svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ทรัมป์ขู่! ยอมให้หน่วยงานรัฐบาลปิดทำการ หากสภาคองเกรสไม่สนับสนุนงบสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก

25 สิงหาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทรัมป์ขู่ที่จะยอมให้หน่วยงานรัฐบาลต้องปิดทำการ ถ้าหากสภาคองเกรสไม่สนับสนุนงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก พร้อมทั้งกดดันแกนนำในวุฒิสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรร่วมมือกันผลักดันให้สมาชิกพรรครีพับลิกันใน 2 สภาโหวตผ่านร่างยกเพดานหนี้ 19.9 ล้านล้านดอลลาร์ภายในวันที่ 29 กันยายนนี้ โดยมีเดิมพันในตลาดการเงินกว่า 75% เชื่อว่าการบริหารของทรัมป์เสี่ยงที่จะต้องเกิด Government Shutdown ซ้ำรอยในหลายยุครัฐบาลก่อนหน้านี้

ขณะที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ ออกมาเตือนว่าหากสภาคองเกรสสหรัฐประสบความล้มเหลวในการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐในเวลาที่เหมาะสม จะทำให้ต้องมีการทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ โดยมีแนวโน้มปรับลดลงจากระดับ AAA ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในขณะนี้ เนื่องจากจะทำให้พันธะในการชำระหนี้ของรัฐบาลไม่สอดคล้องกับอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ

ทางด้านหุ้นวอล-มาร์ท ร่วงลงหนัก หลังอเมซอนเปิดศึกการค้าปลีกระลอกใหม่หนึ่ประกาศว่าจะตัดราคาสินค้าของ Whole Foods Market ลดลง หากดีลซื้อกิจการของ Whole Foods ซึ่งเป็นธุรกิจค้าส่งรายใหญ่ในสหรัฐมีข้อสรุปในวันจันทร์ที่จะถึงนี้

1.ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นระหว่างชายแดนสหรัฐและเม็กซิโก แม้จะต้องแลกมาด้วยการที่รัฐบาลต้องปิดทำการ หรือ Government Shutdown หากสภาคองเกรสไม่สนับสนุนให้บรรจุในงบประมาณประจำปี 2018 รวมทั้งไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณชั่วคราวสำหรับการบริหารงานของรัฐบาลภายในวันที่ 29 กันยายนนี้หน่วยงานของรัฐบาลหลายแห่งก็ต้องปิดตัวลง เนื่องจากขาดเงินงบประมาณในการบริหารประเทศ
ทางด้านสมาชิกพรรคเดโมแครตเริ่มประกาศจุดยืนอย่างเปิดเผยถึงการขัดขวางการอนุมัติงบประมาณที่รวมถึงงบการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกด้วย


2.ขณะเดียวกันประธานาธิบดีทรัมป์ได้กดดันทั้งแกนนำในวุฒิสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐร่วมมือกันผลักดันให้สมาชิกพรรครีพับลิกันใน 2 สภาผ่านร่างยกเพดานหนี้ 19.9 ล้านล้านดอลลาร์ให้ทันกำหนดในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ด้วย
โดยทรัมป์ทวีตข้อความที่ระบุว่า ความวุ่นวายในสภาคองเกรสเป็นสิ่งที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ถ้าหากแกนนำในสภาทำตามคำแนะนำของเขาในการพ่วงร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐเข้ากับร่างกฎหมายทหารผ่านศึก ทั้งที่เคยเรียกร้องให้มิทช์ แมคคอนเนล แกนนำพรรครีพับลิกันในวุฒิสภา และพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร พ่วงร่างกฎหมายยกเพดานหนี้สหรัฐ เข้ากับร่างกฎหมายทหารผ่านศึก ซึ่งได้ผ่านสภาแล้ว
แต่การไม่ยอมทำตามคำแนะนำ ส่งผลให้สมาชิกพรรคเดโมแครตเข้าขัดขวางการเพิ่มเพดานหนี้ ทำให้เรื่องง่ายกลายเป็นเรื่องยุ่งยากในขณะนี้

3.ทั้งนี้มีเดิมพันในตลาดการเงินของสหรัฐมากกว่า 75% เชื่อว่าการบริหารของทรัมป์เสี่ยงที่จะต้องเกิด Government Shutdown ซ้ำรอยในหลายยุครัฐบาลก่อนหน้านี้ หลังจากในช่วงเกือบหนึ่งสัปดาห์ก่อน ทางโกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจชื่อดังดังสหรัฐระบุว่า 50 ต่อ 50 ที่รัฐบาลทรัมป์อาจต้องปิดดำเนินการ โดยตลาดเดิมพันว่าภาวะที่ Government Shutdown น่าจะเกิดขึ้นหลังจากเดือนกันยายน ดีกว่าที่จะให้เกิดขึ้นในช่วงวันฉลองเทศกาลคริสต์มาสในเดือนธันาวาค

ขณะที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ ออกมาเตือนว่าหากสภาคองเกรสสหรัฐประสบความล้มเหลวในการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐในเวลาที่เหมาะสม จะทำให้ต้องมีการทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ โดยมีแนวโน้มปรับลดลงจากระดับ AAA ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในขณะนี้ เนื่องจากจะทำให้พันธะในการชำระหนี้ของรัฐบาลไม่สอดคล้องกับอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ
ทางด้านสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสมีการบรรลุข้อตกลง ยอมรับหากรัฐบาลไม่มีงบประมาณที่จะบริหารประเทศ ก็จะส่งผลให้มีการปิดหน่วยงานของรัฐบาล โดยอาจเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนตุลาคม ขณะเดียวกันยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการผิดนัดชำระดอกเบี้ย และเงินต้นของบอนด์รัฐบาล ซึ่งะจะสร้างความตื่นตระหนกต่อตลาดการเงินทั่วโลก


4.หุ้นวอล-มาร์ท ร่วงลงหนัก หลังอเมซอนเปิดศึกการค้าปลีกระลอกใหม่หนึ่ประกาศว่าจะตัดราคาสินค้าของ Whole Foods Market ลดลง หากดีลซื้อกิจการของ Whole Foods ซึ่งเป็นธุรกิจค้าส่งรายใหญ่ในสหรัฐมีข้อสรุปในวันจันทร์ที่ 28 สิงหาคมนี้
ทั้งนี้ อเมซอนย้ำถึงเป้าหมายในการเข้าเทคโอเวอร์ Whole Foods Market เพื่อให้เป็นตลาดสินค้าที่มีคุณภาพที่สูงขึ้น และมีสินค้าที่เป็น natural และ organic food สามารถตอบสนองความต้องการของทุกคน โดยเสนอในราคาขายที่ถูกลง
ขณะที่กลางสัปดาห์นี้ ผู้ถือหุ้นของ Whole Foods Market Inc ได้มีการประชุมอนุมัติให้อเมซอนดอทคอม อิงค์ เข้าซื้อกิจการด้วยมูลค่า 1.37 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 42 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งรวมเอาภาระหนี้สินเข้ามาด้วย

5.ความท้าทายของอเมซอนในการชืงส่วนแบ่งธุรกิจค้าปลึกออนไลน์ ไม่เพียงส่งผลต่อวอล-มาร์ท ยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจค้าปลีกของสหรัฐเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกิจการค้าปลีกอีกหลายรายในสหรัฐ โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้า Sears และ Kmart ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีกชื่อดังของสหรัฐ โดยที่ประสบกับยอดขายที่ตกต่ำลงถึง 13.5% และ11.5% ตามลำดับในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ ทั้งนี้ Sears ต้องประสบการขาดทุนสุทธิถึง 251 ล้านดอลลาร์ หรือขาดทุนต่อหุ้นที่ 2.34 ดอลลาร์ในไตรมาส 2 นี้ด้วย
นอกจากนี้ Sears และ Kmart จะมีการปิดสาขาร้านค้าเพิ่มมากขึ้นจำนวน 28 แห่งในไตรมาส 2 และคาดว่าจะปิดเพิ่มขึ้นอีกจนถึงสิ้นไตรมาส 3 นี้รวมทั้งสิ้น 150 แห่ง




logoline