svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

2 ประธานเฟดระบุ ตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มมีสัญญาณฟองสบู่ขนาดเล็ก

30 มีนาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

2 ประธานเฟดสาขาจากบอสตันและซานฟรานซาโก ระบุตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มมีสัญญาณฟองสบู่ขนาดเล็ก และสร้างความร่ำรวยที่มากขึ้น เป็นเครื่องชี้ว่าแนวโน้มดอกเบี้ยจะมีทิศทางปรับตัวสูงขึ้น โดยอาจมีความจำเป็นที่จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ถึง 4 ครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจในภาพรวมขยายตัวร้อนแรงจนเกินไป จึงถึงจังหวะเวลาที่ราคาหุ้นควรจะปรับตัวลดลง ทั้งนี้เฟดเพิ่งมีการปรับดอกเบี้ยจาก 0.75% เป็น 1.0% เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 11 ปีเมื่อวันที่ 15 มีนาคม

ขณะที่ทางการจีนออกมาประกาศจะเพิ่มสำรองทองคำมากขึ้น หลังจากพบเหมืองทองคำขนาดใหญ่ทางภาคตะวันออกในมณฑลกวางตุ้ง โดยคาดว่าจะมีปริมาณสูงถึง 14,000 ตันในปี 2020 และจะกลายเป็นประเทศที่มีทุนสำรองเป็นทองคำมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก จากปัจจุบันที่จีนมีทองคำสำรองมากเป็นอันดับ 5 ตามหลังสหรัฐ เยอรมัน อีตาลี และฝรั่งเศส
หลังจากสัญญาณระฆัง Brexit ในการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ของอังกฤษเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ส่อเค้าปัญหาที่ยุ่งยากที่กำลังตามมาเมื่อคณะกรรมาธิการของอียูยื่นเงื่อนไขก่อนที่การเจรจารากระบวนการถอนตัวในช่วง 2 ปีนับจากนี้ อังกฤษจะต้องเคลียร์เงินค้างจ่ายจำนวน 6.4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่ออียูเสียก่อน ขณะที่วงการแบงก์ในกรุงลอนดอนตื่นตัวในการวางแผนโยกย้ายบัญชีลูกค้าออกจากศูนย์กลางทางการเงินแห่งนี้ไปสู่แฟรงก์เฟิร์ต ปารีส หรือลักเซมเบิร์ก

1.เหตุผลในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเจเน็ต เบลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะเมื่อประธานาเฟด 2 สาขา จากบอสตันและซานฟรานซาโก มีความเชื่อที่ตรงกันว่าตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มเกิดฟองสบู่ขนาดเล็ก และสร้างความร่ำรวยที่มากขึ้นจากราคาหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่าวรวดเร็ว เป็นเครื่องชี้ว่าแนวโน้มดอกเบี้ยจะมีทิศทางขาขึ้น โดยมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ถึง 4 ครั้ง จากที่เมื่อเดือนธันวาคม 2016 มีการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจโดยรวมขยายตัวร้อนแรงจนเกิดภาวะ Overheating จึงเป็นจังหวะเวลาที่ราคาหุ้นควรจะปรับตัวลดลง โดยเฟดเพิ่งมีการปรับดอกเบี้ยจาก 0.75% เป็น 1.0% เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 11 ปีเมื่อวันที่ 15 มีนาคม
โดย Eric Rosengren ประธานเฟดสาขาบอสตัน ยอมรับว่า ตลาดหุ้น รวมถึงราคาบ้านที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ในตอนนี้เกิด "a little rich" เนื่องจากราคาสินทรัพย์ทางการเงินดังกล่าวที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะราคาหุ้นไม่ควรปรับตัวขึ้นจากการผลักดันของการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด และนี่คือเหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้เฟดต้องผลักดันให้มีการปรับดอเบี้ย 4 ครั้งภายในปี 2017 นี้ และใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด เพื่อจะทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลง
นอกจากนี้ John Williams ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก บอกถึงความระมัดระวังที่เข้มข้นมากขึ้น โดยยอมรับว่าเกิดภาวะที่เรียกว่าฟองสบู่ขนาดเล็กในตลาดหุ้นสหรัฐ เพราะราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นมากจนเกินไป จนเกิด Overvalue ซึ่งตลาดหุ้นคงไม่อยากเห็นภาวะเช่นนี้ โดยเฉพาะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น หรือ Fed Fund Rtae ไม่ควรที่จะมีการวิพากษ์วิจารณ์ต่อไป

2.แต่ท่ามกลางราคาหุ้นในสหรัฐที่อ่อนไหวและปรับตัวลงขณะนี้ แบงก์ออฟอเมริกา (BofA) เปิดเผยว่าลูกค้าที่กองทุนเฮดจ์ ฟันด์และนักลงทุนรายย่อเริ่มกลับเข้าลงทุนซื้อหุ้นสวนกระแสอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่มีแรงเทขายอย่างหนักเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาจนทำให้ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงถึง 700 จุดจากจุดพีคเมื่อวันที่ 1 มีนาคมซึ่งดาวโจนส์พุ่งทะลุ 21,169 เป็นจุดสูงสุดระหว่างเทรดในวันนี้น โดยเฉพาะดัชนี S&P 500 ซึ่งร่วงลงถึง 1.4% ในสัปดาห์ที่แล้ว และทั้งที่ก่อนหน้านี้มีรายงานลูกค้าของวาณิชธนกิจขนาดใหญ่ของสหรัฐมีการพอร์ตโดยขายหุ้นออกมาในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา
แต่สำหรับ Jim Rogers กูรูผู้บริหารกองทุนอิสระ กลับระบุเฟดได้ทำให้สิ่งที่เลวร้ายมากๆ จากอดีตที่ผ่านมา เนื่องจากการที่เข้าไปโอบอุ้มกิจการธนาคารเอกชนที่เข้าขั้น Zombie Banks รวมทั้งบริษัทจำนวนมากที่ส่ออาการทางธุรกิจร่อแร่ ให้กลับมาฟื้นตัวใหม่ และตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้เกิดผลดีใดๆ ขึ้นมา นอกจากการเป็นหนี้ที่มีมากขึ้นนั่นเอง

3.ทางการจีนออกมาประกาศจะเพิ่มสำรองทองคำมากขึ้น หลังจากพบเหมืองทองคำขนาดใหญ่ทางภาคตะวันออกในมณฑลกวางตุ้ง ทำให้การทำเหมืองคำดังกล่าวสามารถเพิ่มผลผลิตทองที่นำมาฝากไว้ในทุนสำรองของจีนมากขึ้นในอนาคต โดยคาดว่าจีนจะมีปริมาณทองคำสำรองสูงถึง 14,000 ตันในปี 2020 และจะกลายเป็นประเทศที่มีทุนสำรองเป็นทองคำมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก จากปัจจุบันที่จีนมีทองคำสำรองมากเป็นอันดับ 5 ตามหลังสหรัฐ เยอรมัน อีตาลี และฝรั่งเศส เนื่องจากจีนประกาศว่ามีทองคำสำรองเป็นทางการเพียง 1,843 ตัน
อย่างไรก็ตลอดเวลา 40 ปีที่ผ่านมา Shandong Gold Group ซึ่งมีการฝากทองคำเป็นทุนสำรองของประเทศใหญ่เป็นอันดับสองในจีน แต่ในอนาคตจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 2.8% ของทองคำสำรองทั้งมหมด เท่าๆ กับเซี่ยงไฮ้ เนื่องจากการทำเหมืองทองในกวางตุ้งที่เพิ่มขึ้นจากการค้นพบแหล่งผลิตทองคำที่มากขึ้น จะทำให้สีดส่วนการฝากทองคำไว้ 382 ตันเพิ่มขึ้นเป็น 550 จันภายใน 2 ปีข้างหน้า โดยทั้งหมดเป็นการยืนยันจากรัฐมนตรีอุตสาหกรรมและสารสนเทศน์ของจีนล่าสุด

4.สัญญาณระฆัง Brexit ในการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ของอังกฤษเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ยังคงส่อเค้าปัญหาที่ยุ่งยากกำลังตามมาเมื่อคณะกรรมาธิการของอียูยื่นเงื่อนไขก่อนที่การเจรจารากระบวนการถอนตัวในช่วง 2 ปีนับจากนี้ อังกฤษจะต้องเคลียร์เงินค้างจ่ายจำนวน 6.4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่ออียูเสียก่อน โดยที่คณะกรรมาธิการของอียูได้เปิดประชุมเมื่อรับหนังสืออย่างเป็นทางการจากอังกฤษตามมาตร 50 ของสนธิสัญญาลิสบอน เมื่อค่ำคีนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การเจรจาอาจจต้องดำเนินการภายในกรอบเวลา 18 เดือนที่จะให้มีข้อตกลงที่ชัดเจน เพื่อที่อีก 6 เดือนที่เหลือจะต้องนำสู่การพิจารณารับรองจากรัฐสภาทั้งของอังกฤษและสหภาพยุโรป นอกจากนี้ หลายคนเชื่อว่าถึงแม้อังกฤษจะได้ยื่นถอนตัวเป็นทางการไปแล้ว แต่คาดว่าการเจรจาจะมีขึ้นอย่างจริงจังภายหลังการเลือกตั้งเยอรมันในเดือนกันยายนนี้

5.ขณะที่วงการแบงก์ต่างชาติในกรุงลอนดอนก็ตื่นตัวไม่แพ้รัฐบาลอังบาลอังกฤษ ในการวางแผนโยกย้ายบัญชีลูกค้าออกจากศูนย์กลางทางการเงินแห่งนี้ ให้ไปสู่แฟรงก์เฟิร์ต ปารีส หรือลักเซมเบิร์ก แทน เพื่อที่จะยังสามารถทำให้การชำระบัญชีดำเนินการได้ทั่วถึงในสภาพยุโรปต่อไป โดยทั้งโกลด์แมน แซคส์ และโนมูระ ได้ส่งหนังสือถึงพนักงานเตรียมการที่โยกย้ายฐานลูกค้าออกจากลอนดอน โดยยังไม่ได้พูดถึงเรื่องสถานะของพนักงานว่าจะมีอนาคตเป็นอย่างไรขณะที่มอร์แกน แสตนเลย์ กลับยังไม่เปิดเผยท่าทีใดๆ ในเรื่องดังกล่าวได้แต่บอกว่ายังไม่ได้มีการตัดสินใจในเรื่องผลกระทบจาก Brexit โดยมีรายงานข่าวเปิดเฝยว่า จากท่าทีต่างๆ น่าจะดำเนินการไปเพื่อไม่เกิดความแตกตื่นในกลุ่มพนักงาน จนกว่าว่าจ้อสรุปของการเจรจากระบวนการถอนตัวของอังกฤษจะปรากฎรายละเอียดชัดเจน

logoline