ทรัมป์เตือนสงครามการค้ากับจีนจะเริ่มขึ้นวันจันทร์นี้แล้ว

นอกากนี้ ทรัมป์ส่งคำเตือนไปยังผู้นำทั่วโลกอย่างเงียบๆ ให้สอดส่องการใช้ช่องทางโอนเงินผ่านการซื้อขายสกุลเงินดิจิตัล หรือ Cryptocurrency ของกลุ่มก่อการร้าย หลังจากที่กฎหมายคว่ำบาตรฉบับใหม่ที่ผ่านรัฐสภาสหรัฐเมื่อ 2-3 สัปดาห์มานี้ ส่งผลให้ทางการทำเนียบขาวสามารถใช้มาตรการดังกล่าวสกัดกั้นช่องทางการเงินที่สนับสนุนการก่อการร้ายทั่วโลก แต่การซื้อขาย Bitcoin ยังคงพุ่งทะลุทำนิวดฮที่ 4,110 ดอลลาร์แล้ว
ขณะที่มีรายงานว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีการหารือกับคนกลางที่เป็นตัวแทนของประธานาธิบดีคิม จองอึน เพื่อชะลอการตัดสินใจบิงขีปนาวุธข่ามทวีปเหนือทะเลญี่ปุ่นสู้เกาะกวมตามที่ประกาศไว้ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากที่สหรัฐเพิ่มแรงกดดันต่อจีนมากขึ้น ทำให้เป็นการยากลำบากที่ผู้นำจีนจะยังคงให้การสนับสนุนทางด้านเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือในลักศณะเดิมต่อไป
1. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตือนประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ถึงสงครามการค้าสหรัฐ-จีน จะเริ่มต้นขึ้นในวันจันทร์นี้ เรียกประชุมผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ร่วมกับทีมงานทำเนียบขาว ซึ่งจะสั่งการให้โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ซึ่งเป็นผู้แทนการค้าสหรัฐ ตัดสินใจเปิดการตรวจสอบการปฏิบัติทางการค้าของจีนมีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐหรือไม่ในวันนี้ ภายใต้มาตรา 301 ของกฎหมายการค้า หรือ Trade Act ปี 1974 โดยที่สหรัฐสามารถใช้มาตรการตอบโต้ด้วยการตั้งกำแพงภาษีกับสินค้าของจีน
ในการจุดกระแสวิตกกังวลดังกล่าวถึงการที่สหรัฐดำเนินมาตรการเพียงฝ่ายเดียวอันจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจนเกิดเป็นสงครามการค้าในที่สุด แต่จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าอาวุโสในคณะบริหารสหรัฐ หากผู้แทน USTR ตัดสินใจจะเดินหน้าตรวจสอบ ก็จะการปรึกษาหารือกับจีนก่อน ซึ่งกระบวนการตรวจสอบอาจใช้เวลานานถึงหนึ่งปี
ขณะที่ทางการจีนยังคงตอกย้ำถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ และเรียกร้องให้ทางการสหรัฐปฏิบัติตามกฎระเบียบกติกาขององค์กรการค้าโลก (WTO) ในการตัดสินใจใช้มาตรการทางการค้าใดๆ

2. โดยที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อคืนวันศุกร์ ถึงการที่เขากำลังเตรียมสั่งการให้ผู้แทนการค้าสหรัฐเปิดการตรวจสอบการค้าของจีน หลังจากที่ได้วางแผนที่จะตรวจสอบการค้าจีนมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน แต่ได้ชะลอแผนดังกล่าวไว้ก่อนเพื่อให้มั่นใจว่าจีนจะสนับสนุนการขยายการคว่ำบาตรของสหประชาชาติต่อเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ การตรวจสอบการค้าจีน หากพบว่ามีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ ก็จะปูทางให้ประธานาธิบดีทรัมป์สามารถตอบโต้ทางการค้ากับจีนด้วยมาตรการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตราสูงสุดได้

3. ขณะที่มีรายงานว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีการหารือกับคนกลางที่เป็นตัวแทนของประธานาธิบดีคิม จองอึน เพื่อหาทางคลี่คลายการตัดสินใจบิงขีปนาวุธข้ามทวีปเหนือทะเลญี่ปุ่นสู่เกาะกวม ตามที่ประกาศไว้ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากที่สหรัฐเพิ่มแรงกดดันต่อจีนมากขึ้น ทำให้เป็นการยากลำบากที่ผู้นำจีนจะยังคงให้การสนับสนุนทางด้านเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือในลักษณะเดิมต่อไป
ท่ามกลางการหารือที่ว่าจีนยังคงต้องสนับสนุนเก่หลีเหนือต่อไป นับตั้งแต่สงครามคาสมุทรเกาหลียุติลงในชาวงทศวรรษ 1950 โดยหลังจากนั้น จีนทำการเปิดประเทศสู่ระบบการค้าโลก จนกระทั้งจีนมีการพัฒนาตัวเองก้าวขึ้นมามีระบบเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่เป็นเบอร์สองของโลก ขณะที่การแบ่งแยกเกาหลีเป็นเหนือ-ใต้ ส่งผลให้เกาหลีเหนือถูกบีบให้ต้องถอยออกจากเวทีโลก โดยหันไปพัฒนาเทคโยโลยีด้านนิวเคลียร์เพื่อหวังป้องกันตัวเองจากการคุกคามของมหาอำนาจ จนึงขณะนี้เกาหลีดหนือสามารถที่จะฝช้อาวุธยิวเคลียร์กับประเทศที่ถือว่าเป็นศัตรู
4. สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจทางด้านมหภาคของจีน มีรายงานล่าสุดในเดือนกรกฎาคม มีการชะลอตัวในทุกตัวเลขเศรษฐกิจในภาพรวม ทั้งผลผลิตที่เพิ่มขึ้น 6.4% พลาดเป้าต่ำกว่าประมาณการที่ 7,1% และต่ำกว่าที่ 37 นักเศรษฐศาสตร์ตาดการณ์ไว้ที่ 6.5-8.7% การลงทุนในสินทัพย์ถาวรช่วง 7 เทินแรกปีนี้ เพิ่มขึ้น 8.3% พลาดตากการคาดการณ์ที่ 8.6% และต่ำกว่าที่ 35 นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 8.4-9.3%
ขณะที่ตัวเลขการค้าปลีกซึ่งบ่งบอกกำลังซื้อในเดือนกรกฎาคมเพิ่มชึ้น 10.4% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 10.8% และต่ำกว่าการคาดการณ์ขิง 37 นักเศรษฐศาสตร์ที่คาดไว้ 9.5-11.5%

5. ประธานาธิบดีทรัมป์ส่งคำเตือนไปยังผู้นำทั่วโลกอย่างเงียบๆ ให้สอดส่องการใช้ช่องทางโอนเงินผ่านการซื้อขายสกุลเงินดิจิตัล หรือ Cryptocurrency ของกลุ่มก่อการร้าย หลังจากที่กฎหมายคว่ำบาตรฉบับใหม่ที่ผ่านรัฐสภาสหรัฐเมื่อ 2-3 สัปดาห์มานี้ ในการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย เกาหลีเหนือ และอิหร่าน ยังส่งผลให้ทางการทำเนียบขาวสามารถใช้มาตรการดังกล่าวสกัดกั้นช่องทางการเงินที่สนับสนุนการก่อการร้ายทั่วโลกในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการซื้อขาย Bitcoin หนึ่งในสกุลหลักของ Cryptocurrencies มีการซื้อขายที่ระดับราคาพุ่งขึ้นถึง 4,110 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นราคาสูงสุดที่เป็นปะวัติการณ์ โดยแซงหน้าราคาทองที่มีการปรับตัวขึ้นมาที่ 1,299 ดอลลาร์ ก่อนเริ่มทรงตัวจากแรงขายที่เข้ามาในตลาด ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์นิ่งแทบจะไม่มีการเคื่อนไหวทั้งกับเงินเยนและยูโร โดย Dollar Index ยืนที่ 93.09 ยกเว้นเงินหยวนของจีนที่แข็งค่าสวนทางดอลลาร์ ล่าสุดเงินหยวนยืนอยู่ที่ 6.6625 ต่อดอลลาร์ เทียบกัยสัปดาห์ก่อนหน้าอยู่ที่ระดัย 6.7289 หยวนต่อดอลลาร์