แผนการกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อ ประกอบด้วย การสัมมนาธนาคารพันธมิตร มุ่งเน้นเนื้อหาประโยชน์ของโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขสำคัญที่ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายและประหยัดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดี ในการลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่นเมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา
สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่มีผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในเชิงเศรษฐกิจสูง ด้วยกำลังการผลิต การต่อยอดขยายกิจการ ระดับเงินทุนหมุนเวียน รองรับการเติบโตของตลาดท่องเที่ยวและโรงแรม ภาคบริการ ผลิตภัณฑ์พื้นเมือง ภาคการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม และภาคการเกษตร มั่นใจว่าโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน (PGS ระยะที่ 6) ปรับปรุงใหม่ จะเป็นกลไกสำคัญของการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในจังหวัดเชียงใหม่ และภาพรวมของประเทศมากขึ้น โดยบสย.ได้เตรียมลงพื้นที่ในจังหวัดสงขลา ในวันที่ 22 กันยายน 2560
โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน (PGS ระยะที่ 6) ปรับปรุงใหม่ วงเงิน 81,000 ล้านบาท ผ่านความเห็นชอบตามมติครม.เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม และเริ่มดำเนินโครงการในวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยมี 18 ธนาคารพันธมิตรร่วมลงนามความร่วมมือ (MOU)
สาระสำคัญของโครงการคือ เป็นความร่วมมือจาก 3 ภาคส่วนคือ รัฐบาล บสย.และธนาคาร ร่วมกันผลักดันมาตรการความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs กล่าวคือ ทั้งรัฐบาลและธนาคารพันธมิตร ร่วมกันรับภาระจ่ายค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อแทนผู้ประกอบการ SMEs 4 ปีแรก (รวม7%) โดยตั้งแต่ปีที่ 5 เป็นต้นไปผู้ประกอบการ SMEs เป็นผู้จ่ายค่าธรรมเนียมในอัตรา 1.75% ต่อปีของวงเงินค้ำประกัน โดย บสย.ได้เพิ่มสัดส่วนการจ่ายค่าประกันชดเชยให้ธนาคารจาก 23.75% เป็น 30%