นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง ระบุ กรมฯมีนโยบายปรับปรุงเครือข่ายด่านชั่งน้ำหนักถาวร และด่านชั่งน้ำหนักเคลื่อนที่ทั่วประเทศ โดยบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ผ่อนผันให้ผู้ประกอบการบรรทุกน้ำหนักเกิน ซึ่งจะช่วยให้งบประมาณในการซ่อมบำรุงรักษาทางหลวงลดลง และยังลดความเสี่ยงต่ออันตรายที่เกิดกับโครงสร้างสะพานและทางลอด
กรมฯ ได้กำชับให้สถานีตรวจสอบน้ำหนักทั่วประเทศจำนวนกว่า 70 แห่ง บูรณาการการทำงานร่วมกันรวมถึงจัดส่งเจ้าหน้าที่ชุดด่านชั่งน้ำหนักเคลื่อนที่จากส่วนกลางของสำนักควบคุมน้ำหนักยานพาหนะออกไปสุ่มจับรถที่บรรทุกน้ำหนักเกินอันจะเป็นการป้องปรามอีกทางหนึ่งจากสถิติการจับกุมล่าสุด ตั้งแต่ 1 พ.ย.2559 - 25 มิ.ย.2560 สามารถจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินได้ 2,621 คัน โดยส่วนใหญ่ 37% เป็นการบรรทุก ดิน หิน ทราย 23% เป็นการบรรทุกสินค้าเกษตร และ 11% เป็นการบรรทุกวัสดุก่อสร้าง ส่วนที่เหลือเป็นการบรรทุกไม้ เครื่องจักร น้ำมัน สินค้าอุตสาหกรรม สินค้าเพื่ออุปโภคบริโภค
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้จับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินได้ 3 คัน บริเวณทางหลวงหมายเลข 12 พื้นที่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เป็นรถ 6 เพลา 22 ล้อ บรรทุกหินน้ำหนักกว่า 95 92 และ 86 ตัน ซึ่งตามกฎหมายกำหนดไว้เพียง 50.5 ตันเท่านั้นส่วนกรณีที่มีการอ้างว่ามีการจ่ายเงินสินบนแก่เจ้าหน้าทีเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมนั้นถ้าหากมีแบะแสสามารถแจ้งมายังช่องทางของกรมทางหลวงได้เพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่กระทำการผิดจริงก็จะดำเนินการตามกฎหมายขั้นสูงสุด
กรมฯ ขอความร่วมมือประชาชนผู้ใช้ทางหลวง หากพบเห็นรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนดให้แจ้งตำรวจทางหลวงหมายเลข 1193 หรือสายด่วนกรมทางหลวง 1586 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 กด 5 เพื่อเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานของถนนและประหยัดงบประมาณซ่อมบำรุงถนนของประเทศ