svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ทรัมป์เจอศึกหนัก! ถูกเรียกร้องให้ถอดจากตำแหน่งปธน.

18 พฤษภาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทรัมป์เจอศึกหนักกระแสทางการเมืองร้อนปุดๆ ถูกเรียกร้องให้มีการถอดถอนจากตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ระบุการกระทำของทรัม์เป็นการแทรกแซงกระบวนกาารสอบสวน ขัดต่อจริยธรรมและกฎหมาย หลังนิวยอร์ก ไทม์ ตีแผ่ทรัมป์ขอให้ James Cimey อดีตผู้อำนวยการ FBI ยุติการสอบสวนไมเคิล ฟลินน์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาสภาความมั่นคงแห่งชาติแอบติดต่อกับทางรัสเซีย

ขณะที่ทรัมป์แต่งตั้ง Robert Mueller อดีตผู้อำนวยการ FBI ในช่วงปี 2001-2013 เข้ามาเป็นคณะกรรมการตรวจจสอบชุดพิเศษ ท่ามกลางผลการสำรวจ Public Policy Polling ชี้คนอเมริกัน 48% สนับสนุนให้มีการถอดถอนทรัมป์ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี ส่วนอีก 41% แสดงการคัดค้าน
จับตาวันที่ 24 พฤษภาคมนี้ ซึ่งเป็นกำหนดวันที่ประธานคณะกรรมาธิการด้านการสอบสวนฝ่ายบริหารประจำสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐ ส่งหนังสือไปยัง FBI ให้ส่งบันทึกข้อความทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบันทึกของ James Comey ระบุทรัมป์ขอให้ยุติการสอบสวนไมเคิล ฟลินน์ มาให้ตรวจสอบ ซึ่งสอดคล้องกับ ส.ส.พรรครีพับลิกันที่เรียกร้องให้เปิดเผยบันทึกข้อความฉบับเต็มเพื่อตรวจสอบด้วย

นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อบรรดามหาเศรษฐีหุ้นในสหรัฐที่ติด World's 500 ต้องขาดทุนกว่า 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์จากวิกฤติการเมืองของทรัมป์ครั้งนี้ เนื่องจากราคาหุ้นสหรัฐทั้ง 3 ตลาดหลักดิ่งลง 2-3% ในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการตกต่ำมากที่สุดในรอบ 9 เดือน

1.โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังผชิญวิกฤติเขย่าตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ หลังนิวยอร์ก ไทม์ อ้างรายงานบัทึกของ Jame Comey อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ซึ่งปลูกปลดออกจากเก้าอี้หมาดๆ ระบุว่าทรัมป์ขอให้ยุติการสอบสวนไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาสภาความมั่นคงไปพบกับทางรัสเซีย โดยชี้ว่าการกระทำของทรัมป์เป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ขัดต่อจริยธรรมและกฎหมาย
ทั้งนี้ นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานระบุว่า James Comey ได้เข้าพบทรัมป์ที่ทำเนียบขาว เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และในบันทึกสรุปการพูดคุยกัน ทรัมป์ได้ขอให้วางมือจากการสอบสวน โดยบอกว่าใมเคิล ฟลินน์ เป็นคนดี และหวังว่าจะปล่อยเขาไป
สำหรับไมเคิล ฟลินน์ ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สาบานตนรับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยที่เขาได้ยื่นจดหมายลาออกจากตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์นั้นเอง หลังถูกเปิดโปงว่าไปพูดคุยกับทูตรัสเซียตั้งแต่ก่อนทรัมป์จะเข้ามาทำงานในทำเนียบขาว
อย่างไรก็ตาม โฆษกทำเนียบขาวออกมาปฏิเสธรายงานของสื่อที่ตีข่าวอ้างบันทึกของ James Comey ที่เพิ่งถูกปลดออกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นข้อความที่ Comey ระบุในบันทึกข้อความว่า การหารือระหว่างทรัมป์หกับเขาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์โดยยืนยันว่า ในบันทึกข้อความที่ถูกนำมาเผยแพร่ไม่ใช่บทสนทนาที่ถูกต้อง และผู้นำสหรัฐก็ไม่ได้แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของสหรัฐแต่อย่างใด


2.จับตาวันที่ 24 พฤษภาคมนี้ ซึ่งเป็นกำหนดวันที่ประธานคณะกรรมาธิการด้านการสอบสวนฝ่ายบริหารประจำสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐ ส่งหนังสือไปยัง FBI ให้ส่งบันทึกข้อความทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบันทึกของ James Comey ระบุทรัมป์ขอให้ยุติการสอบสวนไมเคิล ฟลินน์ มาให้ตรวจสอบ ขณะเดียวกันกับที่ ส.ส.พรรครีพับลิกันได้เรียกร้องให้เปิดเผยบันทึกข้อความฉบับเต็มเพื่อตรวจสอบด้วย
ในวลาที่สอดคล้องกับ Al Green สมาชิกรัฐสภาสหรัฐ ออกมาเรียกร้องให้ถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์จากตำแหน้ง เนื่องจากทำการข่มขู่และขัดขวางกระบวนการยุติธรรม


3.ผลการสำรวจของ Public Policy Polling พบว่า คนอเมริกันที่ถูกสำรวจ 48% สนับสนุนให้มีการถอดถอนทรัมป์ออกจากตำแหน่ง ขณะที่ 41% แสดงการคัดค้าน เมื่อลงดูในรายละเอียดชี้ว่า กลุ่มคนที่ถูกสำรวจครั้งนี้เป็นฝ่ายที่หนุนเดโมแครต 41% และเป็นฝ่ายหนุนรีพับลิกัน 37%
โดยที่คนอเมริกันเชื่อว่า เป็นเรื่องจริงที่เกี่ยวข้องกับกรณีรัสเซีย 51% และไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับรัสเซีย 33%

นอกจากนี้ ผู้ที่ถูกสำรวจ 54% ยังไม่ชื่นชอบการปฏิบัติงานของทรัมป์ ขณะที่ 40% มีความชื่นชอบ โดยที่โพลยังระบุว่าผู้ถูกสำรวจ 45% คิดว่าทรัมป์จะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งประธานาธิบดีจนครบวาระ 4 ปี ขณะที่ 43% คาดว่าเขาจะปฏิบัติหน้าที่ครบวาระ


4.ในที่สุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยอมที่จะแต่ตั้ง Robert Mueller อดีตผู้อำนวยการ FBI ในช่วงปี 2001-2013 เข้ามาเป็นคณะกรรมการตรวจจสอบชุดพิเศษ ในเรื่องฉาวที่เกี่ยวข้องกับการแทรกแซงของรัสเซียในปีที่ผ่านมา
ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ยืนยันว่าผู้นำสหรัฐไม่ได้เปิดเผยข้อมูลลับใดๆ แก่ Sergei Lavrov รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย รวมทั้งไม่ได้แบ่งปันข้อมูลลับเหล่านั้นกับรัสเซียด้วย ในระหว่างที่มีการพบปะกันที่กรุงวอชิงตัน ดีซี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมยอมมอบหลักฐานเกี่ยวกับการหารือแก่สภาคองเกรสสหรัฐ หากได้รับการร้องขอมา โดยที่ประธานาธิบดีปูตินได้เรียกสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นสัญญาแห่งโรคจิตเภททางการเมืองในสหรัฐ ที่ไม่ยอมปล่อยให้ทรัมป์ทำงานอย่างเต็มที่


5.วิกฤติการเมืองสหรัฐที่เป็นพายุพัดโหมทรัมป์ในวันนี้ ยังส่งผลกระทบต่อบรรดามหาเศรษฐีหุ้นในสหรัฐที่ติด World's 500 ต้องขาดทุนกว่า 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากราคาหุ้นสหรัฐทั้ง 3 ตลาดหลักดิ่งลง 2-3% ในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการตกต่ำมากที่สุดในรอบ 9 เดือน

ทั้งนี้ ดาวโจนส์ร่วงลงอย่างหนักกว่า 372 จุดหรือลบ 1.78% ปิดที่ 20,606 S&P500 ปิดที่ 2,357 ร่วงลง 1.82% และ Nasdaq ปิดที่ 6,011 ร่วงลง 2.57% เช่นเดียวกับหุ้นยุโรปที่ร่วงลง 1-3% ส่วนเอเชียเปิดตลาดได้รับผลในทิศทางเดียวกัน ทั้งญี่ปุ่นติดลบ 1.44% จีนติดลบแค่ 0.2% ฮ่องกงติดลบ 0.27% สวนทางทองคำพุ่งขึ้น 1.8% ที่ระดับราคา 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อว่า ประเด็นร้อนเกี่ยวกับทรัมป์ที่ได้เปิดเผยข้อมูลลับเกี่ยวกับกลุ่ม ISIS ให้กับทางการรัสเซียนั้น อาจทำให้ทรัมป์ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมากขึ้นในการผลักดันนโยบายการทำงาน ทั้งนี้โพลของ Gallup ที่วัดตวามเชื่อมั่นของคนอเมริกันระบุว่า ในขณะนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับประธานาธิบดีใหม่ทุกคน นับตั้งแต่ที่มีการทำการสำรวจมาตั้งแต่ปี 1953

logoline