svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

Europol เผยคดีก่อการร้ายในยุโรป มี 142 เหตุการณ์ในช่วงปีที่ผ่านมา จับผู้ก่อการร้ายได้ 1,002 คน

20 มิถุนายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เปิดรายงาน Europol เกี่ยวกับคดีก่อการร้ายในยุโรป หรือ 2017 EU Terrorism Report มีจำนวนสูงถึง 142 เหตุการณ์ในช่วงปีที่ผ่านมา มีการจับกุมผู้ก่อการร้ายได้รวม 1,002 คน ตามรายงานของ Europol พบว่าประเทศสำคัญที่ตกเป็นเป้าหมายเกิดเหตุก่อการร้าย เกิดขึ้นในอังกฤษสูงถึง 76 เหตุการณ์ ในฝรั่งเศส 23 ครั้ง อิตาลี 17 ครั้ง สเปน 10 ครั้ง กรีซ 6 ครั้ง เยอรมัน 5 ครั้ง เบลเยีบม 4 ครั้ง และเนเธอร์แลนด์ 1 ครั้ง ขณะที่มีผู้เสียชีวิต 142 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 379 คนจากเหตุก่อการร้ายดังกล่าว

ขณะที่ Theresa May นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เรียกประชุมฉุกเฉิน ประกาศกวาดล้างและเตรียมรับมือเหตุก่อการร้ายอย่างเต็มที่ ภายหลังจากที่ตำรวจระบุว่า เหตุคนร้ายขับรถแวนพุ่งเข้าใส่ฝูงชนใกล้กับมัสยิดใน Finsburry Park ทางตอนเหนือของกรุงลอนดอนช่วงเวลา 00.20 น.เมื่อวันจันทร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บ 10 คน อาจจะเป็นการก่อการร้าย จนล่าสุดจับกุมผู้ต้องสงสัยชื่อ Darren Osborne มาจาก Cardiff ในเวลส์ เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเกิดเหตุ นอกจากนี้ยังเกิดเหตุซ้ำคนร้ายขับรถไล่ชนตำรวจกรุงปารีสที่ถนน Champs-lyses ในช่วงบ่ายวันเดียวกันโดยที่คนร้ายเสียชีวิตระหว่างการจับกุม

อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการลงทุนของตลาดหุ้นทั่วโลกในวันแรกของสัปดาห์นี้ไม่หวั่นไหวต่อเหตุก่อการร้ายที่เกิดถี่ขึ้น โดยหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นมากกว่า 1% ส่วนหุ้นสหรัฐปิดบวกทั้ง 3 หลักเพิ่มขึ้น 0.7% โดยดฉพาะตลาดหุ้น Nasdaq พุ่งขี้นถึง 1.42% รวมทั้งตลาดหุ้นเอเชียที่เพิ่มขี้นทั้งกระดาน ขณะที่ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลดลงที่ 44.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และน้ำมัน Brent อยู่ที่ 47.01 ดอลลาร์


1.สำนักงานตำรวจสหภาพยุโรป (Europol) เกี่ยวกับสถานการณ์และแนวโน้มการก่อการร้ายในยุโรป ตามรายงานใน 2017 EU Terrorism Report มีจำนวนสูงถึง 142 เหตุการณ์ในช่วงปี 2016 ที่ผ่านมา มีการจับกุมผู้ก่อการร้ายได้รวม 1,002 คน ขณะที่มีผู้เสียชีวิต 142 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 379 คนจากเหตุก่อการร้ายดังกล่าว
ทั้งนี้ ตามรายงานของ Europol พบว่าประเทศสำคัญที่ตกเป็นเป้าหมายเกิดเหตุก่อการร้าย เกิดขึ้นในอังกฤษที่มีการโจมตีจากก่อการร้ายสูงสุดซ้ำแล้วซ้ำอีกมากกว่าครึ่งหนึ่ง คือ 76 เหตุการณ์และมีการจับกุมกลุ่มผู้ก่อการร้าย 149 คน ตามมาด้วยฝรั่งเศสเกิดเหตุก่อการร้ายถึง 23 ครั้งและมีการจับกุมได้ถึง 456 ราย ขณะที่อิตาลีเกิดเหตุก่อการร้ายมาเป็นอันดับ่าทจำนวน 17 ครั้งและมีการจับกุมได้ 38 ราย ส่วนที่สเปนเกิดขึ้น 10 ครั้งและมีการจับกุมได้ 120 ราย กรีซ 6 ครั้งและมีการจับกุมได้ 17 ราย เยอรมัน 5 ครั้งและมีการจับกุมได้ 35 ราย เบลเยีบม 4 ครั้งและมีการจับกุม 65 ราย และเนเธอร์แลนด์ 1 ครั้งและมีการจับกุม 45 ราย


2.Europol ยังระบุว่า ในสถิติระหว่างปี 2014-1016 โดยเป็นการเกิดเหตุก่อการร้ายในยุโรปพึ่งสูงสุดในปี 2014 ถึง 226 ครั้ง แต่ในปี 2015 มีการจับกุผู้ก่อการร้ายที่สาวถึงเครือข่ายได้ 1,077 คน
ทั้งนี้จากรายงาน Europol พบว่า มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายในช่วง 3 ปี โดยนับถอยหลังจากปี 2016 ที่มีการโจมตี 142 ครั้ง จับกุมผู้ก่อการร้ายได้ 1,002 คน ในปี 2015 เกิดการโจมตี 193 ครั้ง จับกุมผู้ก่อการร้ายได้ 1,077 คน และในปี 2014 เกิดการโจมตี 226 ครั้ง จับกุมผู้ก่อการร้ายได้ 774 คน


3.ขณะที่ Theresa May นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เรียกประชุมฉุกเฉิน ประกาศกวาดล้างและเตรียมรับมือเหตุก่อการร้ายอย่างเต็มที่ ภายหลังจากที่ตำรวจระบุว่า เหตุคนร้ายขับรถแวนพุ่งเข้าใส่ฝูงชนใกล้กับมัสยิดใน Finsburry Park ทางตอนเหนือของกรุงลอนดอนช่วงเวลา 00.20 น.เมื่อวันจันทร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บ 10 คน อาจจะเป็นการก่อการร้าย จนล่าสุดจับกุมผู้ต้องสงสัยชื่อ Darren Osborne วัย 47 ปีซึ่งเป็นพ่อของลูก 4 คน มาจาก Cardiff ในเวลส์ เพียงไม่กี่ชั่วโมงที่นอกกรุงลอนดอนหลังจากเกิดเหตุ
นอกจากนี้ยังเกิดเหตุซ้ำคนร้ายขับรถไล่ชนตำรวจกรุงปารีสที่ถนน Champs-lyses ในช่วงบ่ายวันเดียวกันโดยที่คนร้ายเสียชีวิตระหว่างการจับกุม โดยเหตุก่อการร้ายในฝรั่งเศสนี้ เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ในรอบ 4 เดือน ขณะที่เกิดเหตุในอังกฤษ 4 ครั้งในรอบ 3 เดือนรวมถึงเหตุการณ์ก่อการร้ายที่แมนเชสเตอร์ อารีนา ด้วย


4.อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการลงทุนของตลาดหุ้นทั่วโลกในวันแรกของสัปดาห์นี้ไม่หวั่นไหวต่อเหตุก่อการร้ายที่เกิดถี่ขึ้น เดินหน้าแรลลี่โดยหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นมากกว่า 1% ส่วนหุ้นสหรัฐปิดบวกทั้ง 3 หลักเพิ่มขึ้น 0.7% โดยดฉพาะตลาดหุ้น Nasdaq พุ่งขี้นถึง 1.42%
รวมทั้งตลาดหุ้นเอเชียที่เพิ่มขี้นทั้งกระดาน ขณะที่ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลดลงที่ 44.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และน้ำมัน Brent อยู่ที่ 47.01 ดอลลาร์
ท่ามกลางบรรยากาศความเสี่ยงของเหตุก่อการร้าย การเปิดเจรจา Brexit อย่างเป้นทางการ และข่าวการเลือกตั้งส.ส.ในฝรั่งเศสซึ่ง Emmanuel Macron ได้รับชัยชยะอย่างถล่มทลาย


5.รวมถึงล่าสุดความตึงเครียดที่กลับมาอีกในซีเรีย โดยเบี่ยงเบนจากสถานการณ์ร้อนๆ ในกาตาร์เนื่องจาการคว่ำบาตรของ 9 ชาติอาหรับที่นำโดยซาอุดิอาระเบีย เมื่อกองทัพสหรัฐยิงเครื่องบินรบของซีเรียตก
ขณะที่รัสเซียแถลงเป็นทางการในการระงับความร่วมมือกับสหรัฐที่จะช่วยกันยุติสงครามในซีเรีย หลังจากที่กองทัพสหรัฐประกาศว่า ได้ยิงเครื่องบินรบ Syrian Su-22 jet ตกแถวบริเวณ Euphrates Rive โดยที่พื้นที่ดังกล่สวอยู่ในความดูแลสอดส่องของรัสเซีย หลังจากปฏิบัติทางทหารที่ได้เข้าไปดำเนินการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2015

logoline