svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

IoT คือตัวเร่งการเปลี่ยนผ่าน ไปสู่ยุคดิจิทัลแบบเต็มรูปแบบ

26 พฤษภาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

แนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีในปี 2017 กำลังเริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ซึ่งรวมถึง Internet of Things (IoT) ด้วย ในขณะที่ดูเหมือนว่าจะมีแนวโน้มความนิยมเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Machine learning มากขึ้นพร้อมกันไปด้วย

ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจำนวนมากยังคงสนใจ และพยายามคิดค้นถึงการปรับใช้ IoT ในรูปแบบต่างๆ ในการสร้างสำนักงานและบ้านอัจฉริยะ ที่สามารถควบคุมสภาพอากาศที่เชื่อมต่อเป็นเครือข่ายกับเครื่องใช้ไฟฟ้าและระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อพัฒนาระบบการใช้พลังงานและความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพที่สุด
ผลิตภัณฑ์ IoT บางประเภทได้รับแรงผลักดันจากตลาด รวมทั้งเครื่องควบคุมอุณหภูมิภายในบ้าน ระบบล็อคประตูจากสมาร์ทโฟน และตู้เย็นอัจฉริยะ ซึ่งเป็นเพียงจุดเริ่มต้นจากการที่หลายบริษัทได้พัฒนาขึ้น 
หากคุณคิดที่จะตั้งบริษัท startup ของตัวเอง คุณควรลองพิจารณาการนำ IoT มาใช้งานเพิ่มขึ้นในธุรกิจด้วย และยังเป็นเรื่องสำคัญที่ควรจะต้องติดตามแนวโน้มสำคัญๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะธุรกิจของคุณอาจถูกผลิกผัน disrupt ได้โดยง่ายดาย
เครื่องควบคุมอุณหภูมิและเครื่องใช้ภายในบ้าน ดูเหมือนจะเหมาะกับการปรับใช้เทคโนโนโลยี IoT และ AI เข้าด้วยกัน เพราะบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้ เข้าใจวิธีที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าได้ พวกเขาเข้าใจว่าจะทำอย่างไรให้เหมาะและเข้ากับชีวิตของผู้คนเช่น รถยนต์อัจฉริยะ การควบคุมสภาพอากาศ และความปลอดภัยในบ้าน
ในอนาคต แอพพลิเคชั่นเหล่านี้จะเชื่อมต่อถึงกันทั้งหมด ไปจนถึงระบบ logistic เพื่อการขนส่งสินค้าถึงบ้านและสำนักงาน โดยระบบ GPS หรือ Location based services ที่ราคาจะถูกลงมาก จนทำให้เราสามารถ track ตำแหน่งสินค้าของเราได้แบบ realtime 
ซึ่งโซลูชั่น IoT ที่เกิดขึ้นใหม่สำหรับสิ่งต่างๆ เช่น เมืองอัจฉริยะและรถยนต์ที่เชื่อมต่อกันได้ จะเป็นที่นิยมนับจากนี้เป็นต้นไปอย่างชัดเจน
อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติอุตสาหกรรมที่กำลังมองหาสิ่งใหม่ด้วยต้นทุนที่ต่ำแต่มีประสิทธิภาพสูง และต้องการมีเครื่องมือและกระบวนการแบบอัตโนมัติ ซึ่งผู้ที่อยู่ในตลาด IoT สามารถแบ่งปันข้อมูล และเครื่องมือต่างๆ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและประหยัดเวลาได้มากขึ้น 
ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data) ที่เชื่อมกับ IoT จะทำให้ขีดความสามารถในการวิเคราะห์ผ่านเครือข่าย IoT (IoT Analytics) จะเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่เป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งนับจากนี้ ซึ่งเมื่อ Big data รวมกับแพลตฟอร์ม IoT cloud จะทำให้อุปกรณ์ IoT เหล่านี้เป็น sensor เพื่อการเก็บข้อมูลอย่าง realtime ซึ่งมีข้อมูลจำนวนมาก 
และในทางกลับกัน ข้อมูลเหล่านี้สามารถป้อนลงในอัลกอริทึมการวิเคราะห์ IoT ได้ เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกแก่ธุรกิจต่างๆ โดยในการทำเช่นนี้ อาจมีรูปแบบรายละเอียดมากขึ้น และแนวโน้มนี้อาจเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ธุรกิจขนาดเล็กจะได้รับประโยชน์จากการวิเคราะห์ที่ก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าจะให้บริการกับบริษัทขนาดใหญ่เท่านั้น เพราะมีต้นทุนสูงมากในอดีต
ความกังวลเรื่องความมั่นคงปลอดภัย ถือเป็นหนึ่งในอุปสรรคสำคัญที่นำไปสู่การปรับใช้งาน IoT ซึ่ง Blockchain ถือเป็นอีกหนึ่งโซลูชั่นสำหรับ IoT ที่สามารถเพิ่มความปลอดภัย สร้างความไว้วางใจ และสามารถทำธุรกรรมได้รวดเร็วยิ่งขึ้น 
มีแอพพลิเคชั่นจำนวนมากเกิดขึ้นที่ทำให้ Blockchain ช่วยให้ธุรกิจสามารถพัฒนาเรื่องความมั่นคงปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และประสิทธิภาพในการทำธุรกรรมทางการเงิน
ปัจจุบันมีองค์กรและธุรกิจ startup จำนวนมากทั่วโลก ที่กำลังพัฒนาการประยุกต์ใช้งาน IoT ดังนั้นในปีนี้ อาจเป็นจุดเปลี่ยนในการปรับใช้เทคโนโลยีนี้ เพราะผู้บริโภคและภาคธุรกิจต่างเห็นประโยชน์ของการสร้างเครือข่ายธุรกิจ รวมถึงประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย

https://www.forbes.com/sites/theyec/2017/03/15/five-iot-trends-to-consider-in-2017/2/#36033e1425dc


พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณรองประธาน กสทช. และประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคมwww.เศรษฐพงค์.comLINE id : @march4G


logoline