svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นในรอบ 3 เดือน สวนทาง Bitcoin ดิ่งลงหนักมากกว่า 500 ดอลลาร์ในวันเดียว

16 สิงหาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตลาดการเงินทั่วโลกชะลอความผันผวนลง โดยดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้งในรอบ 3 เดือนซึ่ง Dollar Index ทรงตัวที่ 93.89 สวนทาง Bitcoin ดิ่งลงหนักมากกว่า 500 ดอลลาร์ในการซื้อขายวันอังคารหลังจากพุ่งขึ้นทำนิวไฮล่าสุดที่ 4,400 ดอลลาร์ เนื่องจากความตึงเครียดของสงครามคาบสมุทรเกาหลีสงบลงชั่วคราว

เมื่อผู้นำเกาหลีใต้มุน เจอิน แถลงยอมรับว่า ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในคาบสมุทรเกาหลีขณะนี้เป็นบรรยากาศที่ไม่เคยเกิดเช่นนี้มาก่อน แต่การรสู้รบในคาบสมุทรเกาหลีซึ่งรวมถึงปฏิบัติการของระบบต่อต้านขีปนาวุธ THAAD จะไม่มีวันเกิดขึ้น ถ้าปราศจากการยินยอมของเกาหลีใต้ ขณะที่ผู้นำเกาหลีเหนือขอรอดูท่าทีสหรัฐก่อนที่จะตัดสินใจยิงนิวเคลียร์ลูกใหม่สู่เป้าหมายที่เกาะกวมในช่วงกลางเดือนสิงหาคม ตามที่ KCNA ประกาศไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ The Global Time สื่อของทางการจีนได้เสนอให้เกาหลีใต้วางตัวเป็นรัฐกันชนระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐ แต่ข้อเสนอดังกล่าวได้ถูกปฏิเสธจากรัฐบาลของเกาหลีใต้ ท่ามกลางการชุมนุมของชาวเกาหลีใต้ที่ออกมาเรียกร้องสันติภาพในภูมิภาค และเรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีใต้ยกเลิกการซ้อมรบร่วมกับสหรัฐที่กำหนดไว้ 10 วันซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 21 สิงหาคม รวมถึงการยกเลิกข้อตกลงในการพัฒนาการใช้ขีปนาวุธนิวเคลียร์ในระบบ THAAD ที่ทำไว้กับสหรัฐด้วย

1.ในขณะที่ความตึงเครียดของสงครามคาบสมุทรเกาหลีสงบลงชั่วคราวส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกชะลอความผันผวนลง โดยดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้งในรอบ 3 เดือนซึ่ง Dollar Index ทรงตัวที่ 93.89 หลังจากที่หลุดลงไปที่ระดับ 92 ในช่วงที่ความขัดแย้งของสงครามนิวเคลียร์ในคาบสมุทรกำลังระอุตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม แต่ยังคงต่ำกว่าจุดแข็งค่าล่าสุดที่ Dollar Index พีคที่ 103 ในช่วงสิ้นปี 2016 นอกจากนี้ดาวโจนส์มีแรงซื้อของนักลงทุนที่กล้าเสี่ยงกับภาวะตลาด มีการปรับตัวขึ้นมากกว่า 30 จุดช่วงระหว่างวันก่อนปิดตลาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 5 จุดหรือ 0.02% ที่ 21,998
ส่วนหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในกลุ่ม FANG ที่ประกอบด้วยราคาหุ้น Facebook Amazon Netflix และ Google ยังคงอ่อนตัวลงในแดนลบ ทำให้ Nasdaq ปิดที่ 6,333 ลดลง 0.11% ยกเว้นราคาหุ้น Apple Inc ที่เคลื่อนไหวทำนิวไฮต่อเนื่องที่ราคา 162 ดอลลาร์โดยมีมาร์เก็ตแคปพุ่งทะลุขึ้นที่ 8.15 แสนล้านดอลลาร์แล้ว


2.ขณะเดียวกันก็สวนทางกับ Bitcoin ดิ่งลงหนักมากกว่า 500 ดอลลาร์ในการซื้อขายวันอังคาร เนื่องจากความตึงเครียดของสงครามคาบสมุทรเกาหลีสงบลงชั่วคราว หลังจากพุ่งขึ้นทำนิวไฮล่าสุดที่ 4,400 ดอลลาร์ในวันก่อนหน้านี้ตามการปั่นของความร้อนแรงในวิกฤติการสู้รบด้วยอาวุธนิวเคลียร์ที่เป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐ
Bitcoin เคลื่อนไหวปรับตัวขึ้น 70% ไปถึงจุดพีคล่าสุดที่ 4,400 ดอลลาร์ก่อนทิ้งตัวลงที่ 3,900 ดอลลาร์เพียงวันเดียว โดยที่โกลด์แมน แซคส์ ยังคงชี้นำราคา Bitcoin ว่าจะะขึ้นไปได้ถึงระดับ 4,800 ดอลลาร์ แต่อาจจะลงไปที่ระดับ 2,221 ดอลลาร์ ก่อนเคลื่อนไหวสูงขึ้นที่ 4,827 ดอลลาร์ได้ โดยไม่ระบุชัดเจนในเรื่องเงื่อนไขระยะเวลา

3.ทางด้านผู้นำเกาหลีใต้มุน เจอิน แถลงว่า การรสู้รบในคาบสมุทรเกาหลีซึ่งรวมถึงปฏิบัติการของระบบต่อต้านขีปนาวุธ THAAD จะไม่มีวันเกิดขึ้น ถ้าปราศจากการยินยอมของเกาหลีใต้ แต่ยอมรับว่า ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในคาบสมุทรเกาหลีขณะนี้เป็นบรรยากาศที่ไม่เคยเกิดเช่นนี้มาก่อน
ท่ามกลางการชุมนุมของชาวเกาหลีใต้ที่ออกมาเรียกร้องสันติภาพในภูมิภาค และเรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีใต้ยกเลิกปฏิบัติการซ้อมรบร่วมกับสหรัฐที่กำหนดไว้ 10 วันซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 21 สิงหาคม รวมถึงการยกเลิกข้อตกลงในการพัฒนาการใช้ขีปนาวุธนิวเคลียร์ในระบบ THAAD ที่ทำไว้กับสหรัฐด้วย
นอกจากนี้ The Global Time สื่อของทางการจีนซึ่งเคยแนะให่รัฐบาลจีนวางตัวเป็นกลางต่อกรณีเกาหลีเหนือนั้น ได้ยกข้อเสนอให้เกาหลีใต้วางตัวเป็นรัฐกันชนระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐ เพื่อยุติความขัดแย้งที่จะนำไปสู่การสู้รบในคาบสมุทรเกาหลี แต่ข้อเสนอดังกล่าวได้ถูกปฏิเสธจากรัฐบาลของเกาหลีใต้


4.ขณะที่ผู้นำเกาหลีเหนือขอรอดูท่าทีสหรัฐก่อนที่จะตัดสินใจยิงนิวเคลียร์ลูกใหม่สู่เป้าหมายที่เกาะกวมในช่วงกลางเดือนสิงหาคม ตามที่ KCNA ซึ่งเป็นสำนักข่าวกลางของเกาหลีเหนือประกาศไว้ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้มีรายงานว่าเกาหลีเหนือได้เคลื่อนจรวดนิวเคลียร์ 4 ลูกไปไว้ในจุดที่พร้อมจะยิงไปที่เกาะกวมแล้ว ถึงแม้ว่าประธานาธิบดีคิม จองอึน บอกในวันอังคารว่า ขอรอดูท่าทีสหรัฐก่อนก็ตาม หลังจากที่ได้ฟังการบรรยายสถานการณ์สู้รบ และเตรียมการยิงจรวดนิวเคลียร์จากกองทัพเมื่อวันอังคาร ในการที่จะยิงไปที่เกาะกวมโดยผ่านน่านฟ้าของญี่ปุ่น ซึ่งจะผ่านเมืองฮิโรชิม่าและรวมถึงอีก 2 เมืองด้วย

5.ทางด้านเจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐมีกรเปิดเผยถึงการประเมินว่า เกาหลีเหนืออาจมีขีดความสามารถในการผลิตเครื่องยนต์สำหรับขีปนาวุธด้วยตนเอง โดยที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ก่อนหน้านี้ นิวยอร์ก ไทม์ ระบุว่า โรงงานในยูเครนทำการผลิตเครื่องยนต์จรวดนิวเคลียร์ให้กับเกาหลีเหนือตั้งแต่ปี 2014 โดยผ่านการจัดหาผ่านทางเครือข่ายตลาดมืด
โดยเครื่องยนต์จรวดนิวเคลียร์ที่ผลิตได้ในยูเครนคาดว่าเป็นเครื่องยนต์ RD-250 ที่ดีไซน์โดยรัสเซีย ที่มีการนำมาใช้ในการพันาเป็นจรวดนิวเคลียร์ชื่อ Hwasong-12 และ Hwasong-14 ซึ่งเป็นจรวดนิวเคลียร์ที่เดาหลีเหนือทดสอบยิงข้ามทวีป 2 ลูกเมื่อเดือนพฤษภาคมและกรกฎาคมที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ของสหรัฐยังมีการเปิดเผยว่า เครื่องยนต์ RD-250 ได้ผ่านการดัดแปลงากเกาหลีเหนือให้มีสมรรถนะที่สูงขึ้นจนเป็นจรวดนิวเคลียร์ของตนเองหลังจากที่ได้มีการส่งนักวิทยาศาสตร์เกาหลีเหนือไปศึกษาในรัสเซียมาแล้ว

logoline