เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลางระยะ 3,700 กิโลเมตร บินข้ามเกาะฮอกไกโดอีก
เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลางระยะ 3,700 กิโลเมตร สูงเหนือพื้นดิน 770 กิโลเมตร บินข้ามเกาะฮอกไกโด ก่อนตกลงไปที่มหาสมุทรแปซิฟิกห่างจากแหลมเอริโมของญี่ปุ่นราว 2,000 กิโลเมตรช่วงเช้าวันนี้ โดยไม่ได้หวั่นเกรงต่อมติคว่ำบาตรของสหประชาชาติ ขณะที่ทางการญี่ปุ่นออกมายืนยันไม่มีเครื่องบินหรือเรือของญี่ปุ่นลำใดได้รับความเสียหายอันเนื่องมาจากการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
แต่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกแถลงการณ์ประณามการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเป็นการกระทำที่ยั่วยุอย่างร้ายแรง พร้อมประกาศเตือนประชาชนให้เตรียมอพยพในหลายพื้นที่ ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ Rex Tillerson เรียกร้องให้นานาชาติดำเนินมาตรการใหม่ๆ เพื่อลงโทษเกาหลีเหนือเพิ่มขึ้น รวมทั้งด้ระบุในแถลงการณ์ให้จีนกับรัสเซียควรต้องใช้มาตรการลงโทษพวกเขากันเองโดยตรง
อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีที่ร้อนแรงมากขึ้น กลับส่งผลให้ราคาทองยังคงยืนแข็งแกร่งเหนือระดับ 1,334 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นอกจากนี้ยังได้รับแรงหนุนจากคำพูดของ Steven Mnuchin รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ที่กล่าวใน Politico forum ว่า การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจองสหรัฐในตอนนี้ให้ความสำคัญต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจมากกว่าปัญหาเงินเฟ้อ
1.ทางการญี่ปุ่นและเกาหลีใต้รายงานในทำรองเดียวกันถึงการยิงขีปนาวุธของงในช่วงเช้าวันนี้ โดยยิงข้ามเกาะฮอกไกโด ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก โดยไม่ได้หวั่นเกรงต่อมติคว่ำบาตรของสหประชาชาติ หลังจากมีข่าวคราวการเตรียมขีปนาวุธลูกใหม่ตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ NHK ของญี่ปุ่นระบุว่า เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธมีขึ้นในเวลา 06.57 น. ตามเวาท้องถิ่น ด้วยการยิงจรวดพิสัยกลางระยะ 3,700 กิโลเมตร บินในอากาศสูงจากพื้นดิน 770 กิโลเมตรจากเมือง Sunan ทางทิศตะวันตก ข้ามเกาะฮอกไกโดในเวลา 07.07 น. ก่อนตกลงไปที่มหาสมุทรแปซิฟิกห่างจากแหลมเอริโมของญี่ปุ่นราว 2,000 กิโลเมตรช่วงเวลา 07.16 น.
ส่วนทางด้านกองทัพของเกาหลีใต้ได้ออกมายืนยันว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธในช่วงเช้านี้ โดยยิงจากกรุงเปียงยางและเคลื่อนตัวอยู่กลางอากาศเป็นระยะทาง 3,700 กิโลเตร แต่ยังไม่สามารถระบุได้ในขณะนี้ว่าเป็นขีปนาวุธชนิดใด
2.แต่เป็นที่คาดว่า จรวดขีปนาวถธลูกล่าสุดนี้อาจจะเป็นรุ่น Hwasong-12 ที่มีพิสัยการยิง 4,500 กิโลเมตรที่มีการทดสอบยิงเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านนี้ โดยจากการรวบรวมสถืติการมอลองยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือในปี 2017 นี้ของ Statista ระบุว่ามีถึง 11 ลูก ซึ่งเปรียบเทียบศักยภาพของแต่ละรุ่นที่สามารถบินเหนือพื้นดินตั้งแต่ระยะใกล้ 150 กิโลเมตร จนถึงระยะไหลมากกว่า 10,000 กิโลเมตร
นับจากรุ่น KN-02 ยิงได้ในรัศมี 150 กิโลเมตร รุ่น Hwasong-6 ยิงได้รัศมี 500 กิโลเมตร รุ่น Hwasong-7 ยิงได้ในรัศมี 800 กิโลเมตร รุ่น KN-11 และรุ่น KN-15 ยิงได้ในรัศมี 1,200 กิโลเมตรเท่ากัน รุ่น No Dong ยิงได้ในรัศมี 1,500 กิโลเมตร รุ่นถัดมาเป็นจรวดขีปนาวุธพิสัยกลาง Musuan BM 25 ยิงไปได้ในระยะ 4,000 กิโลเมตร รวมทั้งอีก 3 รุ่นในกลุ่ม Hwasong รุ่น Hwasong-12 ยิงไปได้ในระยะ 4,000 กิโลเมตร
ส่วนรุ่นที่เป็นพิสัยไกลที่เป็นจรวดขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ทั้ง Hwasong-13 และ Hwasong-14 ยิงไปได้ถึงระยะ 8,000 กิโลเมตร และ 10,000 กิโลเมตร ตามลำดับรวมถึง Taepodong-2/UNHA-3 ที่ยิงได้ไปไกลกว่า 10,000 กิโลเมตร
3.ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกมาตอบโต้ทันทีประณามการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเป็นการกระทำที่ยั่วยุอย่างร้ายแรง พร้อมประกาศเตือนประชาชนให้เตรียมอพยพในหลายพื้นที่ ถึงแม้ว่า ไม่มีเครื่องบินหรือเรือของญี่ปุ่นลำใดได้รับความเสียหายจากการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือก็ตาม ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศว่าไม่อาจทนต่อการกระทำยั่วยุที่ร้ายแรงของเกาหลีเหนือได้อีกต่อไป จึงขอประท้วงและขอประณามการกระทำในครั้งนี้อย่างรุนแรง
รวมทั้งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ Rex Tillerson เรียกร้องให้นานาชาติดำเนินมาตรการใหม่ๆ เพื่อลงโทษเกาหลีเหนือเพิ่มขึ้น โดยได้ระบุในแถลงการณ์ว่า จีนกับรัสเซียควรต้องใช้มาตรการลงโทษพวกเขากันเองโดยตรง เพื่อแสดงให้เห็นถึงจุดยืนที่ไม่อาจทนต่อการทดลองขีปนาวุธของเกาหลีเหนือต่อไปได้อีก
การออกมาพาดพิงจีนและรัสเซียของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐครั้งนี้ เป็นท่าทีที่บ่งชี้ถึงการที่จีนและรัสเซียเป็นผู้ให้การสนับสนุนเกาหลีเหนือมาตลอด โดยเฉพาะจีนที่มีการส่งออกกน้ำมันไปยังเกาหลีเหนือมากที่สุด ขณะที่รัสเซียมีการว่าจ้างแรงงานชาวเกาหลีเหนือในต่างประเทศมากที่สุดเช่นเดียวกัน
4.นอกเหนือจากความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีที่ร้อนแรงมากขึ้น ส่งผลให้ราคาทองยังคงยืนแข็งแกร่งเหนือระดับ 1,334 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นอกจากนี้ยังได้รับแรงหนุนจากคำพูดของ Steven Mnuchin รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ที่กล่าวใน Politico forum ว่า การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจองสหรัฐในตอนนี้ให้ความสำคัญต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจมากกว่าปัญหาเงินเฟ้อ
ทำให้ตลาดเชื่อว่านโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะผ่อนคลายมากขึ้น จากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ย และการปรับลดภาระในงบดุลของเฟดที่จะมีการประกาศในการประชุมสัปดาห์หน้านี้จะไม่กระทบต่อภาวะตลาดการเงินรุนแรงอย่างที่เป็นกังวลในช่วงก่อนหน้านี้
5.ขณะที่การปั่นป่วนของ Bitcoin ที่บีบให้ราคาร่วงลงกว่า 30% จากราคาพีตที่ 4,950 ดอลลาร์ หลุดลงมาที่ 3,600 ดอลลาร์ หลังจากกลายเป็นเเรี่องดราม่าในสังคมกาารซืั้อขาย Bitcoin เมื่อบรรดาเทรดเดอร์ออกมาตอบโต้คำวิพากษ์วิจารณ์ของ Jamie Dimon ซีอีโอ JPMorgan ที่ระบุว่าการเทรดของเทรดเดอร์ และการฉ้อฉลในตลาด ที่ทำให้ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ประกอบกับกระแสข่าวที่ธนาคารกลางจีนอาจระงับไม่ให้เปิดตลาดซื้อขาย Bitcoin ในตลาดการเงินของจีนอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 กันยายนนี้ หลังจากพบความไม่ชอบมาพากลของนักลงทุนที่ทำการซื้อขาย Bitcoin อย่างเป็นทางการในขณะนี้ ได้ซ้ำเติมให้ราคา Bitcoin ร่วงลงอีกที่ 3,300 ดอลลาร์ ทั้งนี้ ราคา Bitcoin ยังคงสร้างกำไร 545% นับจากต้นปีมานี้
ความไม่สบายใจของนักลงทุนต่อการดิ่งลงของ Bitcoin ล่าสุดได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐได้รับผลบวก เนื่องจากมีนักลงทุนกลับเข้ามาในตลาด หลังจากมีการเทขาย Bitcoin ตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์มานี้ อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าเริ่มมีการปรับตัวลงกว่า 22 จุด ที่ระดับ 22,150 ซึ่งส่งผลต่อตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงตาม เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการที่เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพิสัยกลางในช่วงเช้าที่ผ่านมา