เคล็ดลับเลือกหุ้นสไตล์ Trader

คุณมานิตย์ ศรายุทธิกรณ์ เขาจะมาแชร์เคล็ดลับการปั้นพอร์ตหุ้นส่วนตัว ทั้งวิธีการคัดเลือกหุ้นลงทุน และวิธีการเลือกหุ้นเพื่อเทรดเล่นสั้นเก็งกำไร ผ่านเคล็ดลับการเลือกหุ้น 
คุณมานิตย์เล่าว่า การที่เราเข้ามาในตลาดหุ้นนั้น ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการลงทุนเพื่อหวังเงินปันผล หรือว่าจะเป็นการเก็งกำไรเพื่อหวังกำไรจากส่วนต่างราคาซึ่งเรียกง่ายๆ ว่าการซื้อถูกไปขายแพงนั้น 
สิ่งสำคัญลำดับแรกก็คือการเลือกหุ้นนั่นเอง ถ้าเราได้ทำการวิเคราะห์หุ้น และเลือกหุ้นได้ดีแล้วนั้น ถือได้ว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง ที่เหลือก็อยู่ที่การบริหารหน้าตักวงเงิน (money management) และทำกำไรให้สุดเท่านั้น
การเลือกหุ้นนั้นมีทั้งในส่วนของการเลือกหุ้นเพื่อลงทุน และการเลือกหุ้นเพื่อเก็งกำไร ซึ่งแต่ละอย่างมีทั้งส่วนที่เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกันอยู่ เราอาจเอาหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับมาเก็งกำไรก็ได้ หรือเราอาจจะแบ่งพอร์ท และซื้อหุ้นตัวเดียวกันโดยอาศัยกลยุทธ์ต่างกันก็ได้ 
เพราะการซื้อการขายแบบการลงทุนและแบบการเก็งกำไรนั้น มีรูปแบบที่แตกต่างกัน
การเลือกหุ้นพื้นฐานหุ้นพื้นฐานที่ดีนั้นจะต้องมียอดขายหรือรายได้ที่เติบโต โดยสไตล์ส่วนตัวของเขาเองนั้น หากจะลงทุนในหุ้นพื้นฐานสักตัวแล้ว บริษัทนั้นๆจะต้องมีรายได้หรือยอดขายที่เติบโตในระดับ 20% ต่อปีขึ้นไป 
โดยจะต้องสังเกตการณ์ควบคุมต้นทุนการดำเนินงานไปด้วย ว่ายอดขายหรือรายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้น มีการควบคุมต้นทุนที่ดีหรือไม่ ซึ่งหากควบคุมได้ดี ก็จะส่งผลให้บริษัทมีกำไรที่เติบโตขึ้นไปด้วย 
ซึ่งในการพิจารณาหุ้นพื้นฐานที่ดีในส่วนของกำไรนั้น บริษัทที่น่าลงทุนควรที่จะมีการเติบโตของกำไรสุทธิอย่างสม่ำเสมอทุกไตรมาสและทุกปี เขาจะชอบบริษัทที่มีการเจริญเติบโตของกำไรสุทธิแบบเทียบรายไตรมาสต่อไตรมาส (Q-o-Q) และเทียบไตรมาสเดียวกันปีก่อน (Y-o-Y) ในระดับ 10% ขึ้นไป และหุ้นพื้นฐานที่เหมาะแก่การลงทุนของคุณมานิตย์นั้น จะต้องมีนโยบายการจ่ายปันผลที่สม่ำเสมอด้วย การเลือกหุ้นเก็งกำไรการเลือกหุ้นเข้ามาดูสำหรับการเก็งกำไรนั้น เกณฑ์สำคัญที่คุณมานิตย์ใช้คือ หุ้นตัวนั้นๆจะต้องเป็นขาขึ้น และเป็นขาขึ้นที่ชัดเจน ซึ่งเขาย้ำว่าวิธีที่เขาเลือกใช้ จะเป็นวิธีที่ไม่ซับซ้อนอะไรมากมายและใช้เครื่องมือทางเทคนิคประกอบการวิเคราะห์หลายอย่าง 
อย่างแรกคือ เส้น MACD ในกราฟ day หุ้นตัวนั้นต้องมีการตัด signal line ขึ้น และยืนเหนือค่า 0 ได้ 
อย่างที่สองคือ เส้น EMA (exponential moving average) ค่า 5 วัน (EMA5) ตัดค่า 10 วัน (EMA 10) ขึ้น หรือที่เรียกว่า Golden Cross 
และประการสุดท้าย กราฟรายสัปดาห์ของหุ้นตัวนั้นๆจะต้องมีการเบรคเทรนไลน์ขึ้นมาพร้อมวอลุ่ม ซึ่งวอลุ่มที่เขาให้ความสำคัญนั้น จะต้องมีค่าวอลุ่มเบรก 200 วัน คือเรียกได้ว่า 200 วันที่ผ่านมา วันนี้ วอลุ่มเข้ามากที่สุด
เมื่อเลือกหุ้นได้แล้ว คุณมานิตย์จะแบ่งเป็น 2 พอร์ท คือ  
1 พอร์ท ไว้เก็บหุ้นพื้นฐาน และอีก  1 พอร์ทไว้เก็งกำไรหากระแสเงินสด พอร์ทหุ้นพื้นฐานจะทยอยเก็บอย่างสม่ำเสมอ และอาจเอากระแสเงินสดที่ได้จากการเล่นเก็งกำไรมาซื้อด้วย 
ส่วนพอร์ทเก็งกำไรก็จะแยกไปอีกพอร์ทหนึ่ง จะไม่สนใจพื้นฐานหุ้นเท่าใดนักในการเก็งกำไร แต่มีข้อแม้ว่าต้องมีจุด stop loss (จุดตัดขาดทุน) ทุกครั้งก่อนเข้าทำการซื้อขาย 
และอีกกรณี หากหุ้นที่จะทำการเก็งกำไรเป็นหุ้นมีปัจจัยพื้นฐานรองรับและเป็นตัวเดียวกับหุ้นในพอร์ทแรกก็จะจัดหนักเป็นพิเศษกว่าหุ้นที่ขาดปัจจัยพื้นฐานตัวอื่นๆ..