลาดจะดีดตัวขึ้นต่อไปอีก หากประสบความสำเร็จในการผลักดันการปฏิรูปภาษีให้ผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรส ซึ่งมูลค่าตลาดหุ้นก็จะขยายตัวอย่างก้าวกระโดด โดยที่ตลาดหุ้นมีมูลค่าตลาดตามมาร์เก็ตแคปเพิ่มขึ้น 5.2 ล้านล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่การเลือกตั้งในวันที่ 8 พ.ย.2016 ซึ่งพุ่งขึ้นถึง 25%


4.รัฐบาลสเปนยื่นเส้นตายให้เวลา 8 วัน สำหรับคาร์เลส ปุกเดมองต์ ประธานาธิบดีของแคว้นคาตาโลเนีย ซึ่งเป็น 1 ใน 17 ดินแดนที่ได้รับสิทธิในการปกครองตนเองจากสเปน โดยให้เวลา 5 วันในคำตอบยืนยันอย่างเป็นทางการว่าการประกาศปฏิญญาแยกตัวเชิงสัญญลักษณ์เมื่อวันอังคารนั้น เป็นการประกาศเอกราชแคว้นคาตาโลเนียจากสเปนหรือไม่
ทั้งนี้ หากคาร์เลส ปุกเดมองต์ ยืนยันว่าได้ประกาศอิสรภาพต่อสเปน รัฐบาลสเปนก็จะให้เวลาอีก 3 วันดำเนินการแก้ไขความถูกต้อง เพื่อให้แคว้นคาตาโลเนียมาอยู่ร่วมกับสเปนต่อไป โดยมาริอาโน ราฮอย นายกรัฐมนตรีสเปน กล่าวย้ำว่า คาร์เลส ปุกเดมองต์ จะมีเวลาจนถึงวันจันทร์ที่ 16 ต.ค. ที่จะให้คำตอบ และก็จะได้รับเวลาอีกจนถึงวันพุธที่ 18 ต.ค. เพื่อยืนยันคำตอบอีกครั้งหนึ่ง
โดยนักวิเคราะห์ทางการเมืองมองว่า การประกาศเอกราชของคาตาโลเนียหากได้รับการยืนยันจากผู้นำแคว้นก็จะเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลสเปนสามารถพิจารณาใช้มาตรา 155 แห่งรัฐธรรมนูญสเปน ในการยกเลิกสิทธิปกครองตนเองของแคว้นคาตาโลเนีย โดยที่รัฐบาลกลางสเปนจะเข้ายึดอำนาจทำการปกครองโดยตรง
แต่ถ้าเป็นการยืนยันว่าไม่ได้ประกาศเอกราช ก็จะทำให้พรรค CUP ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายซ้ายจัด ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลกับคาร์เลส ปุกเดมองต์ และจะส่งผลให้รัฐบาลของคาร์เลส ปุกเดมองต์ ต้องล่มสลายลง เนื่องจากเขามีเสียงข้างน้อยในสภา
ทั้งนี้ คาร์เลส ปุกเดมองต์ ในฐานะผู้นำและเป็นประธานาธิบดีจองแคว้นคาตาโลเนียได้ขึ้นกล่าวปราศรัยในรัฐสภา ทำการประกาศอิสรภาพจากสเปนในเชิงสัญลักษณ์ เพื่อยึดตามประชามติของชาวคาตาลันที่ใช้สิทธิลงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปนในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา


5.ห้างสรรพสินค้า Sears Canada ประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ถึงแผนเลิกกืจการในอีก 150 สาขาที่เหลืออยู่ แทนแผนเดิมที่กำหนดจะมีการปรับโครงสร้างธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลให้พนักงานกว่า 12,000 ตำแหน่งต้องตกงานในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้
หลังจากที่ Sears Canada ซึ่งเป็น Toronto-based chain มีหนี้สินสูงถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์แคนาดา เนื่องจากผลการดำเนินงานที่ย่ำแย่ ค้องคกเป็นเหนื่อของการแข่งขันจากธุรกิจ e-commerce โดยเฉพาะจากการขยายเครือข่ายการขายออนไลน์ของ Amazon โดยในท้ายที่สุดก็จะมีการปิดกิจการสาขาลงทั้งหมด 225 แห่งอย่างสมบูรณ์ภายในเร็ววันนี้

logoline