svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

เกาหลีเหนือประกาศพร้อมยิงขีปนาวุธ Hwasong-12 สู่เป้าหมายเกาะกวมกลางสิงหาคมนี้

10 สิงหาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือประกาศพร้อมยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ข้ามทวีป Hwasong-12 สู่เป้าหมายฐานทัพสหรัฐบนเกาะกวมในกลางเดือนสิงหาคมนี้ ขณะที่ทรัมป์ซึ่งหนุนหลังโดยฝ่ายกลาโหมสหรัฐเตรียมใช้เรือดำน้ำยิงสกัด โดยยังคงทวีตข้อความเตือนการใช้ระเบิดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนืออาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 และจงเตรียมพร้อมไว้แม้มีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่ผู้นำที่น่ากลัวจะนำเราไปสู่สงครามโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากที่ทรัมป์ประกาศยั่วยุว่าเกาหลีเหนือจะต้องเผชิญกับไฟและควาโกรธแค้นจากสหรัฐ

ทางด้านนักวิเคราะห์เริ่มสงสัยว่า วิวาทะที่เต็มไปด้วยคำพูดที่นำไปสู่สงครามนิวเคลียร์ของผู้นำสหรัฐและผู้นำเกาหลีเหนือในขณะนี้ กำลังเร่งให้ความหวังที่จะเปิดเจรจาเพื่อยุคิการใช้อาวุธนืวเคลียร์ต้องปิดตายลงด้วยหรือไม่ นอกจากนี้คำถามที่ตามมาคือใครกันที่เป็นผู้บ้าคลั่งในสงคราม โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจทั่วโลกที่กำลังตามมา
ในขณะที่เกาหลีใต้ต้องเผชิญกับดัชนีหุ้น KOSPI ที่ดิ่งแล้ว 3.5% และค่าเงินวอนร่วงลง 2.4% หลังจากที่คาบสมุทรเกาหลีมีความตึงเครียดจากกระแสภัยคุกคามของการใช้อาวุธนิวเคลียร์ทั้งจากสหรัฐและเกาหลีเหนือีกครั้ง รวมถึงสถานการณ์ตื่นตระหนกในตลาดการเงินไต้หวันส่งผลให้ธนาคารกลางต้องออกมากอบกู้ซื้อหุ้นหลังจากดัชนีราคาหุ้นดิ่งลง 100 จุดในวันพุธ

1.Korean Central News Agency (KCNA) ซึ่งเป็นสำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือประกาศช่วงเช้าวันพฤหัสฯว่า กองทัพเหาหลีเหนือพร้อมยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ข้ามทวีป Hwasong-12 สู่เป้าหมายฐานทัพสหรัฐบนเกาะกวมในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้
โดยศักยภาพของจรวด Hwasong-12 นี้สามารถยิงในระยะปานกลางบินผ่านเหนือ Shimane, Hiroshima และ Koichi ของญี่ปุ่น ด้วยความเร็ว 3,356.7 กิโลเมตร ภายในระยะเวลา 1,065 วินาที
ทั้งนี้ เป็นการประกาศย้ำอีกครั้งของทางการเกาหลีเหนือท่ามกลางการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนโดยฝ่ายกลาโหมสหรัฐเตรียมใช้เรือดำน้ำยิงสกัดและยิงถล่มเช่นกัน โดยที่ทรัมป์ยังคงทวีตข้อความเตือนการใช้ระเบิดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนืออาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 และจาเตรียมพร้อมไว้เม้มีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่ผู้นำที่น่ากลัวจะนำเราไปสู่สงครามโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากที่ทรัมป์ประกาศยั่วยุว่าเกาหลีเหนือจะต้องเผชิญกับไฟและควาโกรธแค้นจากสหรัฐ


2.ทางด้านนักวิเคราะห์เริ่มสงสัยว่า วิวาทะที่เต็มไปด้วยคำพูดที่นำไปสู่สงครามนิวเคลียร์ของผู้นำสหรัฐที่แสดงออกถึงอารมณ์ที่เป็นทั้ง Fire and Furry และผู้นำเกาหลีเหนือที่ยังคงต้องการท้าทายหาอำนาจในขณะนี้ กำลังเร่งให้ความหวังจะที่จะเปิดเจรจาเพื่อยุติการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของหลายฝายต้องปิดตายลงด้วยหรือไม่
นอกจากนี้ คำถามที่ตามมาโดยที่ทั่วโลกจับตามองอยู่คือใครกันแน่ที่เป็นผู้บ้าคลั่งในสงคราม โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจทั่วโลกกำลังตามมา
ในขณะที่เกาหลีใต้ต้องเผชิญกับดัชนีหุ้น KOSPI ที่ดิ่งแล้ว 3.5% และค่าเงินวอนร่วงลง 2.4% หลังจากที่คาบสมุทรเกาหลีมีความตึงเครียดจากกระแสภัยคุกคามของการใช้อาวุธนิวเคลียร์ทั้งจากสหรัฐและเกาหลีเหนืออีกครั้ง
รวมถึงสถานการณ์ตื่นตระหนกในตลาดการเงินไต้หวัน ส่งผลให้ธนาคารกลางต้องออกมากอบกู้ซื้อหุ้นหลังจากดัชนีราคาหุ้นดิ่งลง 100 จุดในวันพุธ โดยใช้เงิน 1.96 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือราว 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพยุงตลาดหุ้นที่ร่วงลงจากระดับดัชนีที่ 10,560 จุดลงมาที่ 10,470 ก่อนที่การแทรกแซงจะดันให้กลับไปยืนเหนือ 10,500 แต่ท่ายที่สุดก็ร่วงลงปิดตลาดที่ 10,460 จุด


3.ส่วนหุ้นกลุ่ม FANG ซึ่งเป็นหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐที่ประกอบด้วย หุ้นของ Facebook, Amazon, Netflix และ Google ร่วงลงมากกว่า 6% ยกเว้นหุ้น Apple ที่ยังมีแรงเก็งกำไรของผลประกอบการที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงต่อเนื่องมา 2 วันส่งผลให้มีนักลงทุนกลับเข้าซื้อทองดันราคาสูงขึ้นที่ 1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สูงสุดในรอบ 2 เดือน
ขณะที่ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวในทิศทางที่ยังอ่อนค่าที่ระดับ 93.65 ส่วนเงินเยนยังคงล้อไปกับดารเคลื่อนไหวของราคาทอง โดยแข็งค่าหลุดระดับ 110 เยนต่อดอลลาร์ มาอยู่ที่ 109.96 เยน ขณะที่นักลงทุนเริ่มเข้าซื้อบอนด์รัฐบาลสหรัฐซึ่งนับว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยจับตามสัญญาณจากประโยคคำพูด Fire amd Furry ของทรัมป์



4.ที่น่าจับตามากที่สุดคงเป็นบรรายากาศซื้อขายในระบบสกุลเงินดิจิตัล หรือ Cryptocurrency กลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง จากการเดทพันว่าจะเป็นทิศทางขาขึ่นเนื่องจากความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี และการปรับตัวของราคาทองที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคา Bitcoin ทำนิวไฮอีกที่ 3,467 ดอลลาร์ เช่นเดียวกับอีกหนึ่งสกุลเงินดิจิตัลที่ได่รับความนิยมเป็นอันดับสองคือ Ethereum มีราคาพุ่งขึ้นที่ 360 ดอลลาร์ ใกล้จุดที่เคยพีตที่ 404 ดอลลาร์ และลงไปต่ำสุดที่ 150 ดอลลาร์เมื่อไม่นานมานี้
ทั้งนี้ ปริมาณซื้อขาย Bitcoin มีมากถึง 1.25 พันล้านดอลลาร์ และ Ethereum มีการซื้อขายในจำนวนมากเช่นกันที่ 1.10 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ตลาดยังเล็งการปรับตัวขึ้นของราคา Bitcoin ที่ 5,000 ดอลลาร์เป็นเดิมพัน


5.ขณะเดียวกันที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้อนุมัติเป็นทางการเปิดประเดิมซื้อขายสกุลเงินดิจิตัลที่เป็นรูปแบบของ Bitcoin ล็อตแรกจำนวน 100 ล้านดอลลาร์ โดยใช้ชื่อว่า Russian Miner Coin หรือ RMC ที่เป็นการอ้างอิงจากสัญญาการซื้อขายพลังงานที่รัสเวียจัดส่งให้กับจีน
โดยถือเป็นการระดมทุนก้อนแรกที่ไม้ต้องการให้มีการซื้อขายด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐ ถึงแม้ว่าการคิดคำนวณจะอ้างอิงเงินดอลลาร์เป็นค่ากลาง แต่ก็เป็นแค่ตัวเลขทางบัญชี โดยสกุลเงินที่จับต้องได้คือ RMC จะถูกนำมาใช้ในระบบที่เป็นการปฏิบัติการจริง
ทั่งนี้ การออก RMC ที่เป็นสกุลเงินดิจิตัลครั้งแรกของรัสเซียนี้ เกิดขึ้นในช่วงที่รัสเซียถูกประกาศคว่ำบาตรจากการออกกฎหมายของสหรัฐรอบใหม่ ที่มีเป้าหมายมุ่งจำกัดปริมาณการซื้อขายพลังงานจากรัสเซียสู่สหภาพยุโรปในอนาคตอันใกล้นี้

logoline