svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

Bitcoin ล่มอีก นักลงทุนเทขายราคาดิ่งลง 18% ในช่วง 48 ชั่วโมง

12 กรกฎาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

Bitcoin ล่มอีก! นักลงทุนทุบขาย Bitcoin ราคาดิ่งลง 18% ในรอบ 48 ชั่วโมง มาอยู่ที่ระดับ 2,352 ดอลลาร์ เป็นสัญญาณที่ราคา Bitcoin ถูกถล่มทลายระลอก 2 ซ้ำรอยสถานการณ์ที่เคยเกิดวิกฤติระลอกแรกขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ซึ่งราคาดิ่งลงอย่างหนักถึง 30% หลังจากที่พุ่งขึ้นไปพีคสูงสุดที่ 3,000 ดอลลาร์ ผู้เชี่ยวชาญเตือนวันที่ 1 สิงหาคมนี้ จะเป็นการทดสอบครั้งใหญ่ของ Cryptocurrency เมื่อมีสัญญาที่ครบกำหนดการซื้อขายล่วงหน้านั้นจะมีการชำระเงินเกิดขึ้นจริงหรือไม่ หลังเกิดสัญญาณเทขายเนื่องจากไม่เต็มใจจะจ่ายเงินที่ครบกำหนดส่งมอบดังกล่าว

ท่ามกลางความพยายามของสหรัฐในการเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยความขัดแย้งของกลุ่มชาติอาหรับ ล่าสุดสหรัฐและกาตาร์ได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย แต่กลุ่ม 4 ชาติอาหรับที่ประกาศคว่ำบาตรกาตาร์ยีนยันไม่เพียงพอ พร้อมประชุมในวันนี้กดดันต่อเนื่อง ขณะที่กาตาร์ตอบสวนทางการลงนามกับสหรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งโดยตรงและโดยอ้อมในการยุคอข้อขัดแย้ง ย้ำไม่มีปัญหาขาดแคลนสภาพคล่องเผยมีทุนสำรองและฐานะกองทุนความมั่งคั่งที่มั่นคงพร้อมจะรับมือ
ขณะที่ราคาน้ำมัน WTI ผันผวนร่วงลงที่ระดับ 43 ดอลลาร์ หลังจากซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้นำในกาารเรียกร้องให้ลดกำลังการผลิตน้ำมันโลก หันกลับมาเพิ่มการผลิตในเดือนมิถุนายนเป็น 10.07 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงกว่าที่กติกาที่ตกลงกันให้ปรับลดการผลิตน้ำมันลงที่ 10.058 ล้านบาร์เรลต่อวัน เทียบกับเดือนพฤษภาคมมีการผลิตที่วันละ 9.58 ล้านบาร์เรล จับตาวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ ซึ่งจะมีการประชุมหารือเรื่องสถานการณ์น้ำมันโลกของกลุ่มโอเปคและกลุ่มนอกโอเปค ที่กรุงเซนท์ปีเตอร์สเบิร์กในรัสเซีย

1.นักลงทุนทุบขาย Bitcoin ดิ่งลง 18% มาอยู่ที่ระดับ 2,352 ดอลลาร์ เป็นสัญญาณที่ราคา Bitcoin ถูกถล่มทลายระลอก 2 ซ้ำรอยสถานการณ์ที่เคยเกิดวิกฤติระลอกแรกขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ซึ่งราคาดิ่งลงอย่างหนักถึง 30% หลังจากที่พุ่งขึ้นไปพีคสูงสุดที่ 3,000 ดอลลาร์ ขณะที่ Ethereum อีกหนึ่งสกุลเงินดิจิตัลที่ได้รับความนิยมซื้อขายมากเป็นอันดับ 2 ก็ถูกเทขายหนัก จนล่าสุด ราคาดิ่งลงที่ 204 ดอลลาร์ ลดลงจากราคาสูงสุดที่ 400 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน
ผู้เชี่ยวชาญเตือนวันที่ 1 สิงหาคมนี้ จะเป็นการทดสอบครั้งใหญ่ของ Cryptocurrency หลังจากที่มีสัญญาณทางเทคนิคเนื่องจากจะมีสัญญาที่ครบกำหนดการซื้อขายล่วงหน้านั้นจะมีการชำระเงินเกิดขึ้นจริงหรือไม่ หลังเกิดสัญญาณเทขายเนื่องจากไม่เต็มใจจะจ่ายเงินที่ครบกำหนดส่งมอบดังกล่าว ทำให้ตลาดอยู่ในระหว่างการตัดสินใจที่จะกำหนดสัญญาการชำระเงินเพื่อการซื้อขายเปลี่ยนมือไม่เกินครั้งละ 1-2 ล้านหน่วย
2.ปัจจุบัน Bitcoin และ Ethereum เป็น 2 สกุลเงินดิจิตัล หรือ Cryptocurrency ที่มีการซื้อขายครอบ 70% ต้องเผชิญหน้ากับความปั่นป่วนจากแรงเทขายเป็นระลอกส่งผลต่อราคาผันผวนรุนแรงในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา โดยฉพาะราคาของ Bitcoin ซึ่งมีการซื้อขายที่พุ่งพรวดเป็ยจรวดขึ้นมาถึง 2,000 ดอลลาร์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2017 จากราคาที่ซื้อขายต่ำกว่าระดับ 1,000 ดอลลาร์ในช่วงก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ แรงเทขาย Bitcoin และ Ethereum ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ส่งผลให้มาร์เก็ตแคปปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยมาร์เก็ตแคปของ Bitcoin ลดลงที่ 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์ จากที่เคยขึ้นไปมากกว่า 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วน ลดลงที่ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ จากที่เคยมีมูลค่ามากกว่า 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์

3.ท่ามกลางความพยายามของสหรัฐในการเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยความขัดแย้งของกลุ่มชาติอาหรับ ล่าสุดสหรัฐและกาตาร์ได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย ในระหว่างที่ Rex Tillerson รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้เดินทางเยือนกาตาร์ โดยจัดการให้กาตาร์และสหรัฐลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมกันที่กำหนดแนวทางการดำเนินการของกาตาร์เพื่อต่อสู้กับการก่อการร้ายในอนาคต รวมทั้งในเรื่องการควบคุมปัจจัยด้านการระดมทุนที่เชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายด้วย
แต่กลุ่ม 4 ชาติอาหรับซึ่งนำโดยซาอุดิอาระเบีย ศหรัฐแหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน และอียิปต์ ที่ประกาศคว่ำบาตรกาตาร์ยีนยันไม่เพียงพอหลังจากยื่นเงื่อนไขให้กาตาร์ต้องปฏิบัติ 13 ข้อ เตรียมประชุมในวันนี้กดดันต่อเนื่อง
ขณะที่กาตาร์ตอบสวนทางการลงนามกับสหรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งโดยตรงและโดยอ้อมในการยุคอข้อขัดแย้ง ย้ำประเทศไม่มีปัญหาขาดแคลนสภาพคล่อง เผยมีทุนสำรองสูงถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์ และฐานะกองทุนความมั่งคั่งที่มั่นคงมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ เตรียมพร้อมจะรับมือกับปัญหาสภาพคล่องในประเทศ

4.ขณะที่ราคาน้ำมัน WTI ของเวสต์เท็กซัส ยังคงผันผวนร่วงลงที่ระดับ 43 ดอลลาร์ หลังจากซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้นำในกาารเรียกร้องให้ลดกำลังการผลิตน้ำมันโลก หันกลับมาเพิ่มการผลิตใจเดือนมิถุนายนเป็น 10.07 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงกว่าที่กติกาที่ตกลงกันให้ปรับลดการผลิตน้ำมันลงที่ 10.058 ล้านบาร์เรลต่อวัน เทียบกับเดือนพฤษภาคมมีการผลิตที่วันละ 9.58 ล้านบาร์เรล
ประกอบกับนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด หลังจากมีรายงานว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 88,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 9.338 ล้านบาร์เรลต่อวัน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา
แต่หลังจากที่สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ได้ปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันในสหรัฐ ราคาปิดตลาดกลับมาเพิ่มขึ้น 64 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 45.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

5.จับตาวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ ซึ่งจะมีการประชุมหารือเรื่องสถานการณ์น้ำมันโลกของกลุ่มโอเปคและกลุ่มนอกโอเปค ที่กรุงเซนท์ปีเตอร์สเบิร์กในรัสเซีย จะมีการเชื้อเชิญลิเบียและไนจีเรียเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวโน้มการผลิตน้ำมันของทั้งสองประเทศ หลังจากที่ทั้งลิเบียและไนจีเรียซึ่งเป็นสมาชิกของโอเปคแต่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตของทางกลุ่มก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม Goldman Sachs วาณิชธนกิจชื่อดังของสหรัฐ ยังคงมองว่า ราคาน้ำมันโลกจะลดลงต่ำกว่าระดับ 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังกลุ่มโอเปคมีแนวโน้มเพิ่มซับพลายด้านการผลิตอีก โดยเฉพาะลีเบียและไนจีเรียมีการผลิตและส่งออกน้ำมันมากขึ้นในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลต่อราคาปรับตัวลดลวทั่ราคาเฉลี่ย 47.50 ดอลลาร์ จากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ระดับราคาเฉลี่ย 55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

logoline