svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ทรัมป์เซ็นคำสั่งบริหารคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่

22 กันยายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทรัมป์เซ็นคำสั่งบริหารคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ ทั้งการขึ้นบัญชีดำบุคคล และมาตรการแซงก์ชั่นทางเศรษฐกิจและทางการเงินเพิ่มมากขึ้น โดยขยายขอบเขตพุ่งเป้าไปยังบริษัท สถาบันการเงิน ซึ่งให้เงินทุนและสนับสนุนทางการค้าแก่เกาหลีเหนือ เพื่อหวังจะตัดเส้นทางแหล่งเงินทุนของเกาหลีเหนือซึ่งใช้สนับสนุนการพัฒนาอาวุธทำลายล้างสูง และเพื่อลงโทษเกาหลีเหนือที่มีการทดลองขีปนาวุธนิวเคลียร์ครั้งใหม่

ขณะที่คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ออกแถลงการณ์เตือนสหรัฐจะเผชิญกับมาตรการตอบโต้อย่างแข็งกร้าวจากเกาหลีเหนือด้วยมาตรการที่รุนแรงที่สุดในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยระบุถึงการที่ทรัมป์กล่าวดูหมิ่นตนเองและประเทศเกาหลีเหนือต่อหน้าสาธารณชนทั่วโลก ในเวทีประชุมสมัชชาใหญ่ของ UN ที่มหานครนิวยอร์กเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
S&P Global Ratings ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของจีนลง 1 ขั้น จาก AA- สู่ A+ จากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากภาวะการปล่อยสินเชิ่อที่มากขึ้น ได้ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นในความเสี่ยงทางด้านเศรษฐกิจและการเงินของจีน โดยระบุแนวโน้มยังมีอันดับความน่าเชื่อถือที่มีเสถียรภาพ ทั้งนี้ ทางการจีนยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการจำกัดความเสี่ยงทางการเงินที่เกิดจากการปล่อยสินเชื่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และหลีกเลี่ยงจากวิกฤติการเงินของประเทศ พร้อมๆ กับการตั้งความหวังที่จะบรรลุเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

1.ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่ง Executive Order คว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ ด้วยการขึ้นบัญชีดำบุคคล และหน่วยงานที่ดำเนินธุรกิจกับเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะพุ่งเป้าไปที่บริษัท สถาบันการเงิน ซึ่งให้เงินทุนและให้การสนัลสนุนทางการค้าต่อเกาหลีเหนือ เพื่อตัดแหล่งเงินทุนที่นำมาใช้สนับสนุนการพัฒนาอาวุธทำลายล้างสูง และเพื่อลงโทษเกาหลีเหนือที่ได้ทำการทดลองขีปนาวุธนิวเคลียร์ ครั้งใหม่
ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐได้กล่าวยกย่องธนาคารกลางจีนที่สั่งให้ธนาคารของจีนยุติการทำธุรกิจกับเกาหลีเหนือ ทำให้จีนอาจจะรอดพ้นจากการถูกขึ้นบัญชีดำต่อบุคคลและหน่วยงานที่ช่วยเหลือต่อเกาหลีเหนือ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ธนาคารพาณิชย์ใหญ่ของจีน 3 แห่งมีการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินใหม่ๆ กับเกาหลีเหนือ
ขณะเดียวกันบรรดาทูตของสหภาพยุโรป (EU) ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นทำการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือรอบใหม่ ซึ่งคาดว่าเจ้าหน้าที่ของเกาหลีเหนือ 8 คนจะถูกนำมารวมอยู่ในรายชื่อที่ถูก EU คว่ำบาตรด้วย โดยที่รัฐมนตรีต่างประเทศของ EU จะมีการประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่นี้ในการประชุมวันที่ 16 ตุลาคมต่อไป


2.คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ออกแถลงการณ์เตือนสหรัฐจะเผชิญกับมาตรการตอบโต้อย่างแข็งกร้าวจากเกาหลีเหนือในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมกับระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวดูหมิ่นตนเองและประเทศเกาหลีเหนือต่อหน้าสาธารณชนทั่วโลก ซึ่งจะมีการตอบโต้ด้วยมาตรการที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ นี่ไม่ใช่แบบที่ผู้นำสหรัฐชื่นชอบ และไม่ว่าเขาจะคาดหวังอย่างไร แต่จะต้องเผชิญกับผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมายอย่างแน่นอน
แถลงการณ์กร้าวของประธานาธิบดีเกาหลีเหนือล่าสุดนี้ มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ มีการกล่าวสุนทรพจน์โจมตีในเวทีประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) ที่มหานครนิวยอร์กเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่า หากสหรัฐถูกคุกคามจากเกาหลีเหนือ และถูกบีบบังคับให้ต้องปกป้องตนเอง ก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากที่จะต้องทำลายเกาหลีเหนือให้สิ้นซาก


3.ถ้อยแถลงทั้งจากผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือที่ตอบโต้กันไปมา ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์เรียกคิม จองอีนว่า The Rocket Man ที่คอยชี้นื้วกดปุ่มยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่คถกคามสันติภาพและทำให้เกิดการทำลายล้าง ขณะที่ผู้นำเกาหลีเหนือออกมาตอบโต้คำพูดของทัรมป์คล้ายเสียงสุนัขเห่า ได้ส่งผลให้หลายฝ่ายกังวลว่าอาจจะทำให้สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง
ปฏิกริยาของตลาดยังคงอ่อนไหวโดยหุ้นเอเชียในวันนี้เปิดในแดนลบเกือบจะทุกตลาด แต่ยังไม่ผันผวนรุนแรง สวนทางกับทิศทางของเงินเยนร่วงลงแตะ 112.50 เยนต่อดอลลาร์ โดยที่ NIKKEI 225 ญี่ปุ่นเปิดที่ 20,289 ลดลง 60 จุด ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตของจีนเปิดที่ 3,339 ลดลง 17 จุด, ดัชนี HSI ฮ่องกงเปิดที่ 27,904 ลดลง 207 จุด, ดัชนี KOSPI เกาหลีใต้เปิดที่ 2,390 ลดลง 15 จุด, ดัชนีสเตรทไทมส์ สิงคโปร์เปิดที่ 3,206 ลดลง 7 จุด รวมทั้งหุ้นไทยเปิดในแดนลบที่ 1,665 ลดลง 4 จุด


4.S&P Global Ratings ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของจีนลง 1 ขั้น จาก AA- สู่ A+ จากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากภาวะการปล่อยสินเชิ่อที่มากขึ้น ได้ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นในความเสี่ยงทางด้านเศรษฐกิจและการเงินของจีน อย่างไรก็ตาม S&P ระบุว่า แนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของจีนยังคงมีเสถียรภาพ
การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของจีนโดย S&P มีขึ้นตามหลังมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ของสหรัฐเช่นกัน ที่มีการปรับลดในช่วง 4 เดือนก่อนหน้านี้จาก Aa3 มาอยู่ที่ A1 และมีขึ้นในช่วงก่อน 1 เดือนซี่งจะมีการประชุมสมัชชาประชาชนของพรรคคอมมูนิสต์จีนทุกๆ 5 ปีในวันที่ 18 ตุลาคมนี้ ซึ่งมีรายงานก่อนหน้านี้ว่า ทางการจีนได้สั่งจัดการเข้มงวดกับบรรดานักเก็งกำไรไม่ให้เจ้ามาสร้างความวุ่นวายปั่นป่วนกับตลาดการเงินในช่วงที่มีกำลังมีการประชุมใหญ่ครั้งนี้
ทั้งนี้ ทางการจีนยังงต้องเผชิญกับความท้าทายในการจำกัดความเสี่ยงทางการเงินที่เกิดจากการปล่อยสินเชื่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และหลีกเลี่ยงจากวิกฤติการเงินของประเทศ พร้อมๆ กับการตั้งความหวังที่จะบรรลุเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจ


5.ขณะที่นักวิเคราะห์การเงินในสิงคโปร์มองว่า การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือจีนของ S&P ไม่ได้เซอร์ไพรส์ตลาด เพราะเป็นตามที่คาดไว้ว่าจะเกิดขึ้นตามหลังมูดี้ส์
นอกจากนี้ S&P ซึ่งคงระดับแนวโน้มที่มีเสถึยรภาพยังสะท้อนว่าเศรษฐกิจของจีนจะยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งในอีก 3-4 ปีข้างหน้า ถึงแม้ว่าภาวะการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรจะชะลอตัวลงก็ตาม โดยที่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แท้จริงเมื่อเทียบกับราวหัวของประชากร (per capita real GDP growth) จะอยู่ในระดับที่สูงกว่า 4% ทั้งนี้ per capita GDP ของประชากรจีนจะเพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับ 10,000 ดอลลาร์ในปี 2019 จากระดับ 8,300 ดอลลาร์ในปี 2017 ขณะที่อัตรา GDP จะขยายตัวปีละ 5.8% อย่างน้อยจนถึงปี 2020
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ในตลาดมองอย่างกังวลถึงจุดเสี่ยงของระบบการเงินจีนเนื่องจากปริมาณสินเชื่อในระบบที่พุ่งอย่างรุนแรงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจนมีวงเงินสินเชื่อสูงถึง 40 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นปัจจัยทำให้เกิดความไม่สมดุลที่เสี่ยงต่อระบบการเงินจีนในอนาคต

logoline